Page 17 - การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค
P. 17
แนวคิด หลักการและกลวิธิีของการป้องกันโรค 2-15
แผนโบราณทีละเล็กท ีล ะน้อย และประชาชนค่อยๆ เกิดความเชื่อถือศรัทธาม ากขึ้นเป็นลำดับ แต่เป็นความน ิยมที่ยัง
อยู่ในว งแคบๆ เพราะแพทย์ม ีจำกัด ยิ่งต ามชนบทด ้วยแ ล้ว การแ พทย์แ ผนปัจจุบันย ังไม่เป็นท ี่ล ่วงร ู้ของประชาชน
สำนักงานเผยแผ่ศาสนาของอเมริกันคณะเพรสไบทีเรียนได้เผยแพร่การแพทย์แผนปัจจุบันออกสู่ต่าง
จังหวัดค รั้งแรก ซึ่งออกไปตั้งส าขาที่จังหวัดเพชรบุรีใน พ.ศ. 2404 โดยมีศ าสนาจารย์เอส. จี. แมคฟาร์แ ลนด์ (S.G.
McFarland) และศาสนาจารย์ดาเนียลแมคกิลวารี (Daniel McGilvary) ออกไปปฏิบัติงาน แมคฟาร์แลนด์เป็น
บิดาของพระอาจวิทยาคมหรือนายแพทย์ยอร์ช แมคฟาร์แลนด์ ผู้เป็นอาจารย์ของแพทย์ไทยหลายรุ่น กล่าวกันว่า
เมื่อพ ระอาจวิทยาคมยังเยาว์ว ัยอ ยู่ได้เคยช่วยบ ิดาห ่อยาคว ินินแจกชาวบ้านท ี่จังหวัดเพชรบุรี
พ.ศ. 2410 การแ พทย์แ ผนปัจจุบันได้ขยายไปถ ึงจ ังหวัดเชียงใหม่ โดยศาสนาจารย์แมคกิลว ารี ผู้เป็นล ูกเขย
ของนายแพทย์บรัดเลย์นำไปเผยแพร่ และช่วยในการบำบัดโรคไข้จับสั่นและป้องกันโรคไข้ทรพิษอย่างเข้มแข็ง
โดยใช้ยาควินินและหนองฝีที่ได้รับจากนายแพทย์บรัดเลย์ ผู้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังอีกผู้หนึ่งคือ นายแพทย์แมคเคน
(James W. Mckean) งานสำคัญของท ่านคือ การจัดตั้งสถานค วบคุมโรคเรื้อนแ ห่งแ รกในประเทศไทย นอกจากน ี้
ในการควบคุมไข้จับสั่น นายแพทย์แมคเคนเป็นผู้นำเครื่องจักรท ำยาเม็ดเข้ามาผลิตยาควินินเม็ดเพื่อแจกจ่ายให้แก่
ราษฎร และยังเป็นผ ู้ต ั้งส ถานผลิตภัณฑ์ห นองฝีข ึ้นในจังหวัดเชียงใหม่อีกด้วย
วิวัฒนาการข องก ารแ พทยแ์ ผนป ัจจุบันไดด้ ำเนินก ารโดยค ณะเผยแผค่ ริสตศ์ าสนาน ิกายโปรเตสแตนตต์ ั้งแต่
พ.ศ. 2371-2424 เป็นเวลาประมาณ 40 ปี แม้ว่าจะส่งผลไปถึงประชาชนในชนบทหรือในส่วนภูมิภาคได้ไม่มากนัก
แต่อาจกล่าวได้ว่า คณะเผยแผ่ศ าสนาคริสต์นี้มีอ ิทธิพลก่อให้เกิดระบบง านสาธารณสุขในประเทศไทยในยุคต่อมา
การด ำเนินง านส าธารณสุขโดยท างร าชการน ั้นจ ากจ ดหมายเหตุต ่างๆ ทั้งท ี่เป็นข องท างร าชการแ ละข องบ ุคคล
นอกวงราชการ ปรากฏว่า เริ่มเป็นรูปเป็นร่างในรัชสมัยของสมเด็จพระปิยมหาราช โดยเริ่มด้วยการจัดตั้ง “คณะ
กรรมการจ ัดการโรงพยาบาล” เพื่อสร้างโรงพ ยาบาลท ี่ว ังห ลัง ธนบุรี หรือศิริราชพ ยาบาล เมื่อ พ.ศ. 2429 ภายหลัง
ก่อสร้างแล้วเสร็จ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้คณะกรรมการชุดนี้พ้นจากหน้าที่ และจัดตั้งกรมพยาบาลขึ้นแทน
เมื่อวันท ี่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2431 และโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าศ รีเสาวภ างค์ เป็นอธิบดีบังคับ
การกรมพยาบาล มีหน้าที่ควบคุมกิจการฝึกอบรมนักเรียนแพทย์และการบริหารของศิริราชพยาบาล และควบคุม
ดูแลกิจการของโรงพยาบาลอื่นที่มีอยู่แล้วในขณะนั้น ตลอดจนการปลูกฝีให้แก่ประชาชน ฉะนั้นอาจถือได้ว่า
พ.ศ. 2431 เป็นการเริ่มศักราชใหม่ของการแพทย์และการสาธารณสุขแ ผนป ัจจุบันในประเทศไทย
ยุคท่ี 3
ตั้งแต่ พ.ศ. 2475 จนถึงปัจจุบันเป็นยุคที่การแพทย์แผนปัจจุบันเริ่มมีวิวัฒนาการ โดยมีเป้าหมายให้
สอดคล้องกับนโยบายและแผนพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ การแพทย์ในยุคนี้เป็นยุคที่การบริหาร
ประเทศด ำเนินไปตามระบอบประชาธิปไตย ในระยะ 10 ปีแรกข องยุคนี้ค ือ ตั้งแต่ พ.ศ. 2475-2485 กรมส าธารณสุข
ยังค งสังกัดอยู่ในกระทรวงม หาดไทย และไม่มีก ารเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่เห็นได้ชัด นอกจากได้ม ีการข ยายงานเทศบาล
การจัดตั้งโรงพยาบาลในส่วนภูมิภาคและการขยายงานบริการสู่ชนบทเพิ่มขึ้น โดยสร้างสุขศาลาชั้น 2 หรือสถานี
อนามัยช ั้น 2 เพิ่มเติมจากโอสถส ภาเดิมซ ึ่งต ่อม าได้เปลี่ยนชื่อเรียกเป็น สุขศาลาช ั้น 1 และ สุขศาลาช ั้น 2 สำหรับ
ก ารจัดสร้างนั้น ได้ใช้เงินบ ริจาคในท ้องถ ิ่นส่วนหนึ่ง และร ัฐบาลออกสมทบให้อีกส่วนห นึ่ง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ พระองค์ทรงเล็งเห็นถึงความสำคัญในการป้องกันโรคเป็น
อย่างยิ่ง โดยใน พ.ศ. 2493 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทาน
พระราชทรัพย์ จำนวน 500,000 บาท เพื่อใช้สร้างอาคาร “มหิดลวงศานุสรณ์” ในบริเวณสถานเสาวภา สำหรับใช้
ลขิ สิทธิข์ องมหาวิทยาลยั สุโขทยั ธรรมาธริ าช