Page 54 - การเมืองการปกครองไทย หน่วยที่ 5
P. 54
5-44 การเมืองการปกครองไทย
“พรรคการเมือง” ที่ถ ือว่าเป็น “สถาบันท างการเมือง” ในโครงสร้างท างการเมืองส ่วนก ลางท ี่เชื่อมโยงส ่วนบ น
(รัฐสภา รัฐบาล ตุลาการ) กับส ่วนล ่าง (ประชาชน กลุ่มผ ลประโยชน์ และการเลือกต ั้ง) ขึ้นอีกส ่วนหนึ่ง
สถาบันพระมหากษัตริย์ พื้นฐานยังคงยึดหลักการพระราชอำ�นาจจำ�กัด (Limited Monarchy)
และก ็คงพ ระร าชอำ�นาจที่ก ำ�หนดเพิ่มเติมตามร ัฐธรรมนูญฉบับท ี่ส องไว้ ในฉ บับน ี้ได้เพิ่มเติมพระราชอ ำ�นาจ
วินิจฉัย ในการลงพ ระปรมาภิไธยร ่างกฎหมายต่างๆ อีกส่วนห นึ่ง
สถาบันน ิติบัญญัติ คือ รัฐสภา ประกอบด้วย 2 สภา ได้แก่ พฤฒส ภา หรือสภาส ูง สมาชิกจ ำ�นวน
80 คน มีว าระ 6 ปี โดยต ้องเป็นผ ู้จ บก ารศ ึกษาไม่น ้อยก ว่าป ริญญาต รี อายุ 40 ปีข ึ้นไป และเคยเป็นข ้าราชการ
ในร ะดับไม่ตํ่าก ว่าหัวหน้าก องห รือเทียบเท่า แต่ต ้องไม่เป็นข ้าราชการป ระจำ�มาจากก ารเลือกต ั้ง แต่ในระยะ
เริ่มแรกให้สมาชิกส ภาผู้แทนราษฎร ที่ด ำ�รงต ำ�แหน่งต ามรัฐธรรมนูญฉ บับที่สองเป็นผู้เลือกตั้ง ส่วนอำ�นาจ
หน้าที่ม นี ้อยก ว่าส มาชิกส ภาผ ูแ้ ทนร าษฎร คือ เน้นท ีก่ ารพ ิจารณาร ่างก ฎหมายท ี่มาจ ากส ภาผ ูแ้ ทนร าษฎร และ
ควบคุมก ารบ ริหารร าชการแ ผ่นด ินข องร ัฐบาลด ้วยก ารต ั้งก ระทูถ้ ามค ณะร ัฐมนตรี โดยไม่มอี ำ�นาจล งม ตไิมไ่ว้
วางใจ ส่วนส ภาผ ้แู ทนราษฎร สมาชิก 178 คน โดย 96 คน มาจากประเภทท ี่ 1 (เลือกตั้ง) ภายใต้รัฐธรรมนูญ
ฉบับที่ส อง และส มาชิกท ี่มาจากก ารเลือกต ั้งใหม่ (ในว ันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2489) อีก 82 คน มีอำ�นาจห น้าที่
ในก ารต ราก ฎหมาย และการต รวจส อบ ควบคุมก ารบ ริหารร าชการแ ผ่นด ินด ้วยก ารข อเปิดอ ภิปรายเพื่อล งม ติ
ไมไ่วว้ างใจค ณะร ัฐมนตรที ั้งค ณะห รือร ายบ ุคคล คุณสมบัตขิ องส มาชิกส ภาผ ูแ้ ทนร าษฎรม ีอายตุ ั้งแต่ 23 ปขี ึ้น
ไป ต้องไม่เป็นข ้าราชการประจำ� และมีความร ู้ต ั้งแต่ชั้นป ระถมศ ึกษาป ีที่ 4 ขึ้นไป วาระการด ำ�รงตำ�แหน่ง 4 ปี
สถาบันบริหาร คือ คณะร ัฐมนตรี ประกอบด้วยนายกรัฐมนตรี 1 คน และร ัฐมนตรีจ ำ�นวน 10–18
คน ประธานพฤฒส ภาแ ละป ระธานส ภาผ ู้แ ทนร าษฎรเป็นผ ู้ล งน ามร ับส นองพ ระบรมร าชโองการแ ต่งต ั้งน ายก
รัฐมนตรี คณะร ัฐมนตรีต ้องไมเ่ป็นข ้าราชการป ระจำ�และไมส่ ามารถด ำ�รงต ำ�แหน่งส มาชิกส ภาผ ูแ้ ทนร าษฎรใน
ขณะเดยี วกนั คณะร ฐั มนตรตี อ้ งไดร้ บั ค วามไวว้ างใจจ ากส ภาในก ารเขา้ บ รหิ ารร าชการแ ผน่ ดนิ โดยก ารก �ำ หนด
นโยบายและค วบคุมก ารนำ�นโยบายไปป ฏิบัติของข ้าราชการในก ระทรวง ทบวง กรมต ่างๆ
สถาบันตุลาการ ยังคงกำ�หนดไว้คล้ายคลึงกับรัฐธรรมนูญฉบับที่สอง มีอำ�นาจพิพากษาอรรถคดี
ต่างๆ ตามก ฎหมาย
การเลือกตั้ง มีความสำ�คัญมากขึ้นตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพราะกำ�หนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิก
รัฐสภาทั้ง 2 สภา แต่กำ�หนดให้เลือกตั้งสมาชิกพ ฤฒส ภาท างอ ้อมในร ะยะเริ่มแ รก โดยส อดรับก ับบ ทบัญญัติ
ด้านส ิทธิ เสรีภาพข องป ระชาชนท ี่ม ีข อบเขตก ว้างข วางก ว่าเดิม รวมท ั้งก ารร วมต ัวก ันเป็น “พรรคการเมือง” ที่
จะก ลายเป็นการเริ่มต้นพ ัฒนาสถาบันทางการเมืองในส ่วนก ลางของโครงสร้างทางการเมือง ถ้าหากมีบ ทบาท
ทางการเมืองอย่างต่อเนื่องและเปิดโอกาสกว้างให้ประชาชนเกิดความมั่นใจจนเข้าไปมีส่วนร่วมทางการเมือง
มากขึ้น
โครงสร้าง และส ถาบันทางการเมืองทั้งส่วนดั้งเดิมที่เริ่มม ีการปรับเปลี่ยนไปบ ้าง ส่วนใหม่ท ี่เกิดขึ้น
มาต ั้งแต่ พ.ศ. 2475 และส่วนท ี่เกิดข ึ้นไม่ต ามรัฐธรรมนูญฉ บับน ี้ จึงอ าจเขียนอ อกม าเป็นแผนภาพได้ดังนี้