Page 26 - การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค
P. 26
2-24 การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค
น้อยล งไปด ้วย โรเจอร์น ำ 4 องค์ป ระกอบ ข้างต ้นมาสรุป รวมเป็นกระบวนก ารร ับรู้ 2 แบบค ือ 1) การป ระเมินความ
น่ากลัวต่อส ุขภาพ (Threat Appraisal) ประกอบด้วยองค์ประกอบก ารร ับร ู้ความร ุนแรงและก ารร ับร ู้โอกาสเสี่ยงต ่อ
ก ารเปน็ โรค และ 2) การป ระเมินก ารท นร ับส ถานการณ์ (Coping Appraisal) ประกอบด ว้ ย องคป์ ระกอบค วามค าดห วัง
ในประสิทธิผลของการตอบสนอง และความคาดหวังในประสิทธิผลตนเอง กระบวนการรับรู้ทั้ง 2 แบบนี้ได้รับ
อิทธิพลจากแหล่งข้อมูลข่าวสารคือ สิ่งแวดล้อม การพูดชักชวน การเรียนรู้จากการสังเกต และลักษณะของบุคคล
(บุคลิกและประสบการณ์) ทำให้เกิดความตั้งใจจะป ฏิบัติ และนำไปสู่ก ารป ฏิบัติ การป ระเมินความน ่ากลัวต่อสุขภาพ
เป็นการประเมินปัจจัยที่เพิ่มหรือลดความน่าจะเป็นในการทำให้เกิดการตอบสนองที่ไม่เหมาะสม กิจกรรมของ
การตอบสนองที่ไม่เหมาะสมอาจเป็นพฤติกรรม เช่น เริ่มต้นสูบบุหรี่ การเริ่มกินลูกอม เป็นต้น หรือพฤติกรรมที่
พบในปัจจุบัน เช่น ไม่ใส่เข็มขัดน ิรภัย เป็นต้น ตัวแปรที่เพิ่มโอกาสของการตอบสนองท ี่ไม่เหมาะสมคือ รางวัลจาก
ภายใน (Intrinsic Rewards) เช่น ความสุขทางกาย เป็นต้น และร างวัลจากภายนอก (Extrinsic Rewards) เช่น
ยอมรับจากสังคม เป็นต้น ปัจจัยที่ลดโอกาสที่จะเกิดการตอบสนองไม่เหมาะสมคือ การประเมินอันตราย การรับรู้
อันตรายและการรับรู้ความน่ากลัวของอันตราย การกระตุ้นด้วยความกลัวมีอิทธิพลต่อการรับรู้ความน่ากลัว แต่มี
อิทธิพลทางอ้อมต่อการแสดงพฤติกรรมที่เป็นจริง โดยสรุปการประเมินความน่ากลัวเป็นผลรวมของตัวแปรเหล่านี้
ซึ่งจะเพิ่มหรือลดโอกาสในการแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ในการวิเคราะห์ความน่ากลัว บุคคลจะประเมิน
การท นต ่อส ถานการณ์ ซึ่งป ระกอบด้วยบ างส ่วนของประสิทธิผลหรือการต อบสนองทางป ้องกัน ซึ่งจ ะก ระตุ้นการร ับรู้
ถึงความน่ากลัว (ประสิทธิผลของการตอบสนอง) ร่วมกับการวิเคราะห์ความสามารถเริ่มต้นและทำให้สมบูรณ์
ได้ (ประสิทธิผลของตนเอง) องค์ประกอบของประสิทธิผลของตนเองนั้น เป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยให้การหลีกเลี่ยง
สถานการณ์ ที่น่ากลัวเป็นไปได้
