Page 113 - อาหารและโภชนบำบัด
P. 113

อาหารก​ ับ​กลุ่ม​อาการ​เมแ​ ทบอ​ ​ลิก 9-49

            1) 	เกิด​สาร​พอ​ลีอ​ อล (Polyol) จำนวนม​ าก มี​ส่วน​ทำลายเ​ส้น​ประสาท
            2) 	เกิดแ​ อดว​ านซ​ ์ไ​กลเ​คช​ ันโ​พร​ ดักซ์ (Advanced glycation product) ทำใหผ้​ นังห​ ลอดเ​ลือดเ​กิดก​ าร​
อักเสบ และต​ ีบ​แข็ง
            3) 	เกิดก​ ารก​ระต​ ุ้น​โปรต​ ีน​ไคเ​นส ซี ( Protein kinase C)
            4) 	กระ​ตุ้นเ​ฮก​โซซ​ า​มีน (Hexosamine) ทำให้ห​ ลอด​เลือด​ตีบ​แข็ง
            นอกจาก​นี้ ผู้เ​ป็น​เบา​หวาน​ที่ม​ ีไ​ข​มัน​สะสมใ​นช​ ่อง​ท้อง จะส​ ลายไ​ข​มัน​ได้ก​ รดไ​ข​มัน​อิสระ (FFA) จะ​ไป​
ทำให้เ​ยื่อบ​ ุ​หลอดเ​ลือด​เกิดก​ าร​อักเสบ ผนังห​ ลอด​เลือด​หนา และม​ ีแ​ คลเซียมแ​ กะ กลุ่ม​ก้อน​ผิด​ปกติน​ ี้​เรียกว​ ่า พล้าก
(Plaque)
            เมื่อ​มี​การ​ไหล​เวียน​เลือด จะ​มี​แรง​ดัน​ไป​ที่​พล้า​กนี้ ถ้า​มี​การ​แตก​ตัว​ออก​จาก​ผนัง​หลอด​เลือด เรียก​ว่า
ธร​อม​บัส ซึ่ง​จะ​ถูก​นำพา​ไป​ใน​กระแสเ​ลือด อาจไ​ป​อุด​ตัน​หลอดเ​ลือด​หัวใจ​ทำให้ กล้ามเ​นื้อห​ ัวใจข​ าด​เลือด หัวใจว​ าย
ถ้าอ​ ุด​ที่​หลอด​เลือด​สมอง เนื้อเยื่อส​ มองไ​ม่​ได้​รับเ​ลือด เกิดอ​ าการ​อัมพฤกษ์ อัมพาต ถ้าอ​ ุดต​ ันห​ ลอดเ​ลือดส​ ่วนป​ ลาย​
ขา จะท​ ำให้​แผลห​ าย​ช้า หรือเ​กิดเ​นื้อเ​น่า​ตาย ต้องต​ ัดน​ ิ้ว​เท้า หรือ​เท้า หรือข​ า
       2.3 		โรค​แทรกซ้อนข​ องร​ ะบบป​ ระสาท​อัตโนมตั ิ ก่อ​ให้​เกิด​อาการไ​ด้​หลายร​ ะบบ
            - 	 ระบบห​ ลอดเ​ลอื ด ทำใหป​้ รบั ค​ วามด​ นั โ​ลหติ ไ​ดช​้ า้ โดยเ​ฉพาะจ​ ากท​ า่ น​ อนเ​ปน็ น​ ัง่ หรอื น​ ัง่ เ​ปน็ ย​ นื ความ​
ดันจ​ ะ​ลด ทำให้ห​ น้าม​ ืด​เป็นล​ ม
            - 	 ระบบ​ทาง​เดินอ​ าหาร กระเพาะ​อาหารบ​ ีบ​ตัวช​ ้า ท้อง​อืด ลำไส้​เคลื่อน​ตัวช​ ้า ทำให้ท​ ้อง​ผูก หรือ​ทำให​้
ท้องเ​สีย จาก​น้ำตาล​สูง พาใ​ห้​เกิดก​ ารข​ ับ​อุจจาระบ​ ่อย
            - 	 ระบบ​สืบพันธุ์ ทำให้​สูญเ​สีย​สมรรถภาพท​ างเ​พศ
       2.4 		ระบบ​เม็ด​เลือด​ขาว มี​ประสิทธิภาพ​ใน​การ​ทำลาย​เชื้อ​ได้​น้อย​ลง​ใน​ขณะ​ที่​น้ำตาล​ทำให้​เชื้อ​โรค​เติบโต​เร็ว​
ขึ้น จึง​ติดเ​ชื้อไ​ด้ง​ ่าย และ​หาย​ยาก
       2.5 		ผิวหนงั มีอ​ าการ​คัน ติด​เชื้อร​ า​ได้ง​ ่าย
       2.6 		กระดูก​และ​ขอ้ ​ผิด​รูป

