Page 31 - การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค
P. 31
แนวคิด หลักการและกลวิธิีของการป้องกันโรค 2-29
การป้องกันโรคที่ดำเนินการในเด็กที่ไม่ได้รับการรักษาการติดเชื้อสเตรปโตคอคคัส (Streptococcus) ที่คอซึ่งอาจ
ทำให้เกิดโรคแ ทรกซ้อนท ี่เป็นอันตรายแ ละมีผลต ่อช ีวิตคือ โรคห ัวใจรูมาติก (Rheumatic Heart Disease) และไต
อักเสบ (Glomerulonephritis) การป ้องกันห ลอดเลือดส มองต ีบโดยก ารให้การด ูแลอ ย่างเนิ่นๆ และเพียงพ อในผ ูป้ ่วย
ความดันโลหิตสูง เมื่อพบว่า ผู้ป่วยมีความดันโลหิตสูงขึ้นควรได้รับคำแนะนำให้ดูแลอย่างต่อเนื่องด้วยอาหารที่
เหมาะสม และถ้าอ้วนให้ลดน้ำหนัก ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และการได้รับยาระยะยาว พร้อมกับการติดตาม
การรักษาอย่างสม่ำเสมอ จากผู้ดูแลสุขภาพเพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดสมองและอาการแทรก
ซ้อนอื่นๆ เป็นต้น ในกรณีที่มีการบาดเจ็บ การดูแลแบบฉุกเฉิน การเคลื่อนย้ายอย่างปลอดภัย และการดูแล
การบาดเจ็บที่ดีอาจลดโอกาสการตาย และ/หรือการพิการอย่างถาวร การตรวจคัดกรอง เช่น การตรวจมะเร็ง
ปากมดลูกประจำปี เป็นต้น และการดูแลอย่างมีคุณภาพในชุมชนเพื่อป้องกันโรคแทรกของโรคเบาหวาน รวมทั้ง
หัวใจ ไต ดวงตา และโรคของระบบหมุนเวียนโลหิต การป้องกันโรคระดับทุติยภูมิคล้ายกับการป้องกันโรคระดับ
ปฐมภูมิที่ดำเนินการโดยผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพ หน่วยงานและองค์กรทางสาธารณสุข เช่น แพทย์
พยาบาล นักการสาธารณสุข เป็นต้น ระบบดูแลสุขภาพต้องการการป้องกันโรคระดับทุติยภูมิไม่เพียงแต่การให้
บริการของแพทย์แต่ละคน แต่ยังรวมถึงระบบการดูแลสุขภาพที่ได้รับการจัดการที่ดีด้วย งานสาธารณสุขได้
ผลประโยชน์อย่างมากจากการสนับสนุนการดูแลสุขภาพที่มีคุณภาพของโรงพยาบาลที่ให้บริการระดับทุติยภูมิและ
ตติยภูมิ บทบาทของการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่มีคุณภาพและสิ่งอำนวยความสะดวกในการดูแลผู้ป่วยในภาวะฉุกเฉิน
ของโรงพยาบาลเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันโรคในระยะยาวและความพิการเพื่อที่ว่า ระบบการดูแลทางหัวใจเป็น
องค์ประกอบที่สำคัญของนโยบายการดูแลสุขภาพและการกระจายทรัพยากรไม่เพียงแต่ในเมืองหลวงแต่ต้องรวมถึง
ประชาชนในภาคต่างๆ ด้วยโดยสรุปวัตถุประสงค์ของการป้องกันโรคระดับทุติยภูมินี้คือ ลดความถี่ของโรคและ
ความผ ิดป กติโดยลดระยะเวลาของก ารเจ็บป ่วยของผ ู้ป่วยล ง
3. การป้องกันโรคระดับตติยภูมิ (Tertiary Prevention) เกี่ยวข้องกับกิจกรรมโดยตรงของโฮสต์หรือ
ผู้ป ่วยที่อ ยู่ในสิ่งแ วดล้อมทางสังคมและกายภาพ เน้นก ารป อ้ งกนั โรคเพอื่ ส นับสนุนก ารฟื้นฟู การกล ับคนื ส ่ปู กตแิ ละ
การคงอยู่ของการทำหน้าที่ของอวัยวะต่างๆ หลังจากการเกิดโรค ผู้ที่ได้รับอุบัติเหตุต่อหลอดเลือดสมองหรือ
บาดเจ็บต้องมีการฟื้นฟูเพื่อทำให้กลับสู่สภาพเดิมและป้องกันการกลับมาของอาการผิดปกติหรือโรคแทรก ระบบ
สาธารณสุขมีบทบาทโดยตรงในการสนับสนุนกฎหมายเพื่อผู้พิการ และมาตรฐานของสิ่งปลูกสร้างในบ้านเรือน
สำหรับผู้พิการและสนับสนุนบริการเพื่อรักษาความเจ็บป่วยเรื้อรัง ความพิการ และผู้สูงอายุ และยังเกี่ยวข้องกับ
การทำงานของหน่วยงานภาครัฐทั้งทางด้านสังคมและการศึกษา กลุ่มให้คำแนะนำและคำปรึกษา หน่วยงานองค์กร
อิสระ และครอบครัว การป้องกันโรคระดับตติยภูมิยังส่งเสริมสถานประกอบการเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความพิการ
และศูนย์บริการทางสังคม ในการรักษาอาการหัวใจขาดเลือด (Myocardial Infarction; MI) หรือกระดูกสะโพก
แตก ปัจจุบันการป้องกันระดับนี้รวมการฟื้นฟูระยะแรกเพื่อส่งเสริมการฟื้นตัวแต่เนิ่นๆ และอย่างเต็มที่ของอวัยวะ
เพื่อให้กลับมาทำหน้าที่ตามเดิม โดยจัดให้มีรถเข็น ห้องน้ำ ประตู ราวจับ และบริการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่เป็น
อัมพฤกษ์ หน่วยงานสาธารณสุขทำงานร่วมกับกลุ่มหน่วยงานในชุมชนเกี่ยวข้องกับการส่งเสริมช่วยเหลือกลุ่มที่มี
ความเสี่ยงเฉพาะโรคและความพิการโดยไม่แบ่งแยก การทำงานในชุมชนมักต้องกำจัดช่องว่างของงบประมาณทาง
กายภาพและสังคม ส่งเสริมความตระหนักในชุมชน งบประมาณสำหรับอุปกรณ์พิเศษ หรือความต้องการอื่นๆ ของ
กลุ่มผู้ป่วยดังกล่าว การติดตามอย่างใกล้ชิดและการจัดการโรคเรื้อรัง ทางกายภาพและทางจิต ความต้องการ
การดูแลที่บ้าน และความมั่นใจก ารรักษาท างการแพทย์ที่เหมาะส ม ที่ประกอบด ้วยย า อาหาร การออกกำลังก าย และ
บริการสนับสนุน การติดตามผู้ป่วยโรคเรื้อรังเพื่อควบคุมการให้ยา การเปลี่ยนแปลงการติดตาม และการสนับสนุน
ผู้ป ่วยให้ส ามารถ ทำกิจวัตรป ระจำวันที่พ ึ่งต นเองได้ม ากท ี่สุดซ ึ่งเป็นองค์ประกอบที่ส ำคัญของส าธารณสุขส มัยใหม่
ลขิ สิทธ์ขิ องมหาวทิ ยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธริ าช