ลักษณะสำคัญข องท ฤษฎีแ รงจูงใจในก ารป้องกันโรคคือ การแสดงอ ำนาจในการค วบคุมตนเอง ซึ่งแตกต่าง
จากทฤษฎีกลุ่มความคาดหวัง และค่านิยมอื่นๆ ซึ่งจะให้ผลเกี่ยวพันที่สำคัญคือ ทฤษฎีนี้จะให้ทางเลือกต่อ
พฤติกรรมสุขภาพ ตัวอย่างเช่น ในกรณีที่ตัวแปรต่างๆ ที่ทำให้เกิดพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่เหมาะสมนั้น ไม่เพียงพอ
ที่จะจูงใจให้เกิดการป้องกันโรคแล้ว จะต้องให้บุคคลมีความเชื่อในตัวเอง เพื่อให้กิจกรรมป้องกันดำเนินไปได้
แต่ต ้องร ะลึกไว้ว ่า ในท างท ฤษฎีแ ล้ว ความร ู้สึกในป ระสิทธิผลข องต นเองจ ะแ ยกจ ากอ งค์ป ระกอบด ้านอ ุปสรรค แต่ใน
เชิงปฏิบัติบุคคลที่มีความรู้สึกของประสิทธิผลของตนเองสูง จะช่วยให้ผ่านพ้นอุปสรรค (เช่น ความไม่สบาย
ราคาแพงของการรักษาโรค เป็นต้น) ต่างๆ เหล่านี้ได้ ในขณะที่บุคคลที่มีความรู้สำนึกในประสิทธิผลของตนเองต่ำ
จะถูกอุปสรรคเหล่านี้ ครอบงำ ประสิทธิผลของตนเองมีอิทธิพลไม่เพียงแต่ทำให้เกิดการเริ่มต้นการตอบสนองและ
ก ารทนร ับสถานการณ์ แต่ย ังเกี่ยวข้องกับพลังท ี่ใช้และความอดทนของบุคคลเมื่อต ้องเผชิญห น้าก ับอุปสรรค
การวัดผลประสิทธิผลของการตอบสนอง และประสิทธิผลของตนเองเป็นปัจจัยที่เพิ่มโอกาสที่จะทำให้เกิด
การตอบสนองที่เหมาะสม ลดโอกาสเรื่องความรู้สึกว่า ค่าใช้จ่ายของการตอบสนองสูง ขึ้นค่าใช้จ่ายการตอบสนอง
(Response Cost) เช่น ความไม่สะดวกสบาย ค่าใช้จ่าย การไม่มีความสุข ความยุ่งยาก ผลข้างเคียง สิ่งที่รบกวน
ชีวิตประจำวัน เป็นต้น การประเมินการทนรับสถานการณ์นั้น เกิดจากผลรวมของประสิทธิผลของการตอบสนอง
และประสิทธิผลของตนเอง หักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการตอบสนองที่เหมาะสม ผลรวมของการประเมินความ
น่ากลัว และการทนรับสถานการณ์จะทำให้เกิดแรงจูงใจในการป้องกันจากลักษณะที่เป็นตัวแปรที่เข้าแทรกแซง
การปฏิบัติแรงจูงใจเพื่อป้องกันโรค ซึ่งจะเริ่มประคับประคองและชี้นำให้เกิดพฤติกรรมการตอบสนองของการทน
รับสถานการณ์ที่เกิดจากแรงจูงใจเพื่อการป้องกันโรค อาจเป็นการแสดงพฤติกรรม (เช่น เริ่มออกกำลังกาย เริ่ม
แปรงฟันอย่างสะอาด เป็นต้น) หรือเป็นการหยุดการกระทำ (เช่น หยุดการสูบบุหรี่ หยุดการกินของหวาน เป็นต้น)
ในฐานะที่เป็นตัวแปรที่เข้าแทรกแซงการปฏิบัติ แรงจูงใจเพื่อการป้องกันโรคอาจวัดได้หลายวิธี แต่จากสมมุติฐาน
ลขิ สทิ ธ์ิของมหาวิทยาลัยสโุ ขทัยธรรมาธิราช