Page 112 - อาหารและโภชนบำบัด
P. 112

9-48 อาหาร​และ​โภชนบ​ ำบัด

                เซลล์ไ​ขม​ ันจ​ ะม​ ีค​ วามด​ ื้อต​ ่อฤ​ ทธิ์อ​ ินซูลิน ทำให้ไ​ม่ส​ ามารถน​ ำน​ ้ำตาลเ​ข้าไปไ​ด้อ​ ีก น้ำตาลจ​ ะล​ ้นอ​ ยู​่
ในก​ ระแส​เลือด จน​เข้าส​ ู่​ระยะเ​บา​หวาน

                ผู้​ที่​เป็น​เบา​หวาน​นาน​หลาย​ปี น้ำตาล​จะ​ย้อน​กลับ​ไป​ทำลาย​เซลล์​เบต้า​ใน​ตับ​อ่อน ใน​ที่สุด​จะ​ไม่​
ทำงาน​อีก ทำให้​มีค​ วาม​จำเป็น​ที่จ​ ะ​ต้องฉ​ ีดอ​ ินซูลิน​เพื่อล​ ด​ระดับน​ ้ำตาล

                2) 	อนิ ​ครีตน​ิ (Incretin) เป็น​ฮอร์โมน​จาก​ทาง​เดิน​อาหาร เมื่อ​รับ​ประทาน​อาหาร​และ​มี​การ​ดูด​ซึม​
อาหาร (incretin) จะ​หลัง่ อ​ อกม​ าเ​สรมิ ฤ​ ทธอิ​์ นิ ซลู นิ และช​ ว่ ยล​ ดฮ​ อรโ์ มนก​ ลค​ู าก​ อน​ ทมี​่ ฤ​ี ทธิเ​์ พิม่ น​ ำ้ ตาล ชว่ ยท​ ำก​ ระเพาะ​
อาหาร​บีบ​ตัว​ช้า จึงท​ ำให้​ลด​ความ​อยากอ​ าหาร

                3)	อะ​มัย​ลิน (Amylin) ได้​จาก​เซลล์​เบต้า​ของ​ตับ​อ่อน มี​ฤทธิ์​ช่วย​ให้​กระเพาะ​อาหาร​บีบ​ตัว​ช้า​ลง
ทำให้ไ​ม่ห​ ิวอ​ าหาร และ​ยัง​ช่วยย​ ับยั้งก​ าร​หลั่งก​ ลูค​ าก​ อน​ด้วย ผลด​ ี​คือ​น้ำตาลห​ ลังอ​ าหารไ​ม่​สูง​มาก

            1.2.2 	ฮอร์โมนเ​พ่มิ ร​ ะดบั น​ ้ำตาล
                1) 	กลู​คา​กอน (Glucagon) หลั่ง​มา​จากแอลฟา​เซลล์​ใน​ตับ​อ่อน​มี​ฤทธิ์​ให้​ตับ​สลาย​ไกลโคเจน​เป็น​

กลูโคสแ​ ละส​ ร้างก​ ลูโคส​จาก​กรด​ไขม​ ัน​และ​กรดอ​ ะ​มิโ​น ไกลโคเจน จะเ​ริ่ม​หลั่งเ​มื่อ​น้ำตาลม​ ี​ระดับต​ ่ำ 65-70 มก./ดล.
                2) 	แค​ทิ​โคล​อะ​มีน (Catecholamine) จาก​ต่อม​หมวก​ไต​ส่วน​กลาง​จะ​หลั่ง​ใน​ช่อง​เดียว​กับ​กลู​คา​

กอน ช่วยใ​ห้ต​ ับส​ ลาย​ กล​ ูกา​ก​ อนเ​ป็นน​ ้ำตาล ลดก​ ารนำก​ ลูโคสเ​ข้าส​ ู่ก​ ล้ามเ​นื้อ สลายไ​ขม​ ันเ​ป็นกร​ ดไ​ขม​ ันเ​พื่อน​ ำไ​ปส​ ร้าง​
น้ำตาล​กลูโคส​ตัวใ​ หม่

            1.2.3 	ฮอรโ์ มน​กระตนุ้ ก​ าร​เจรญิ เ​ตบิ โต (Growth hormone) หลั่งจ​ าก​ต่อม​ใต้​สมอง​เมื่อ​ระดับน​ ้ำตาล 60-
65 มก./ดล. ช่วยใ​ห้ต​ ับส​ ลาย ไกลโ​คเ​จนเ​ป็นก​ ลูโคส ลดก​ ารนำเ​ข้าก​ ลูโคสส​ ู่ก​ ล้ามเ​นื้อ สลายไ​ขม​ ันเ​ป็นกร​ ดไ​ขม​ ัน สลาย​
โปรตีนเ​ป็นก​ รด​อะม​ ิ​โน เพื่อน​ ำ​ไปส​ ร้าง​กลูโคส​ใหม่

