Page 90 - สังคมโลก
P. 90
6-50 สังคมโลก
ตอนท่ี 6.3
จักรวรรดนิ ยิ มในกระแสโลกาภวิ ัตน์
โปรดอ่านหัวเรื่อง แนวคิด และวัตถุประสงค์ของตอนที่ 6.3 แล้วจึงศึกษารายละเอียดต่อไป
หัวเรือ่ ง
6.3.1 การเปลี่ยนแปลงจักรวรรดินิยมในกระแสโลกาภิวัตน์
6.3.2 จักรวรรดินิยมแบบไร้ศูนย์กลาง
แนวคดิ
1. ทศวรรษ 1960-1970 เป็นช่วงที่ความอ่อนแอของสหรัฐอเมริกาปรากฏ ขณะที่สหภาพโซเวียตดู
มีความแข็งแกร่ง ยุโรปตะวันตกและญี่ปุ่นฟื้นตัวอย่างเต็มที่ทางเศรษฐกิจ บรรษัทข้ามชาติและ
การทำ�ธุรกรรมนอกประเทศขยายตัวอย่างมาก ภาวะเช่นนี้กระตุ้นให้สหรัฐอเมริกาหันมาให้ความ
สำ�คัญกับภาคเอกชน และกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ผ่านโครงการวิจัยที่เชื่อมโยงกับโครงการทาง
ทหาร แม้ปัญหาภายในและแนวนโยบายต่างประเทศของสหรัฐอเมริกาจะเปลี่ยนจุดเน้นไปบ้าง
แต่นโยบายที่เน้นการประสานความร่วมมือระหว่างการทหารและเศรษฐกิจกลับมาอีกครั้ง หลัง
เกิดเหตุวินาศกรรมในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2001 โดยเฉพาะการรุกอิรักและ
อัฟกานิสถาน อย่างไรก็ตาม สหรัฐอเมริกาได้รับเสียงสนับสนุนน้อยกว่าในอดีต จึงเกิดการตั้ง
คำ�ถามขึ้นมา สถานะการครองความเป็นเจ้าของอเมริกาคงถึงคราวต้องเปลี่ยนแปลง
2. ความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวข้างต้นส่งผลต่อความสัมพันธ์ทางสังคม รูปแบบการผลิต และการ
ใช้ชีวิตประจำ�วันของปัจเจกบุคคล ซึ่งไมเคิล ฮาร์ดท์ (Michael Hardt) และอันโตนิโอ เนกรี
(Antonio Negri) เสนอมุมมองว่า จักรวรรดิ (Empire) ได้เกิดขึ้นในรูปไร้ศูนย์กลางแห่งอำ�นาจที่
ชัดเจน มีเพียงศูนย์ความสัมพันธ์ในลักษณะที่ยึดโยงกันด้วยโครงข่ายกลุ่มชุมชน ซึ่งมีพัฒนาการ
ของเทคโนโลยีการสื่อสารช่วยให้เกิดสิ่งที่มีร่วมกัน (the common) เป็นแกนกลางผ่านการสร้าง
ภาษาและสัญลักษณ์ที่ยอมรับและใช้ร่วมกัน พัฒนาการเช่นนี้แสดงแนวโน้มในการรวมกลุ่มต่อ
รองของผู้เสียเปรียบอยู่ในโครงสร้างจักรวรรดินิยมแบบเดิม อย่างไรก็ตาม ทั้งสองไม่ปฏิเสธว่า
จักรวรรดิแบบเช่นนี้ดำ�เนินควบคู่ไปกับการปรับเปลี่ยนของจักรวรรดินิยมแบบเดิม ที่เน้นในเรื่อง
ของอ�ำ นาจการควบคุมและกดทับ นั่นย่อมหมายความว่า ความขัดแย้งและความรุนแรงยังคงด�ำ รง
และอาจจะรุนแรงมากขึ้นเมื่อจักรวรรดิแบบใหม่ พยายามเข้าไปมีบทบาทในการกำ�หนดความเป็น
ไปของตนเอง
ลิขสทิ ธ์ขิ องมหาวิทยาลยั สโุ ขทัยธรรมาธริ าช