Page 28 - การวิจัยเพื่อพัฒนาการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย หน่วยที่ 10
P. 28
10-18 การวิจัยเพื่อพัฒนาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
1. ประวตั ศิ าสตรข์ องก ลมุ่ ต วั อยา่ งห รอื เหตกุ ารณพ์ อ้ ง (history) หมายถ ึง เหตกุ าร ณ์ใดๆ ทีเ่กิดข ึ้น
ระหว่างการทดสอบครั้งแรกกับการทดสอบครั้งหลัง (pretest and posttest) ซึ่งไม่ใช่ส่วนหนึ่งของ
การจัดกระทำ� (treatment) ในการทดลอง แต่อาจจะมีผลต่อตัวแปรตาม ซึ่งแนวทางการป้องกันไม่ให้
เกิดประวัติศาสตร์หรือเหตุการณ์พ้อง อาจดำ�เนินการโดยให้กลุ่มตัวอย่างอยู่แยกจากเหตุการณ์พ้องที่อาจ
เกิดข ึ้นให้ม ากที่สุด
2. วุฒิภ าวะ (maturation) หมายถ ึง การเปลี่ยนแปลงท างก ายห รือท างจ ิตใจภ ายในก ลุ่มต ัวอย่าง
ในช่วงระยะเวลาที่ทดลอง กลุ่มตัวอย่างอายุมากขึ้นจึงมีการพัฒนาการตามวัย มีการเจริญเติบโตทางกาย
เป็นต้น ซึ่งแนวทางการป้องกันไม่ให้เกิด maturation อาจดำ�เนินการโดยใช้ระยะเวลาในการทดลองที่
เหมาะสม ไม่ย าวจ นเกินไป
3. การเรียนรู้จากการทดสอบ (testing) หมายถึง การได้คะแนนสูงขึ้นในการสอบภายหลังซึ่ง
เป็นผลมาจากประสบการณ์การสอบก่อนของตัวอย่าง นั่นก็คือการสอบก่อนจะช่วยให้ได้คะแนนสูงขึ้นใน
การสอบภ ายห ลัง ไม่ว ่าจะได้ร ับก ารจ ัดก ระทำ�หรือไม่ หรือได้รับก ารส อนเพิ่มเติมห รือไม่ ระหว่างก ารส อบท ั้ง
สองครั้งนั้นก็ตาม ถ้าช่วงห่างของเวลาสอบทั้งสองครั้งมีระยะเวลาสั้นแล้วแนวโน้มจะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้
ไดง้ ่ายข ึ้น ยิ่งถ ้าห ากก ารส อบก ่อนเป็นการว ัดค วามจ ำ� กลุ่มต ัวอย่างอ าจจ ำ�ข้อสอบท ีส่ อบค รั้งแ รกห รือก ารส อบ
ก่อนการทดลองได้ ซึ่งแนวทางการป้องกันไม่ให้เกิดการเรียนรู้จากการทดสอบ อาจดำ�เนินการโดยจัดให้มี
การวัดผลหลังการทดลองเพียงครั้งเดียว หากการออกแบบการวิจัยนั้นจำ�เป็นต้องมีการวัดก่อนและหลัง
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล อาจเป็นแบบทดสอบที่มีลักษณะคู่ขนาน (วัดสิ่งเดียวกันแต่คนละ
ฉบับ) หรืออ าจให้ม ีก ารส อบก ่อนก ารท ดลองแ ละก ารส อบห ลังก ารท ดลองห ่างก ันม ากๆ ถ้าก ารท ดลองใช้เวลา
ยาวนานก ็อาจทำ�ให้ก ลุ่มตัวอย่างล ืมแบบทดสอบก่อนการท ดลอง
4. เคร่ืองมอื ทใี่ช้ (instrumentation) หมายถ ึง การขาดค วามเชื่อมั่น (reliability) หรือขาดค วาม
คงเสน้ ค งว าข องเครอื่ งม อื ในก ารเกบ็ ร วบรวมข อ้ มลู ซงึ่ อ าจเปน็ ผ ลม าจ ากข าดค วามเทย่ี งในก ารว ดั ห รอื เครอื่ งม อื
ไม่ได้คุณภาพ เช่น ข้อสอบก่อนและข้อสอบภายหลังมีความยากไม่เท่ากัน ไม่มีการตรวจสอบคุณภาพของ
เครื่องม ือก ่อนก ารนำ�มาใช้ การว ัดข ้อมูลด ้วยก ารส ังเกตเป็นไปอ ย่างไมเ่ป็นร ะบบ เป็นต้น แนวทางก ารป ้องกัน
คือ พยายามใช้เครื่องมือที่เก็บรวบรวมข้อมูลชนิดเดียวกันอยู่ภายใต้กระบวนการร วบรวมที่เป็นมาตรฐาน
เดียวกัน
5. การถ ดถอยท างส ถติ ิ (statistical regression) มักเกิดข ึ้นจ ากก ารเลือกต ัวอย่างท ีม่ คี ะแนนส ูงม าก
หรือต่ำ�มากในการสอบก่อนและมีแนวโน้มที่จะได้คะแนนที่เข้าใกล้ค่าเฉลี่ยในการสอบภายหลังซึ่งเป็น
แนวโน้มที่เป็นไปต ามธรรมชาติ ไม่ใช่เกิดจากอ ิทธิพลข องตัวแปรอ ิสระ แนวทางก ารป ้องกันคือ ไม่ควรเลือก
กลุ่มต ัวอย่างที่มีคะแนนต่างกันม ากๆ ควรเลือกตัวอย่างท ี่มีล ักษณะเหมือนกันโดยท ั่วไป
6. ความแตกต่างในการเลือกตัวอย่าง (differential selection) มักเกิดจากการเลือกกลุ่มทดลอง
ที่มีความแ ตกต่างกันมากมาใช้ทดลองหรือเลือกก ลุ่มทดลองที่มีอยู่แล้ว เช่น การเลือกนักศึกษาสายสามัญ
จากก ลุ่มที่มีอยู่แ ล้ว เมื่อสมาชิกกลุ่มทดลองมีความแ ตกต่างก ันตั้งแต่ต ้น ผลข องการท ดลองก ็ย่อมจะแตก
ต่างกัน แนวทางก ารป้องกันค ือ ใช้ว ิธีก ารเลือกต ัวอย่างแ บบเข้าก ลุ่ม หรือใช้วิธีก ารจ ับคู่ตัวอย่างเพื่อควบคุม
ตัวแปรแ ทรกซ้อน