            1.2.4 	คอรต์ ​ิซอล (Cortisol) จากต​ ่อม​หมวก​ไตส​ ่วน​เปลือก (Cortex) หลั่ง​เมื่อน​ ้ำตาล​ต่ำ​กว่า 60 มก./
ดล. ช่วย​ให้ต​ ับส​ ลาย​ไกลโคเจน

            การ​ทำงาน​ของฮ​ อร์โมนท​ ี่ก​ ล่าว​แล้ว จะ​เป็น​พลวัต ไม่​อยู่​นิ่ง​ขึ้น​กับร​ ะดับ​น้ำตาลก​ ลูโคสใ​น​เลือดใ​น​ระยะ​
อด​อาหาร และร​ ะยะห​ ลัง​อาหาร

2. 	ภาวะ​แทรกซอ้ น​ของ​โรคเ​บาห​ วาน

       น้ำตาล​ในเ​ลือด​หลังจ​ ากง​ ด​อาหารข​ ้ามค​ ืน​เป็นเ​วลา 8 ชั่วโมง​อยู่​ใน​ช่วง 70 ถึง 99 มิลลิกรัม​ต่อ​เลือด 1 เดซิลิตร
เมื่อร​ ับ​ประทานอ​ าหาร​แล้ว น้ำตาล​จะ​เพิ่ม​ขึ้นใ​นเ​ลือด และ​จะค​ ่อยๆ ลด​ลงเ​พราะ​มีก​ ารนำน​ ้ำตาล​เข้า​สู่​เซลล์ ใน​ระยะ 2
ชั่วโมงห​ ลัง​อาหาร​น้ำตาล​ไม่เ​กิน 140 มิลลิกรัมต​ ่อเ​ลือด 1 เดซิลิตร

       2.1 		โรคแ​ ทรกซ้อนข​ อง​หลอด​เลอื ด​ฝอย การใ​ช้​น้ำตาลใ​น​อวัยวะ​บางแ​ ห่ง ได้แก่ จอ​ตา (retina) หน่วย​กรอง​
ของไ​ต (glomerulus) และป​ ระสาท​ส่วนป​ ลาย ไม่​ต้องอ​ าศัย​ฤทธิ์​ของ​อินซูลิน ดัง​นั้น เมื่อ​น้ำตาลม​ ี​ระดับ​สูง​กว่า​ปกติ จะ​
ทำให้น​ ้ำตาลส​ ่วนเ​กิน เข้าไปท​ ำให้อ​ วัยวะด​ ังก​ ล่าวเ​สื่อมล​ ง น้ำตาลเ​ข้าไปส​ ู่อ​ วัยวะเ​หล่าน​ ี้โ​ดยท​ าง หลอดเ​ลือดฝ​ อย จึงจ​ ัด​
กลุ่มว​ ่า​โรค​แทรกซ้อนข​ องห​ ลอด​เลือดฝ​ อย

       2.2 		โรคแ​ ทรกซอ้ น​ของ​หลอดเ​ลือดเ​ส้น​ใหญ่ เป็น​ผล​จากก​ าร​ที่ร​ ะดับ​น้ำตาล​สูง และถ​ ูก​นำไ​ปใ​ช้​ใน​เซลล์อ​ ย่าง​
มากมาย เกิด​เป็นพ​ ลังงาน​ส่วนห​ นึ่ง และน​ ำไ​ป​เก็บเ​ป็น​ไกลโคเจนท​ ี่​ตับ และ​กล้ามเ​นื้อ น้ำตาล​ที่เ​หลือ​ใช้​จะ​ถูก​นำไ​ปร​ วม​
กบั ก​ รดไ​ขม​ ัน กลายเ​ปน็ ไ​ตรกลีเซอไรด์ เก็บอ​ ยูใ​่ นเ​ซลลไ​์ ขม​ ัน ซึ่งส​ ะสมม​ ากข​ ึน้ ก​ ลายเ​ปน็ น​ ำ้ ห​ นักส​ ่วนเ​กนิ ใ​นก​ ระบวนการ​
ใช้​น้ำตาลใ​น​เซลล์ จะ​เกิดร​ ี​แอ็ก​ตีฟ ออกซิเจน สปิซ​ ีส์ ( Reactive oxygen species) และ​เหนี่ยวน​ ำ​ให้เ​กิดป​ ฏิ​กริยา
ดังนี้

                             ลิขสทิ ธิข์ องมหาวิทยาลยั สโุ ขทัยธรรมาธริ าช
   107   108   109   110   111   112   113   114   115   116   117