Page 48 - การเมืองการปกครองไทย หน่วยที่ 5
P. 48

5-38 การเมืองการปกครองไทย

       “การจ​ ดั การป​ กครอง” ใหมด​่ งั ก​ ลา่ วน​ ี้ กค​็ อื คณะก​ รรมการม​ ณฑล ทมี​่ ข​ี า้ หลวงเ​ทศาภบิ าลเ​ปน็ ห​ วั หนา้ ​
รับผ​ ิดช​ อบใ​นง​ านร​ าชการต​ ่างๆ ภายในม​ ณฑล ทำ�​หน้าที่ส​ ำ�คัญค​ ือ ส่งเ​สริมค​ วามส​ งบเ​รียบร้อยแ​ ละก​ ารพ​ ัฒนา​
ชาตบิ​ ้านเ​มือง ด้วยก​ ารค​ วบคุมบ​ ังคับบ​ ัญชาเ​จ้าห​ น้าทีใ่​นร​ ะดับจ​ ังหวัด (เมือง) จนถึงร​ ะดับท​ ้องถ​ ิ่นต​ ่างๆ และใ​ช​้
วิธีก​ ารจ​ ่ายเ​งินเ​ดือนใ​ห้ก​ ับข​ ้าราชการแ​ ละเ​จ้าห​ น้าที่ร​ ะดับต​ ่างๆ เพราะช​ นชั้นผ​ ู้ป​ กครองร​ ะดับส​ ูง เห็นว​ ่าม​ ีค​ วาม​
จำ�เป็น​ที่​จะ​ต้องส​ ร้างร​ ะบบก​ ารท​ ำ�งานแ​ บบใ​หม่ และ​ช่วย​เหลือก​ ารด​ ำ�รงช​ ีวิต​ของข​ ้าราชการ

       “โครงสรา้ งก​ ารเมืองก​ ารป​ กครองร​ ะดบั ท​ ลี​่ ดห​ ลัน่ ล​ งไ​ป” เปน็ อ​ กี ล​ กั ษณะส​ �ำ คญั ห​ นึง่ ข​ องร​ ะบบม​ ณฑล
คือก​ ารผ​ สมผ​ สานโ​ครงสร้างร​ ะดับอ​ ำ�เภอเ​ข้าก​ ับก​ ารส​ ร้างร​ ะบบก​ ารป​ กครองห​ มู่บ้านอ​ ย่างเ​ป็นท​ างการ ระบบน​ ี​้
จัดร​ ะดับ​ผู้ม​ ีอ​ ำ�นาจ​หน้าที่​ลดห​ ลั่น​กัน คือ ในร​ ะดับเ​มือง ก็ม​ ีผ​ ู้​ว่า​ราชการ​เมือง และค​ ณะก​ รมก​ ารเมือง ระดับ​
อำ�เภอ คือ นาย​อำ�เภอ ตำ�บล​ที่​ประกอบ​ด้วย​หมู่บ้าน​หลาย​แห่ง ปกครอง​โดย​กำ�นัน ส่วน​ระดับ​พื้น​ฐาน คือ
หมู่บ้าน ประกอบ​ขึ้น​จาก​หลาย​ครัว​เรือน ผู้นำ� คือ ผู้ใหญ่​บ้าน แม้ว่า​โดย​ลักษณะ​โครงสร้าง​ยัง​คง​ยึด​อยู่​กับ​
ลักษณะ​ดั้งเดิม แต่​การ​เปลี่ยนแปลง​สำ�คัญ คือ​การ​กำ�หนด​ค่า​ตอบแทน​เป็น​เงิน​เดือน และ​ให้​ผู้คน​ใน​แต่ละ​
หมู่บ้าน​ทำ�การ​เลือก​ผู้นำ�​หมู่บ้าน​แทน​การ​แต่ง​ตั้ง​โดย​ผู้​ปกครอง​เมือง* และ​ให้​ผู้ใหญ่​บ้าน​ใน​แต่ละ​ตำ�บล​
ร่วม​กัน​เลือก​กำ�นัน​จาก​ผู้ใหญ่​บ้าน​คน​ใด​คน​หนึ่ง วัตถุประสงค์​สำ�คัญ​ของ​กระทรวง​มหาดไทย​ใน​การ​
เปลี่ยนแปลงด​ ังก​ ล่าวน​ ี้ ก็ค​ ือ การท​ ำ�ให้ท​ ุกร​ ะด​ ับบ​ ูรณา​ก​ ารเ​ข้าส​ ู่ร​ ะบบก​ ารป​ กครองภ​ ูมิภาคแ​ ละส​ ่วนก​ ลาง เพื่อ​
ทำ�ให้​การ​ปกครอง​เกิด​ประสิทธิภาพ​และป​ ระสิทธิผลใ​นด​ ้านต​ ่างๆ รวมท​ ั้ง​การร​ ักษา​ความส​ งบ​เรียบร้อย และ​
การ​จัดเ​ก็บภ​ าษี​และร​ ายไ​ด้​เข้า​สู่​ส่วน​กลาง​ได้​มาก​ขึ้น

