Page 21 - การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค
P. 21
แนวคิด หลักการและกลวิธิีของการป้องกันโรค 2-19
ประเด็นเหล่าน ี้เกี่ยวข้องก ับป ระชากรโดยรวมและม าตรการที่เหมาะสมส ำหรับการแก้ป ัญหาการเจ็บป ่วยและก ารต าย
นั้นต ้องด ำเนินก ารในประชากรก ลุ่มต่างๆ
คุณคา่ ท างส าธารณสุขแ ละท างส งั คมข องผ ู้นำท างการส ุขาภบิ าลท ำใหเ้ ริม่ ม กี ารศ กึ ษาท างส ถติ เิ กีย่ วก บั ป ระเทศ
และเกี่ยวกับข ้อมูลที่ตรงกับป ัญหาสุขภาพ หลุยส์ เรเน วิลแลร์แม (Louis Rene Villerme) ในประเทศฝ รั่งเศส และ
วิลเลียม ฟารร์ในประเทศอังกฤษ มีความเกี่ยวข้องกับการเริ่มใช้ตัวเลขเกี่ยวกับวิทยาการระบาดตามที่เป็นที่รู้จักกัน
จนทุกวันนี้ ทั้งสองท่านนี้ทำให้การสาธารณสุขมีความก้าวหน้าในการใช้ข้อมูลตัวเลขทางวิทยาการระบาด นักระบาด
วิทยาซ ึ่งเรียนร ู้ด้วยตนเองส ่วนใหญ่ม ักเป็นผ ู้ได้ร ับการย กย่องท างการแพทย์ในยุคนี้
ความก้าวหน้าทางจุลชีววิทยาทำให้กรอบแนวคิดเกี่ยวกับมลพิษจบลง และนำไปสู่การสิ้นสุดของยุคของ
สถิติทางสุขาภิบาล แม้ว่า นักสุขาภิบาลจะม ีความเข้าใจผ ิดเกี่ยวกับท ฤษฎีการป ลดปล่อยสิ่งสกปรกว ่าเป็นส าเหตุข อง
การเกิดโรค แต่นักสุขาภิบาลได้แสดงให้เห็นถึงวิธีและสถานที่ที่ทำการค้นหาสาเหตุต่างๆ ของการเกิดโรคในแง่ของ
ตัวเลขของการป่วยและการตาย การปฏิรูปทางสังคมที่นักสุขาภิบาลเหล่านี้ได้ทำทำให้ประสบผลสำเร็จในระบบ
การระบายน้ำเสีย น้ำโสโครก น้ำบริโภค และการสุขาภิบาลนั้น ได้นำไปสู่การปรับปรุงที่สำคัญในสภาวะสุขภาพข อง
ประชาชน
1.2 ทฤษฎเีชอ้ื โรค (Germ Theory) ใน ค.ศ.1840 เจค็อ บ เฮนเล (Jakob Henle) ได้ตีพ ิมพ์ค ำอธิบายโดย
ละเอียดเกี่ยวกับแนวคิดหรือทฤษฎีที่มีเหตุผลสนับสนุนเป็นอย่างมาก ซึ่งมีสมมติฐานว่า การติดเชื้อจุลินทรีย์ที่มี
ขนาดเล็กเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรค จอห์น สโนว์ (John Snow) ระหว่าง ค.ศ.1849 ถึง 1854 ได้วิเคราะห์
เกี่ยวกับสาเหตุของโรคอหิวาต์จากสิ่งมีชีวิต และความก้าวหน้าของผลงานของสโนว์ กับข้อเสนอของเฮนเล ได้เกิด
ขึ้นมา 25 ปีก่อนที่เฮนเลจะพิสูจน์ให้เห็นว่า ไม่ผิด หลุยส์ ปาสเตอร์ (Louis Pasteur) ได้แสดงให้เห็นว่า สิ่งมีช ีวิต
ขนาดเล็กเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดโรคระบาดที่มีผลเสียต่อหนอนไหม ซึ่งผลงานของปาสเตอร์ดำเนินไปจนถึง ค.ศ.1865
มีการศึกษาการติดเชื้อและการติดต่อของโรคที่เกิดในมนุษย์ที่ดำเนินต่อมา เช่น วัณโรค แอนแทรกซ์ โรคเรื้อน
เป็นต้น ในที่สุดใน ค.ศ.1882 โรเบิร์ต ค็อกช์ (Robert Koch) ซึ่งเป็นนักศึกษาคนหนึ่งของเฮนเลได้พบว่า เชื้อ
ไมโครแบคทีเรียม (Mycobacterium) เป็นสาเหตุของวัณโรค ซึ่งเฮนเล สโนว์ ปาสเตอร์ และค็อกช์ต่างมีทรรศนะ
ที่เห็นต รงกัน
สโนว์ และค็อ กช์ต ่อสู้กับปัญหาส าธารณสุขที่ร้ายแรงมากในสมัยน ั้น แม้ว่า เฮนเล ยังไม่มีวิธีการจัดการกับ
ปัญหาสาธารณสุข และปาสเตอร์เริ่มดำเนินงานแก้ปัญหาด้านการค้าจากโรคซึ่งคุกคามอุตสาหกรรมไหม การเพาะ
ปลูกองุ่นและการทำเหล้าองุ่น สโนว์ และค็อกช์แสดงเจตนารมณ์และมีมุมมองทางสาธารณสุขในการป้องกันโรค
กรอบแนวคิดใหม่ของโรคซึ่งเกิดขึ้นตามมาจากงานของพวกเขาคือ ทฤษฎีเชื้อโรคของโรค (Germ Theory of
Disease) หรือทฤษฎีพยาธิส ภาพท างการแ พทย์ (Patogenic Theory of Medicine) ซึ่งในท ี่สุดน ำไปส ู่วิธีการศ ึกษา
สาเหตุจำเพาะของโรคในห้อง ปฏิบัติการ (A Specific Cause Model) นั่นคือ สิ่งก่อโรคสิ่งหนึ่งเกี่ยวข้องกับโรค
หนึ่งโดยเฉพาะ (Single agents relating one to one to specific diseases) ทฤษฎีนี้เสนอว่า จุลินทรีย์เป็น
สาเหตุของโรคหลายโรค ลีเวนฮุค (Anton van Leeuwenhoek) ที่ค้นพบจุลินทรีย์และได้รับการแต่งตั้งเป็นบิดา
ของวิชาจุลชีววิทยา (Microbiology) จอห์น สโนว์ (John Snow) มีส่วนร่วมเป็นอย่างมากในการก่อตั้งทฤษฎีนี้
เมื่อเขาติดตามแหล่งการระบาดของอหิวาตกโรคใน ค.ศ. 1854 ที่ย่านโซโห (Soho) ในกรุงลอนดอน ซึ่งเขาพบว่า
น้ำด ื่มเป็นแ หล่งสำคัญในการแพร่กระจายโรค
ทฤษฎีเชื้อโรคและมุมมองเกี่ยวกับสาเหตุจำเพาะของโรคที่เป็นผลมาจากทฤษฎีนี้มีความสำคัญเหนือ
วิทยาศาสตร์ทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ทางสาธารณสุขนับตั้งแต่ช่วงสุดท้ายของศตวรรษที่ 19 ไปจนถึงกลาง
ศตวรรษที่ 20 สิ่งก่อโรคสิ่งหนึ่งได้รับการค้นหาโดยการแยกเชื้อและการเพาะเชื้อจุลินทรีย์จากตำแหน่งที่เกิดโรค
ลิขสิทธ์ิของมหาวิทยาลัยสุโขทยั ธรรมาธิราช