Page 49 - การเมืองการปกครองไทย หน่วยที่ 5
P. 49
โครงสร้าง และสถาบันการเมืองการปกครองของไทย 5-39
โดยแยกสุขาภิบาลออกเป็น 2 ระดับ คือ สุขาภิบาลเมืองกับสุขาภิบาลตำ�บล โดยสุขาภิบาลเมืองจัดตั้งใน
ท้องถ ิ่นที่มีค วามเจริญม ากกว่า ผลป รากฏว ่า มีก ารจ ัดต ั้งส ุขาภิบาลในเวลาต่อม าถึง 35 แห่ง
โครงสร้างคณะก รรมการสุขาภิบาลเมืองต ามก ฎหมาย ประกอบด้วย กรรมการ 11 คน มีผูว้ ่าร าชการ
เมืองเป็นประธาน ปลัดเมืองเป็นเลขานุการ นอกจากนั้น ก็มีหัวหน้าพนักงานการศึกษาในเมือง นายอำ�เภอ
ท้องถ ิ่น นายแ พทย์ส ุขาภิบาล นายช ่างส ุขาภิบาล และก ำ�นันท ี่อยู่ในเขตสุขาภิบาล 5 คน ถ้าม ีกำ�นันไม่ค รบ
ก็ให้ข้าหลวงเทศาภิบาลเลือกผู้เสียภาษีโรงร้านเป็น “กำ�นันพิเศษ” ขึ้นเป็นกรรมการ โดยให้อยู่ในตำ�แหน่ง
2 ปี แล้วจึงเลือกใหม่ ส่วนสุขาภิบาลตำ�บลมีก รรมการ 5 คน มีก ำ�นันเป็นประธาน รองกำ�นัน แพทย์ป ระจำ�
ตำ�บล ครูประจำ�ตำ�บล และผ ู้ใหญ่บ ้าน เป็นก รรมการ อำ�นาจห น้าที่ข องส ุขาภิบาลทั้ง 2 ระดับเหมือนกัน คือ
รักษาค วามส ะอาดในท ้องท ี่ ป้องกันแ ละร ักษาค วามไข้เจ็บในท ้องท ี่ บำ�รุงร ักษาท างไปม า และก ารศ ึกษาข ั้นต ้น
ของราษฎร
สรุปโครงสร้าง และสถาบนั ทางการเมืองก ารป กครองช ่วง พ.ศ. 2435-2453
โครงสร้าง และสถาบันทางการเมืองการปกครองในยุคสร้างความเป็นสมัยใหม่ต่อสู้กับลัทธิ
จักรวรรดินิยมตะวันตกดังกล่าวนี้ เกิดขึ้นจากเหตุผลและปัจจัยสำ�คัญ 2 ส่วนใหญ่ประกอบกัน คือ การ
คุกคามแ ละอ ิทธิพลข องต ะวันต ก กับค วามต ้องการป รับเปลี่ยนเพื่อด ำ�รงค วามเป็น “ชาติ” ด้วยก ารท ำ�ให้เป็น
สมัยใหม่ท ัดเทียมก ับต ะวันต กข องพ ระม หาก ษัตริย์แ ละช นชั้นผ ู้ปกครองร ะดับส ูงข องไทย (โปรดด ูแ ผนภาพ
ที่ 5.2 ประกอบ)
อย่างไรก็ตาม โครงสร้าง และสถาบันทางการเมืองการปกครองที่เกิดขึ้นใหม่ในยุคนี้ ก็มีความ
ทันส มยั อ ยแู่ ตเ่ ฉพาะร ะบบร าชการห รอื ส ว่ นป ระกอบห ลักข องร ะบบก ารเมือง โดยร วมศ ูนยอ์ ำ�นาจอ ยทู่ ีส่ ถาบนั
พระมหากษัตริย์และส่วนกลาง โดยมีผลกระทบน้อยมากต่อสภาพแวดล้อมต่างๆ นอกออกไปจากระบบ
ราชการ ยกเว้น กรณีท ี่ส ่วนก ลางส ามารถค วบคุม บังคับบ ัญชาอ อกไปได้ท ั่วร าชอ าณาจักรแ ละม ีป ระสิทธิภาพ
และป ระสิทธิผลอ ย่างม ากจ นไม่เกิด “ชนชั้นน ำ�” ในเมืองร อบน อก หรือเกิดก ลุ่มต ่อต ้านอ ำ�นาจข องส ่วนก ลาง
และพระม หากษัตริย์ได้ ดังเช่นในย ุคก่อนหน้าน ี้
กลุ่มพลังท างสังคมก ลุ่มใหม่ที่สามาร ถค่อยๆ เติบโตและเข้มแข็งข ึ้นมีอยู่ 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ ชนชั้น
ข้าราชการ และชนชั้นนายทุน โดยกลุ่มแรกเติบโตได้รวดเร็วกว่ากลุ่มหลัง ภายใต้โครงสร้าง และสถาบัน
ทางการเมืองการปกครองส มัยใหม่ด ังก ล่าวนี้