Page 68 - แนวคิดทางการแนะแนวและทฤษฎีการปรึกษาเชิงจิตวิทยา หน่วยที่ 1
P. 68
1-58 แนวคิดทางการแนะแนวและทฤษฎีการปรึกษาเชิงจิตวิทยา
ศีลข้อที่หนึ่ง: ละเว้นจากการคร่าเอาชีวิตของสรรพสัตว์ รวมไปถึงการทำ�อันตรายหรือทำ�ให้สิ่งมี
ชีวิตใดๆ เจ็บปวด บางครั้งเรียกว่า “อหิงสา” หรือศีลแห่งการไม่ใช้ความรุนแรง ศีลข้อนี้หมายรวมถึงการ
ทำ�ร้ายทั้งทางตรงและทางอ้อม ไม่ว่าจะเป็นการทำ�ร้ายด้วยนํ้ามือของเราเอง หรือให้ผู้อื่นกระทำ�แทนตัวเรา
สิง่ ทีแ่ ฝงอยูใ่ นศลี ขอ้ นีก้ ค็ อื เจตคตซิ ึง่ ปรารถนาจะใหโ้ ลกนีม้ สี นั ตสิ ขุ มองผูอ้ ืน่ ดว้ ยสายตาแหง่ ความ
เมตตา และปฏิบัติต่อสรรพสัตว์ทั้งมวลด้วยความกรุณา และด้วยความรักอันไม่มีการแบ่งแยก โดยทั่วไป
แล้วเราควรจะพูดจากับผู้อื่นด้วยนํ้าเสียงที่อ่อนโยน ให้กำ�ลังใจและช่วยเหลือการปฏิบัติภารกิจของเขา รวม
ทั้งแนะนำ�เขาในสิ่งที่ถูกต้องเมื่อมีโอกาสอันเหมาะสม ซึ่งเป็นคุณสมบัติและหน้าที่ของนักแนะแนวทั้งหลาย
อยู่แล้ว และเราควรดำ�รงชีวิตโดยมีหน้าที่การงานซึ่งไม่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับการฆ่า หรือการทำ�ร้ายผู้อื่น อัน
หมายถึงไม่ทำ�ร้ายทั้งสัตว์และมนุษย์ เพราะเราควรจะต้องมีเจตคติแห่งความเมตตากรุณาต่อสรรพสัตว์ทั้ง
มวลอย่างเท่าเทียมกัน ให้ความช่วยเหลือผู้มีปัญหา ผู้ทุกข์ใจ ผู้เจ็บป่วย ยากจน และผู้ประสบภัยพิบัติ และ
ให้เฉพาะเวลาที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือจากเราจริงๆ เท่านั้น อย่าให้ความต้องการที่จะช่วยเหลือผู้อื่น
ของเราเป็นสาเหตุให้เกิดการรบกวนต่อผู้อื่น
ศีลข้อที่สอง: ละเว้นจากการเอาสิ่งของที่ผู้อื่นมิได้ให้ ศีลข้อนี้หมายความว่าเราไม่ควรขโมย หรือ
แม้แต่ถือวิสาสะหยิบใช้สิ่งของที่เจ้าของยังไม่ได้อนุญาต ศีลข้อนี้ต้องการให้เราพอใจในสิ่งของที่เรามีอยู่และ
ไม่กังวลสนใจในสิ่งที่ผู้อื่นมี หรือสนใจว่าเพื่อบ้านมีบ้านที่ใหญ่โตกว่า หรือรถคันใหม่กว่าที่เรามีอยู่
ในประเทศไทยทีเ่ ราอาศยั อยูน่ ี้ มหี นทางมากมายทีจ่ ะหาเลีย้ งชพี ของเราไดง้ า่ ยดายอยา่ งสจุ รติ ถงึ แม้
บางครั้งเราอาจจะต้องดำ�เนินชีวิตอย่างประหยัดก็ตาม อันที่จริง การใช้ชีวิตอย่างสมถะเรียบง่ายคือหาทางที่
ดีที่สุด ที่จะทำ�ให้เรามีความสงบสุข เมื่อตัวเรามีความสุข เราก็พร้อมที่จะแบ่งปันความสุขกับผู้อื่น และยินดี
ช่วยเหลือผู้อื่นได้เสมอ
อีกประการหนึ่งก็คือ การพูดคุยมากเกินไป ก็เป็นการขโมยชนิดหนึ่งเพราะถือเป็นการขโมยเวลา
ของผู้อื่น ทำ�ให้เวลาของผู้อื่นหมดไป รวมทั้งเวลาของตัวเราเองด้วย ทุกคนล้วนทราบดีว่าเวลาเป็นสิ่งที่มีค่า
มาก เวลาล่วงเลยไปแล้ว มิอาจเรียกคืนมาได้
นอกจากนี้ควรที่จะฝึกปฏิบัติความมีนํ้าใจกว้างขวางด้วยการแบ่งปันความรู้ เวลา พลังงาน และ
ทรัพย์สินทางวัตถุ โดยตัวเราต้องไม่เดือดร้อน ให้กับผู้ที่ต้องการขัดสนอย่างแท้จริง ไม่เข้าครอบครองสิ่งใด
ที่ควรจะเป็นของผู้อื่น เคารพทรัพย์สมบัติของผู้อื่น และการป้องกันมิให้ผู้อื่นแสวงหาผลประโยชน์จากความ
ทุกข์ของมนุษย์หรือสรรพสัตว์ทั้งหลาย
ศีลข้อที่สาม: ละเว้นจากการผิดประเวณี ศีลข้อนี้กล่าวว่า เราควรงดเว้นจากการประพฤติผิดทาง
เพศ ทั้งด้านความคิด คำ�พูด และการกระทำ� ข้อความนี้ฟังดูเหมือนเรื่องธรรมดา และมักจะได้รับการแปล
ความหมายแตกต่างกันไปในแต่ละคน ถ้าเรามีความเข้าใจว่าวัตถุประสงค์ของศีลคือ การระมัดระวัง ป้องกัน
และถนอมรักษาสภาพแวดล้อมที่เหมาะต่อการพัฒนาจริยธรรมของเรา เราก็จะมีความกระจ่างชัดว่า การผิด
ประเวณีหมายความว่าอย่างไร กิจกรรมใดก็ตามในชีวิตของเราซึ่งก่อให้เกิดความทุกข์ยากแก่ตัวเราเองหรือ
ผู้อื่น ทำ�ลายความสุขของผู้อื่น ก็จะทำ�ให้เวลาและพลังอันมีค่าของเราและผู้อื่นสูญหายไปด้วย รวมทั้งหลาย
จิตสำ�นึกที่ดีงามภายในตัวเราลงไป ก็ควรได้รับการพิจารณาว่าเป็นความประพฤติผิดทั้งสิ้น