Page 33 - การวิจัยเพื่อพัฒนาการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย หน่วยที่ 10
P. 33
การว ิจัยเชิงทดลองในการศึกษานอกระบบแ ละการศ ึกษาตามอ ัธยาศัย 10-23
ข้ันต อนของก ารว ิจัยเชงิ ท ดลอง
การดำ�เนินการวิจัยเชิงทดลองต้องเป็นไปอย่างมีระบบ และสมเหตุสมผลบนพื้นฐานของหลักการ
แนวคิด ทฤษฎี สำ�หรับขั้นต อนการดำ�เนินก ารว ิจัยเชิงท ดลอง ในง านการศ ึกษาน อกระบบแ ละการศ ึกษาต าม
อัธยาศัยมีด ังนี้
1. กำ�หนดประเดน็ ค �ำ ถามของการว จิ ัย (identify research question) นักวิจัยจ ะต ้องก ำ�หนด ระบุ
และนิยามประเด็นคำ�ถามของการวิจัยไว้อย่างชัดเจน นักวิจัยต้องอธิบายได้ว่าประเด็นคำ�ถามการวิจัยมี
ความเป็นม าอ ย่างไร อยูใ่นข อบเขตข องก ารศ ึกษาน อกร ะบบห รือก ารศ ึกษาต ามอ ัธยาศัยห รือไม่ มคี วามส ำ�คัญ
เพยี งใดท ตี่ อ้ งการจ ะศ กึ ษา มแี นวคดิ ห รอื ท ฤษฎที เี่กีย่ วข้อง หรอื ม แี นวทางอ ธิบายห รอื แ กป้ ัญหาไวอ้ ยา่ งไรบ ้าง
และจ ะใชแ้ นวคิดท ฤษฎใีดส นับสนุนห รือเป็นกร อบค วามค ิดในก ารท ำ�วิจัย รวมท ั้งค ้นคว้าง านว ิจัยท ีเ่คยท ำ�ใน
ประเดน็ ท ตี่ อ้ งการศ กึ ษาแ ละค �ำ ถามก ารว จิ ยั ด งั ก ลา่ วจ ะห าค �ำ ตอบไดด้ ว้ ยว ธิ กี ารด �ำ เนนิ ก ารว จิ ยั เชงิ ท ดลองห รอื
ไม่ (ไม่มีร ูปแ บบก ารว ิจัยใดท ี่เหมาะส มเท่ากับก ารว ิจัยเชิงท ดลอง จึงได้น ำ�การว ิจัยเชิงท ดลองมาศ ึกษาเพื่อห า
คำ�ตอบข องป ระเด็นป ัญหาด ังก ล่าว) เช่น ทำ�ไมห รือม เีหตุผลส ำ�คัญอ ย่างไรจ ึงต ้องเปรียบเทียบผ ลส ัมฤทธิห์ รือ
ผลการเรียนร ู้ จากการสอนระหว่างก ารสอนแ บบบรรยายก ับก ารสอนด้วยชุดการเรียนโดยค อมพิวเตอร์
2. ตงั้ ส มมตฐิ าน (formulate hypothesis) ขั้นต อนน ี้ค ือก ารค าดก ารณ์ค ำ�ตอบไว้ล ่วงห น้าโดยอ าศัย
ทฤษฎีและผลการวิจัยที่เคยมีผู้ทำ�ไว้แล้ว ตลอดจนประสบการณ์ของผู้วิจัยเพื่อสนับสนุนหรือให้เหตุผล
นักวิจัยจะต้องตั้งสมมติฐานของการวิจัยเพื่อนำ�มาทดสอบภายใต้กรอบแนวคิดหรือทฤษฎีที่น่าเชื่อถือ โดย
การก ำ�หนดแ ละน ิยามต ัวแปรส ำ�หรับท ำ�การท ดลองต ามป ระเด็นค ำ�ถามข องก ารว ิจัย และท ำ�นายค วามส ัมพันธ์
ระหว่างตัวแปรที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นแนวทางสำ�หรับการสร้าง หรือกำ�หนดการจัดกระทำ� และเครื่องมือที่ใช้
ในการร วบรวมข ้อมูลท ี่ต ้องการ เช่น กำ�หนดว่าค ะแนนเฉลี่ยการเรียนรู้จ ากก ารเรียนโดยชุดค อมพิวเตอร์สูง
กว่าค ะแนนเฉลี่ยก ารเรียนรู้จ ากก ารบรรยาย ถ้าคิดว่าเรียนจากชุดการเรียนโดยคอมพิวเตอร์ดีกว่าการเรียน
แบบบ รรยาย แตถ่ ้าค ิดว ่าการเรียนจ ากช ุดก ารเรียนโดยค อมพิวเตอร์ เป็นอ ีกว ิธกี ารห นึ่งท ีใ่ชแ้ ทนก ารบ รรยาย
ได้ แต่ส ะดวกสำ�หรับผู้เรียน (นักศึกษา) ก็อ าจต ั้งส มมติฐานว่า คะแนนเฉลี่ยการเรียนรู้ด้วยชุดก ารเรียนโดย
คอมพิวเตอร์ไม่แ ตกต ่างจากค ะแนนเฉลี่ยการเรียนร ู้จ ากก ารบรรยาย เป็นต้น
3. ก�ำ หนดร ะดบั ข องข อ้ มลู แ ละร ะดบั ก ารว ดั ข องต วั แปรอ สิ ระ (vary the independent variables at
appropriate level) นักว ิจัยต ้องพ ิจารณาระดับข องข ้อมูลในต ัวแปรต ่างๆ ที่จ ะท ำ�การศ ึกษา กำ�หนดระดับก าร
วัดต ัวแปรท ั้งต ัวแปรต ้นแ ละต ัวแปรต ามท ี่เหมาะส มในก ารจ ัดก ระทำ�เพื่อแ ปลค ่าข องต ัวแปรอ ิสระท ี่ค าดว ่าจ ะ
ทำ�ให้ส ามารถสังเกตค่าข องต ัวแปรตามที่เกิดขึ้นได้ เช่น ต้องการเปรียบเทียบวิธีก ารสอน วิธีการส อนจึงเป็น
ตัวแปรต ้น หรือตัวแปรจ ัดก ระทำ� แบ่งร ะดับการวัดข องตัวแปรอ อกเป็น 2 ค่า คือ วิธีก ารส อนแบบบรรยาย
และวิธีการสอนด้วยชุดการเรียนโดยคอมพิวเตอร์ ระดับการวัดของข้อมูลจึงอยู่ในระดับกลุ่ม (nominal
scale) ในข ณะท ี่ผลจากก ารเรียนร ู้ด้วยวิธีก ารส อนท ั้งส องวิธี เป็นต ัวแปรตาม วัดผลออกมาเป็นคะแนน ซึ่ง
ระดับการว ัดข องข ้อมูลเป็นแบบช่วง (interval scale)