Page 30 - การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค
P. 30
2-28 การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค
จากตารางที่ 2.2 จะเห็นได้ว่า การป้องกันโรคตามแนวทางของศูนย์มะเร็งคาลิฟอร์เนียเหนือเน้นหนักเป็น
4 ระดับโดยพิจารณาด้านผู้ป่วยที่มีการเจ็บป่วย และด้านแพทย์ที่พิจารณาการเป็นโรค การป้องกันโรคระดับต่างๆ
ทั้ง 4 ระดับเป็นสิ่งจ ำเป็นในก ารทางส าธารณสุข เพื่อที่จ ะหยุดย ั้งการเจ็บป่วยแ ละก ารม ีโรคข องประชากร
1. การป้องกันระดับปฐมภูมิ (Primary Prevention) เป็นกิจกรรมที่ดำเนินการเพื่อป้องกันโรค และ
การเจ็บป่วย ป้องกันสุขภาพของประชาชนทั้งในระดับปัจเจกบุคคลและระดับชุมชน เกี่ยวข้องโดยตรงกับโฮสต์เพื่อ
เพิ่มความต้านทานต่อสิ่งที่ทำให้เกิดโรค เช่น การให้ภูมิคุ้มกัน หรือการหยุดสูบบุหรี่ เป็นต้น หรืออาจเกี่ยวข้อง
โดยตรงกับกิจกรรมในสิ่งแวดล้อมที่อาจก่อให้เกิดสภาวะที่เหมาะสมกับเวคเตอร์ของสิ่งที่ทำให้เกิดโรคทางชีวภาพ
เช่น เวกเตอร์ของย ุงท ี่นำมาลาเรีย หรือโรคไข้เลือดออก เป็นต้น ตัวอย่างข องมาตรการ เช่น การส ร้างเสริมภ ูมิคุ้มกัน
ในเด็กเกี่ยวกับบาดทะยัก ไอกรน และคอตีบ การเติมคลอรีนในน้ำดื่มเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคทางเดิน
อาหารที่เกิดจากน้ำ การสวมเข็มขัดนิรภัยขณะขับรถยนต์เพื่อป้องกันการบาดเจ็บและการตายในท้องถนน เป็นต้น
การป้องกันระดับปฐมภูมิยังรวมถึงการจัดกิจกรรมภายในระบบสุขภาพที่นำไปสู่สุขภาพที่ดีขึ้น เช่น การกำหนด
มาตรฐานและทำให้มั่นใจว่า แพทย์ไม่เพียงแต่ได้รับทราบถึงการให้ภูมิคุ้มกันที่เหมาะสมและการดูแลก่อนคลอด
สมัยใหม่แต่ยังตระหนักถึงบทบาทในการป้องกันโรคระบบหลอดเลือดสมอง หลอดเลือดหัวใจ และโรคอื่นๆ เช่น
มะเร็งปอด เป็นต้น ซึ่งบทบาทนี้ผู้ให้บริการทางสุขภาพให้บริการเหมือนเป็นครู ผู้แนะนำ ผู้วินิจฉัยและผู้รักษา
ซ่ึงเหมือนกับการส่งเสริมสุขภาพที่การป้องกันโรคระดับปฐมภูมิไม่ได้ขึ้นกับแพทย์อย่างเดียว แต่ข้ึนกับสติ
สัมปะชัญญะของแต่ละคนในการดูแลตนเองโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพิ่มความตระหนักและระดับข้อมูลและ
การสร้างพลังสุขภาพของแ ต่ละบ ุคคลและชุมชนเพื่อพัฒนาการด ูแลตนเองในก ารล ดป ัจจัยเสี่ยง และเพื่อการให้มีวิถี
ชีวิตที่ม ีสุขภาพดีข ึ้น ในทางว ิทยาการร ะบาดวัตถุประสงค์ข องการป้องกันโรคระดับปฐมภ ูมิ ได้แก่ การล ดอ ุบัติการณ์
ของโรคแ ละความผ ิดป กติท างส ุขภาพ เช่น การให้ว ัคชีนป้องกันโรคโปลิโอในเด็ก เป็นต้น