       3. 	 สว่ น​ทอ้ งถ​ นิ่ : สขุ าภบิ าล
       พ.ศ. 2448 ไดม​้ ก​ี ารจ​ ดั ต​ ัง้ “สขุ าภบิ าล” แหง่ แ​ รกท​ ที​่ า่ ฉ​ ลอม เปน็ ล​ กั ษณะก​ ารร​ ว่ มม​ อื ก​ นั ท​ �ำ งานร​ ะหวา่ ง​
ประชาชนใ​นท​ ้องถ​ ิ่นก​ ับข​ ้าราชการใ​นพ​ ื้นที่ โดยก​ ำ�หนดใ​ห้ก​ ำ�นันต​ ำ�บลท​ ่าฉ​ ลอม คือ หลวงพ​ ัฒนาการภ​ ักดี เป็น​
ผู้นำ�​ของ​คณะ​กรรมการส​ ุขาภิบาล​แห่ง​แรก​นี้ (กระมล ทองธ​ รรมชาติ​และ​คณะ 2521: 31)** และป​ รากฏว​ ่า
สุขาภิบาลท​ ่าฉ​ ลอม สามารถ​ทำ�ให้ป​ ระชาชน​ร่วมม​ ือร​ ่วมใจเ​สียภ​ าษเี​พื่อใ​หส้​ ุขาภิบาลน​ ำ�​ไปใ​ชจ้​ ่ายใ​นก​ ิจการข​ อง​
สุขาภิบาล เช่น การ​จัดการค​ วามส​ ะอาดบ​ ริเวณต​ ลาดสด เป็นต้น จน​สมุหเ​ทศาภิบาลใ​นห​ ลายม​ ณฑลเ​กิดค​ วาม​
สนใจ และเ​รียกร​ ้องใ​ห้ร​ ัฐบาลต​ ราก​ ฎหมายเ​พื่อใ​ห้ม​ ีก​ ารจ​ ัดต​ ั้งส​ ุขาภิบาลข​ ึ้นท​ ั่วร​ าชอ​ าณาจักร พระบาทส​ มเด็จ​
พระจ​ ลุ จอมเกลา้ เ​จ้าอ​ ยูห​่ วั และก​ รมพ​ ระยาด​ �ำ รงร​ าชาน​ ภ​ุ าพ เสนาบดก​ี ระทรวงม​ หาดไทย ทรงม​ แี​ นวคิดว​ า่ ควร​
จะต​ ้องใ​ห้ป​ ระชาชนเ​ห็นป​ ระโยชนแ์​ ละเ​ต็มใจเ​สียภ​ าษีแ​ ก่ส​ ุขาภิบาลเ​สียก​ ่อน จึงจ​ ะเ​กิดป​ ระโยชน์แ​ ท้จริงใ​นก​ าร​
จดั ต​ ัง้ ส​ ขุ าภบิ าล คอื “เกดิ จ​ ากค​ วามน​ ยิ มข​ องร​ าษฎรก​ อ่ น คอื ใ​หร​้ าษฎรน​ �ำ ​และร​ ฐั บาลต​ ามห​ ลงั ” (เทศาภบิ าล ปท​ี ี่ 1
เล่ม 2 (ตุลาคม–มีนาคม ร.ศ. 125): 20 อ้างถ​ ึงใ​น กระมล ทองธ​ รรมชาติ และค​ ณะ 2521: 32) เหตุน​ ี้ จึง​ทรง​
แนะนำ�​ให้​มีก​ าร “ทดลอง” จัด​ตั้งส​ ุขาภิบาลไ​ป​พลางๆ ก่อน จนก​ ระทั่ง พ.ศ. 2452 จึงไ​ด้​มี​การ​ออก​ประกาศ​ใช้​
กฎหมาย “พระร​ าชบ​ ัญญัติก​ ารจ​ ัดการส​ ุขาภิบาล ร.ศ. 127” เพื่อใ​ห้ม​ ีก​ ารจ​ ัดต​ ั้งส​ ุขาภิบาลข​ ึ้นอ​ ย่างเ​ป็นท​ างการ

	 * การเ​ปิดโ​อกาสใ​ห้ป​ ระชาชนไ​ด้เ​ลือกผ​ ู้นำ�​ในร​ ะดับท​ ้องถ​ ิ่น ดำ�เนินก​ ารแ​ บบค​ ่อยเ​ป็นค​ ่อยไ​ปใ​นแ​ ต่ละม​ ณฑล ครั้งแ​ รกส​ ุดเ​กิด​
ใน​หมู่บ้าน​แห่ง​หนึ่ง​ของม​ ณฑล​อยุธยา
		 ** กรรมก​ าร​ อื่นๆ ประกอบ​ด้วย ขุนพ​ ิจารณ์น​ ร​กิจ ขุนพ​ ินิจ​นรการ จีน​ฟัก จีนศ​ ุข จีนเ​ต่า จี​นอู๊ด และ​จีนโ​ป๊ะ (ผู้ใหญ่บ​ ้าน)
   43   44   45   46   47   48   49   50   51   52   53