Page 274 - การพัฒนาเครื่องมือและกิจกรรมแนะแนวและการปรึกษาเชิงจิตวิทยา
P. 274
14-60 การพัฒนาเครื่องมือและกิจกรรมแนะแนวและการปรึกษาเชิงจิตวิทยา
ในการประเมิน ผู้ประเมินต้องพิจารณาข้อมูลเพื่อบรรยาย และต้องมีการศึกษาความสอดคล้อง
ระหว่างความค าดห วัง กับส ิ่งท ี่เกิดข ึ้นจริง และค วามส ัมพันธ์ระหว่างป ัจจัยเบื้องต ้น การป ฏิบัติ ผลลัพธ์ เมื่อ
ได้ผ ลอย่างไร แล้วจ ึงเปรียบเทียบกับมาตรฐานท ี่ก ำหนดไว้ และมาตรฐานท ี่ค าดว ่าจะเกิดขึ้น แล้วต ัดสินใจ
สเตค เสนอวิธีการประเมินในรูปของเมตริกซ์ (Matrix) สองประเภทคือ เมตริกซ์บรรยายและ
เมตริก ซ์ตัดสินค ุณค่า มีรายล ะเอียดดังต ่อไปนี้ (สรุปจ ากส มคิด พรมจุ้ย 2542: 48-49)
เมต ริกซ์บ รรยาย แบ่งอ อกเป็น 6 ช่อง คือ
ช่องท ี่ 1 หมายถึง ภาวการณ์ที่คาดหวังว่าต้องมีอยู่ก่อนที่การดำเนินงาน โครงการเกิดขึ้น
โดยถ ือว่าเป็นภ าวก ารณ์ท ี่เอื้ออ ำนวยให้เกิดผ ลดังท ี่คาดห วังไว้
ช่องท ี่ 2 หมายถึง กระบวนการณ์ที่เกิดขึ้นในการดำเนินงานตามความคาดหวังว่าจะเป็น
กร ะบวนก ารณ์ที่มีค ุณาภ าพ คือ ก่อให้เกิดผลต ามท ี่มุ่งหมายไว้
ช่องท ี่ 3 หมายถ ึง ผลลัพธ์ท ี่ค าดหวังว ่าจะได้รับห ลังการด ำเนินง าน
ช่องท ี่ 4 หมายถึง ปัจจัยเบื้องต ้นที่มีอ ยู่จริงก ่อนที่เริ่มโครงการณ์
ช่องท ี่ 5 หมายถึง กระบวนการดำเนินงานต ามที่ส ังเกตได้จริงจ ากโครงการ
ช่องท ี่ 6 หมายถึง ผลลัพธ์ท ี่เกิดขึ้นจริงๆ หลังจ ากโครงการจบแล้ว
ตั้งแต่ช ่อง 1 ถึง 6 ผู้ป ระเมินต้องพ ิจารณาข ้อมูลใน 2 แนวค ือ ได้แก่ ช่อง 1-2-3 และ 4-5-6
ซึ่งควรม ีความส ัมพันธ์ก ัน เพื่อด ูว่าปัจจัยเบื้องต ้นเอื้ออำนวยต ่อกระบวนการห รือไม่ในแนวนอน ได้แก่ 1-4,
2-5 และ 3-6 ต้องม ีความส อดคล้องก ัน ทั้งนี้เพื่อต ้องการต รวจส อบว่าข ้อมูลที่ได้การปฏิบัติจ ริงๆ ในแต่ละ
ส่วนตามแนวตั้งนั้น มีความสอดคล้องกับสิ่งที่คาดหวังไว้หรือไม่ประการใด และต้องมีการปรับปรุงใน
ส่วนใ ดบ้าง
เมื่อพ ิจารณาในแ นวต ั้งแ ละในแ นวน อนแ ล้วพ บว ่า มคี วามส ัมพันธแ์ ละสอดคล้องก ัน แสดงว ่า
โครงการนั้นเป็นโครงการที่บ รรลุผลตามที่คาดห วังเอาไว้
เมต รกิ ซก์ ารต ดั สนิ ค ณุ คา่ ในส ว่ นน ตี้ อ้ งม เี กณฑม์ าตรฐานเพือ่ พ จิ ารณาข อ้ มลู ท ไี่ ดจ้ ากเมตรกิ บ รรยาย
เกณฑ์มาตรฐานนี้อ าจม ีอ ยู่ก ่อนแ ล้วห รือต ั้งข ึ้นใหม่โดยค ณะก รรมการหรือผ ู้รับผ ิดช อบโครงการก็ได้ สำหรับ
ที่มาข องก ารต ัดสินใจค วรให้ผ ู้ป ระเมินม ีบ ทบาทค ือ ต้องส รุปอ อกม าให้ได้ว ่า โครงการท ี่ศ ึกษาม ีป ระสิทธิภาพ
มากน้อยเพียงใด หรือต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงที่จุดใด หรือมีปัญหาอะไรเป็นตัวเกื้อหนุน หรืออุปสรรค
ต่อโครงการ
1.1.3 แบบจ ำลองข องสตฟั เฟลิ บมี สตัฟเฟลิ บีม (Stufflebeam, 1977) และค นอ ื่นๆ (Stuffle-
beam and other, 1977) ได้เสนอแ บบจ ำลอง CIPP (Context-Input-Process-Product Mode) เพื่อก าร
ประเมินผลโครงการ
รูปแ บบข องก ารประเมินโดยใช้ห ลักของเหตุผ ลท ั่วๆ ไป อธิบายถึงห ลักความส ัมพันธ์ระหว่าง
การป ระเมินกับก ารตัดสินใจ และแ สดงให้เห็นว ่าก ระบวนการประเมินใดๆ ประกอบด้วยข ั้นต อน ดังนี้
(1) ขั้นตอนของการวิเคราะห์กิจกรรมและข้อมูลที่จะประเมินเสนอความต้องการเพื่อ
ตัดสินใ จ
ลิขสิทธข์ิ องมหาวทิ ยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธิราช