Page 64 - การวิจัยและสถิติทางการศึกษา หน่วยที่ 6
P. 64
6-54 การวิจัยและสถิติทางการศึกษา
เร่ืองท ่ี 6.3.1 แนวคดิ เกี่ยวกบั แบบว ดั ค วามส ามารถในการคิด
ในปัจจุบันที่ความเจริญก้าวหน้าทางวิชาการ ตลอดจนเทคโนโลยีมีการขยายตัวอย่างไม่มีขอบเขต
ทำ�ให้สังคมมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เพราะฉ ะนั้นการที่จะปรับตัวให้สามารถอยู่ในสังคมปัจจุบัน
ได้อย่างมีความสุขได้นั้นจึงต้องมีการเตรียมความพร้อมให้กับเยาวชนหรือผู้เรียนให้ได้รับการพัฒนา
กระบวนการค ิด ที่จ ะช ่วยให้เยาวชนส ามารถแ ก้ป ัญหาอ ย่างม ีป ระสิทธิภาพ การต ัดสินใจอ ย่างไตร่ตรอง และ
มสี ติ รอบคอบ ตลอดจ นม กี ารเรียนร ูอ้ ย่างต อ่ เนือ่ งต ลอดช ีวิต ดังป รากฏในพ ระร าชบ ัญญตั กิ ารศ กึ ษาแ ห่งช าติ
พ.ศ. 2542 หมวด 4 แนวการจัดการศึกษา มาตรา 24 การจัดกระบวนการเรียนรู้ที่ให้มีการฝึกทักษะ
กระบวนการค ิด การจ ัดการ การเผชิญส ถานการณ์ และการป ระยุกต์ค วามร ู้ม าใชเ้พื่อป ้องกันแ ละแ ก้ไขป ัญหา
และในห ลักสูตรการศึกษาขั้นพ ื้นฐ าน พ.ศ. 2551ได้กำ�หนดความส ามารถในก ารคิดเป็นสมรรถนะสำ�คัญข อง
ผู้เรียนที่สถานศึกษาต้องมีการออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดกระบวนการคิด เพื่อให้
ผู้เรียนเกิดทักษะก ารค ิดที่ส ำ�คัญๆ คือ การคิดว ิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิดอ ย่างสร้างสรรค์ การคิด
อย่างม ีวิจารณญาณ และก ารค ิดเป็นระบบ ดังน ั้น การคิดจ ึงเป็นคุณลักษณะส ำ�คัญแ ละจำ�เป็นสำ�หรับมนุษย์
ทุกคน
การค ิดเป็นกร ะบ วนก ารท างส มอง ในก ารจ ัดก ระทำ�กับข ้อมูลห รือส ิ่งเร้าท ี่รับเข้าม า โดยเป็นร ากฐาน
ทีม่ คี วามส ำ�คัญต ่อก ารเรียนร ูแ้ ละก ารแ กป้ ัญหาข องบ ุคคล ทั้งนี้ เพราะก ารเรียนร ูแ้ ละก ารแ กป้ ัญหาน ั้น บุคคล
จะต ้องรู้จักใช้การคิดแ บบวิเคราะห์ วิจารณ์ ทำ�ความเข้าใจเกี่ยวกับความจริงหรือปัญหานั้นในลักษณะต ่างๆ
และการใช้ก ารคิดในการค้นหาแ นวท างใหม่ๆ ในก ารเรียนรู้แ ละการแ ก้ปัญหา ทั้งนี้ การสอนให้ค ิดจ ะช่วยให้
ผู้เรียนสามารถใช้เหตุผลในการตัดสินใจได้อย่างชัดเจน และสามารถพัฒนาตนเองให้เป็นไปตามเป้าหมาย
ของส ังคมแ ละการจ ัดการศ ึกษาที่ต ้องการ
กรอบค วามคิดของการค ดิ
ได้มีนักวิชาการได้กล่าวถึงกรอบความคิดของการคิดไว้หลายประเด็น ในที่นี้จะกล่าวถึง 1. คำ�ที่
แสดงถึงลักษณะข องก ารคิด 2. มิติของก ารค ิด ดังรายละเอียดต ่อไปน ี้
1. คำ�ท่ีแสดงถึงลักษณะของการคิด เป็นคำ�ที่เกี่ยวข้องก ับการใช้ความคิด ซึ่งมีการใช้อยู่หลายคำ�
ดังท ี่ ทิศน า แขมมณี และคณะ (2543: 89-90) ได้แบ่งกลุ่มเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ คือ
กล่มุ ท ่ี 1 เป็นค ำ�ที่แ สดงออกถ ึงการกร ะทำ�หรือพ ฤติกรรมซ ึ่งต้องใช้ค วามค ิด เช่น การส ังเกต
การเปรียบเทียบ การจ ำ�แนกแยกแยะ ฯลฯ คำ�ต่างๆ เหล่าน ี้แ ม้จ ะเป็นพ ฤติกรรมที่ไม่มีคำ�ว่า “คิด” อยู่ แต่
ก็ม ีค วามห มายของการคิดอ ยู่ในตัว คำ�ในก ลุ่มน ี้ม ีล ักษณะของพฤติกรรม/การกระทำ�ที่ช ัดเจน ซึ่งหากบุคคล
สามารถทำ�ได้อ ย่างชำ�นาญก็จ ะเรียกก ันว ่า ทักษะ ดังนั้น จึงเรียกค ำ�กลุ่มน ี้ว ่า ทักษะการค ิด