มาตรการในการป้องกันระดับปฐมภูมิแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มแรกเป็นการดำเนินการเพื่อปกป้องโรค
และความพิการ เช่น การให้ภูมิคุ้มกัน การให้บริการน้ำดื่มที่สะอาดปลอดภัย การให้บริการทางทันตกรรมเพื่อ
ป้องกันฟันผุ เป็นต้น และเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ เช่น การออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอาชีวอนามัยและความ
ปลอดภัย เพื่อป้องกันการบาดเจ็บและเจ็บป่วยจากการทำงาน เป็นต้น กลุ่มท่ีสองเป็นการส่งเสริมสุขภาพที่รวม
กิจกรรมที่เก่ียวข้องกับวิถีการดำเนินชีวิตที่ทำให้มีสุขภาพดี เช่น โภชนาการที่ดี มีการออกกำลังกาย การพักผ่อน
การหลีกเลี่ยงความเสี่ยงทางสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ เป็นต้น แต่เดิมในอดีตการป้องกันโรคระดับปฐมภูมิเน้น
โรคติดต่อโดยการปรับปรุงเรื่องการให้บริการน้ำดื่มและอาหารที่สะอาด และการให้ภูมิคุ้มกัน ปัจจุบันการป้องกัน
โรคระดับปฐมภูมิเน้นโรคเรื้อรังด้วย เช่น โรคหัวใจ มะเร็ง เบาหวาน เป็นต้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทายในการพิจารณา
การเปลี่ยนแปลงพ ฤติกรรมสุขภาพที่หันม าเน้นก ารเปลี่ยนแปลงร ูปแบบวัฒนธรรมท ี่ม ีผลต ่อพฤติกรรมร่วมด ้วย
2. การปอ้ งกันโรคร ะดบั ท ตุ ิยภ ูมิ (Secondary Prevention) มีเป้าห มายเพื่อระบุและคน้ หาโรคในช ่วงร ะยะ
แรกก่อนท่ีจะมีการพัฒนาอาการของโรคจนสังเกตได้ เพื่อทำให้การรักษาประสบผลสำเร็จ จากการค้นหาและ
การวินิจฉัยในระยะแรกทำให้สามารถรักษาโรค บริหารจัดการเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนและความพิการจาก
การเกิดโรคได้ อีกเป้าหมายหนึ่งของการป้องกันโรคระดับทุติยภูมิคือ การดำเนินการทางสาธารณสุขเพื่อป้องกัน
การแพร่กระจายของโรคติดต่อ รวมถึงการค้นหาแหล่งโรคและการดำเนินการของขั้นตอนท่ีจะหยุดยั้งโรค
การป้องกันโรคระดับทุติยภูมิรวมถึงขั้นตอนเพื่อแยกผู้ป่วยและรักษาหรือให้ภูมิคุ้มกันเพื่อป้องกันไม่เกิดการระบาด
ของผู้ป่วยสมองอักเสบหรือหัด โปรแกรมการยับยั้งการใช้เข็มฉีดยาร่วมกันของผู้เสพสารเสพติด การกระจาย
ถ งุ ย างอ นามยั แ กว่ ยั ร ุน่ ผเู้ สพส ารเสพต ดิ แ ละผ ปู้ ระกอบอ าชพี พ เิ ศษเพือ่ ป อ้ งกนั ก ารแ พรก่ ระจายต ดิ ตอ่ ท างเพศส มั พนั ธ์
และโรคเอดส์ในเด็กนักเรียนหรือนักศึกษา ผู้ให้บริการสุขภาพทุกคนมีบทบาทในการป้องกันโรคระดับทุติยภูมิ เช่น
ลิขสิทธิ์ของมหาวทิ ยาลัยสโุ ขทยั ธรรมาธิราช