3. 	หลกั ก​ ารร​ ักษาโ​รค​เบา​หวาน

       ​การ​รักษาโ​รค​เบา​หวาน​ต้องอ​ าศัย​การ​ทำงานร​ ่วมก​ ัน​ระหว่างส​ ห​สาขาว​ ิชาชีพ บุคคล​สำคัญ​คือ ผู้​เป็น​เบา​หวาน​
ต้อง​ร่วม​มือ​อยู่​ใน​ทีม​ของ​การ​ดำเนิน​งาน ดัง​นั้น​ต้อง​มี​การ​ปรับ​ความ​เข้าใจ​ให้​ตรง​กัน​ใน​ด้าน​เป้า​หมาย และ​วิธี​การ​
รักษา

       3.1 		เป้าห​ มาย​ใน​การร​ ักษา ผู้เ​ป็นเ​บาห​ วานร​ ่วม​มือก​ ับท​ ีมส​ หว​ ิชาชีพใ​นก​ าร​ตั้งเ​ป้า​หมายร​ ่วม​กัน ดังนี้
            1) 	ต้อง​ปลอด​อาการ​ของ​เบา​หวาน คือ​ลด​อา​การ​ปัส​สวะ​บ่อย ลด​อาการ​กระหาย​น้ำ น้ำ​หนัก​ตัว​อยู่​ใน​

เกณฑ์
            2) 	ตอ้ งป​ ลอดโ​รคแ​ ทรกซอ้ นเ​ฉยี บพลนั คอื นำ้ ตาลอ​ ยใู​่ นเ​กณฑท​์ เี​่ หมาะส​ ม ไมเ่​กดิ อ​ าการน​ ำ้ ตาลต​ ำ่ หรอื ​

น้ำตาล​สูง​เกินไ​ ป
            3) 	ต้อง​ปลอด​โรคแ​ ทรกซ้อนเ​รื้อรัง ทั้งห​ ลอดเ​ลือด​ฝอย และ​หลอดเ​ลือด​ใหญ่
            4) 	ผู้ป​ ่วย​ต้องม​ ี​ความ​รู้ใ​น​การด​ ูแล​ตนเอง จากก​ าร​ให้​ข้อมูล​ของ​ทีม​ผู้​รักษา

       เพื่อ​ให้​ได้​ผล​ตาม​เป้า​หมาย ต้อง​ติดตาม​ระดับ​น้ำตาล​ใน​เลือด​ทั้ง​ก่อน​และ​หลัง​อาหาร หา​ระดับ​น้ำตาล​สะ​สม
ฮ​ตี​โรมว​โจกเ​ท​ลบ้าอ​ินย​เอ่างว​​นัน้อซ​ยี (​ปHีล​bะA​ค1รCั้ง)เพทุกื่อด​3ูเบเดา​หือนวาตนิด​ขึ้นตจ​ามอ​ต​ตราวจ​จอต​ า ตรวจ​ปัสสาวะ หาร​ ะดับไ​ข​มัน และ​เจาะเ​ลือด​ดู​หน้าที่​ไต

                              ลขิ สทิ ธ์ขิ องมหาวิทยาลยั สโุ ขทัยธรรมาธริ าช
   108   109   110   111   112   113   114   115   116   117   118