Page 20 - การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค
P. 20
2-18 การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค
เรื่องท่ี 2.1.4
ทฤษฎที เ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การเกดิ โรคแ ละพ ฤตกิ รรมส ขุ ภาพเพอ่ื ก ารปอ้ งกนั โรค
วิวัฒนาการของกรอบแนวคิดของการเกิดโรคที่อาจจัดเป็นทฤษฎีเกี่ยวกับการเกิดโรคแบ่งเป็น 4 ยุค เริ่ม
จากแนวคิดเกี่ยวกับมลพิษในยุคสถิติทางสุขาภิบาล แนวคิดของทฤษฎีเชื้อโรคของโรคในยุควิทยาการระบาดของ
โรคติดต่อ แนวคิดแบบกล่องดำในยุคของวิทยาการระบาดของโรคเรื้อรัง และแนวคิดแบบกล่องชาวจีนในยุคของ
วิทยาการร ะบาดของโรคเรื้อรัง
1. ทฤษฎที เ่ี กยี่ วก บั ก ารเกิดโรค
แนวคิดเรื่องก ารเกิดโรคม ักม ีอ ิทธิพลม าจ ากก ารศ ึกษาทางร ะบาดวิทยา ซึ่งม ีห ลายแ นวคิด เหตุการณ์ส ำคัญ
ในการเผชิญกับสภาพความเป็นอยู่ที่แร้นแค้นและทุกข์ของประชาชนในประเทศอังกฤษในศตวรรษที่ 19 อันเป็น
ผลมาจากการพัฒนาประเทศไปสู่เศรษฐกิจแบบอุตสาหกรรมและการเติบโตอย่างรวดเร็วของเมืองใหญ่ ทำให้เกิด
โรคต่างๆ มากมายทั้งโรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อ ทำให้เกิดแนวคิดที่มีวิวัฒนาการมาเป็นทฤษฎีหรือแนวคิดที่
สำคัญตามล ำดับ ได้แก่ ทฤษฎีเกี่ยวก ับมลพิษ (Miasma) ทฤษฎีเชื้อโรค (Germ Theory) ทฤษฎีกล่องดำ (Black
Box Theory) และท ฤษฎีก ล่องชาวจีน (Chinese Box Theory)
1.1 ทฤษฎีเก่ียวกับมลพิษ (Miasma) มาจากคำภาษากรีซที่แปลว่า มลพิษ (Pollution) ซึ่งหมายถึงอากาศ
เป็นพ ิษ (Bad Air) เป็นไอหรือล ะอองที่เป็นพ ิษพร้อมด้วยอ นุภาคจากส ารที่ย่อยสลายได้ (Miasmata) ซึ่งทำให้เกิด
โรคที่พบจากกลิ่นเหม็น Miasmatic Theory of Disease เป็นทฤษฎีของนักสุขาภิบาลที่เป็นที่สนใจกันเป็นอย่าง
มากในช่วงยุคกลางคือ ศตวรรษที่ 19 ซึ่งใช้อธิบายการระบาดของอหิวาตกโรคในกรุงลอนดอนและกรุงปารีสที่มี
การแพร่กระจายของโรคจากอากาศที่เป็นพิษ ซึ่งเชื่อกันว่า สามารถป้องกันได้โดยการทำความสะอาดและขัดถู
ร่างกายได้ ดร. วิลเลียม ฟารร์ (William Farr) ในช่วงปี ค.ศ. 1851 เป็นผู้สนับสนุนที่สำคัญของทฤษฏีนี้ ข้อมูล
สถิติทางสุขาภิบาลได้แสดงตัวเลขการเจ็บป่วยและการตายในแหล่งสลัมของเมืองใหญ่หลายแห่งในประเทศ
อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี สแกนด ิเนเวีย และส หรัฐอเมริกา จากส ถานการณ์ในสลัมเหล่าน ี้ทำให้เกิด สมมติฐานของ
นักสุขาภิบาลที่เกี่ยวกับมลพิษว่า การเกิดความเป็นพิษอาจเกิดจากการปลดปล่อยความสกปรกออกมาจากดิน น้ำ
และอากาศที่ล้อมรอบตัว ซึ่งเป็นสาเหตุทางสภาพแวดล้อมที่ทำให้เกิดอาการของการเจ็บป่วยและการตายมากมาย
สถิติทางสุขาภิบาลนี้ที่ได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐานนั้นส่วนใหญ่มักเกี่ยวข้องกับการป่วยและการตายโดยรวม
มากกว่าการเกิดโรคใดโรคหนึ่ง ในประเทศอังกฤษ วิลเลียม ฟารร์ได้เริ่มใช้การจำแนกก ารว ินิจฉัยจำเพาะโรคสำหรับ
รวบรวมสถิติการต ายข องประชาชนในประเทศใน ค.ศ.1839
การจัดให้มีระบบการระบายน้ำเสียและน้ำโสโครกแบบปิด เสริมด้วยการเก็บขยะ ความสะอาดของสถาน
ที่อาบน้ำสาธารณะ และการจัดบ้านเรือนล้วนเป็นวิธีการแก้ไขซึ่งจะกำจัดมลพิษให้หมดไป ลดการตายและการป่วย
ของผู้คนในแหล่งสลัมลง และขจัดความรู้สึกในความยากจนของคนจนที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่/เมืองใหม่ ผู้สนับ
สนุนนวัตกรรมเหล่านี้ท ี่สำคัญที่สุดคือ เอ็ดว ิน แชดว ิค (Edwin Chadwick) ซึ่งเป็นนักปฏิรูปทางส ังคมที่ส นับสนุน
ว่า โรคเกิดข ึ้นจากส ภาพแวดล้อมท างกายภาพที่เป็นสาเหตุข องความย ากจน ฟรีดริช เอ็งเจิลส์ (Friedrich Engels)
ซึ่งเป็นนักปฏิวัติทางการเมืองได้บันทึกการเจ็บป่วยของคนงานโรงงานในแมนเชสเตอร์ และให้ความคิดเห็นว่า
ความยากจนเป็นสาเหตุมากกว่าจะเป็นผลที่เกิดจากการเจ็บป่วย แต่ทั้งแชดวิคและเอ็งเจิลส์ต่างเห็นพ้องกันว่า
ลิขสิทธิ์ของมหาวทิ ยาลัยสุโขทยั ธรรมาธิราช