Page 25 - การวิจัยเพื่อพัฒนาการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย หน่วยที่ 10
P. 25

การ​วิจัย​เชิงท​ ดลอง​ใน​การ​ศึกษาน​ อก​ระบบแ​ ละ​การ​ศึกษา​ตามอ​ ัธยาศัย 10-15

       จากก​ ารท​ ดลองก​ ารส​ อนก​ ารว​ ิจยั อ​ ย่างง​ า่ ย เนื่องจากน​ กั ศึกษาเ​รยี นเ​ปน็ กล​ ุม่ ในแ​ ต่ละก​ ลุ่มม​ นี​ กั ศกึ ษา​
ที่​หลาก​หลาย แต่​เมื่อ​เทียบ​ระหว่าง​กลุ่ม​การ​เรียน​แต่ละ​กลุ่ม​แล้ว ถือว่า​มี​นักศึกษา​คล้ายคลึง​กัน นัก​วิจัย​จึง​
ทำ�การ​สุ่มแ​ บบก​ ลุ่ม (cluster random sampling) ได้​ตัวอย่าง แต่​นักว​ ิจัย​ไม่​มั่นใจ​ว่าน​ ักศึกษาก​ ลุ่ม​ที่เ​รียน​
ด้วย​การ​สอน​แบบ​บรรยาย และ​กลุ่มท​ ี่​เรียนด​ ้วย​ชุด​การ​เรียนโ​ดย​คอมพิวเตอร์แ​ ทน​ผู้​สอน (ไม่ต​ ้อง​มี​ผู้​สอน)
จะ​มี​พื้น​ความ​รู้​หรือ​ความ​รู้​เดิม​เกี่ยว​กับ​การ​วิจัย​อย่าง​ง่าย​แตก​ต่าง​กัน​มา​ตั้งแต่​ก่อน​ทดลอง​สอน​หรือ​เข้า​ร่วม​
กจิ กรรมก​ ารเ​รยี นร​ ู้ นกั ว​ จิ ยั จ​ งึ ท​ �ำ การท​ ดสอบค​ วามร​ เู​้ กีย่ วก​ บั ก​ ารว​ จิ ยั อ​ ยา่ งง​ า่ ยท​ นี​่ กั ศกึ ษาท​ ัง้ ส​ องก​ ลุม่ ม​ อ​ี ยเู​่ ดมิ
ดว้ ยแ​ บบว​ ดั ค​ วามร​ กู​้ ารว​ จิ ยั อ​ ยา่ งง​ า่ ย ระดบั ม​ ธั ยมศกึ ษาต​ อนต​ น้ น�ำ ​คะแนนก​ ารท​ ดสอบข​ องน​ กั ศกึ ษาแ​ ตล่ ะค​ น​
มาค​ ำ�นวณเ​ป็นค​ ะแนนเ​ฉลี่ยข​ องน​ ักศึกษาก​ ลุ่มท​ ีเ่​รียนด​ ้วยก​ ารบ​ รรยาย และค​ ะแนนเ​ฉลี่ยข​ องน​ ักศึกษาก​ ลุ่มท​ ี​่
เรียนด​ ้วยช​ ุดก​ ารเ​รียนโ​ดยค​ อมพิวเตอร์ ถ้าค​ ะแนนเ​ฉลี่ยข​ องส​ องก​ ลุ่มน​ ีไ้​มแ่​ ตกต​ ่างก​ ัน ถือว่า ไม่มคี​ วามคลาด​
เคลื่อนอ​ ย่างส​ ุ่ม หรือ​มีน​ ้อยจ​ นไ​ม่ถ​ ึง​ระดับท​ ี่ย​ อมรับ​ได้ว​ ่าแ​ ตกต​ ่างก​ ัน เป็นเ​พียง​สิ่ง​ที่เ​กิด​ขึ้น​โดย​บังเอิญ แต่​ถ้า​
คะแนน​เฉลี่ย​ของ​ทั้งส​ องก​ ลุ่ม​แตก​ต่างก​ ัน หมายความ​ว่า ก่อน​ดำ�เนิน​การท​ ดลอง กลุ่ม​ตัวอย่างท​ ั้งส​ อน​มี​พื้น​
ความ​รู้​แตก​ต่าง​กัน หาก​นำ�​คะแนน​เฉลี่ย​ที่​ได้​จาก​การ​ทดสอบ​หลัง​การ​ทดลอง​หรือ​หลัง​จาก​การ​จัด​กระทำ�​มา​
เปรียบเ​ทียบก​ ัน ก็อ​ าจค​ ลาดเ​คลื่อน หรือท​ ำ�ให้ผ​ ลก​ ารเ​ปรียบเ​ทียบค​ ่าเ​ฉลี่ยด​ ังก​ ล่าวไ​ม่ส​ อดคล้องก​ ันก​ ับค​ วาม​
เป็น​จริง นักว​ ิจัยอ​ าจใ​ช้​การว​ ิเคราะห์ค​ วามแ​ ปรปรวนร​ ่วมเ​พื่อ​เปรียบเ​ทียบค​ ่า​คะแนน​เฉลี่ย​หลังก​ ารท​ ดลอง​ที่​
ปรับค​ ่า เนื่องจากก​ ารผ​ ันแปร​ตามพ​ ื้น​ความ​รู้เ​ดิม

       3.	 หลัก​การ​ควบคุม​ความ​แปรปรวน​จาก​ตัวแปร​แทรกซ้อน​ที่​ส่ง​ผลอ​ย่าง​มี​ระบบ หรือ control
extraneous systematic variance เป็นการ​ควบคุม​หรือ​ขจัด​ให้​ตัว​แป​รอื่นๆ ที่​ไม่​เกี่ยวข้อง​กับ​การ​ทดลอง
อ​ อก​ให้ห​ มด เพื่อใ​ห้ต​ ัวแปร​ตาม​ที่​เกิดข​ ึ้น​เป็นผ​ ลม​ าจ​ าก​ตัวแปรอ​ ิสระ​เท่านั้น มี​วิธีก​ ารด​ ำ�เนิน​การไ​ด้​ดังนี้

            1)	การ​สุ่ม (randomization) วิธี​นี้​ถือว่า​เป็น​วิธี​ที่​ดี การ​สุ่ม​เป็นการ​กระทำ�​ให้​กลุ่ม​ตัวอย่าง​ที่​
ได้จ​ าก​ประชากร​มี​คุณสมบัติ​ด้าน​ต่างๆ ที่ค​ ล้าย​กัน จึงส​ ามารถค​ วบคุมต​ ัวแปรแ​ ทรกซ้อน​ได้

            2)	การ​เพมิ่ ต​ วั แปรใ​น​การ​วิจยั (add to the design) ใน​กรณีท​ ี่​ตัวแปรแ​ ทรกซ้อน​บางต​ ัวค​ วบคุม​
ได้​ยาก นัก​วิจัย​สามารถ​นำ�​ตัว​แป​รนั้นๆ เพิ่ม​เข้าไป​ใน​การ​วิจัย โดย​ถือว่า​เป็น​ตัวแปร​อิสระ​ที่​จะ​ต้อง​ศึกษา​
ด้วย

            3)	การ​จับ​คู่ (matching) เป็นการ​ใช้​กลุ่ม​ตัวอย่าง 2 กลุ่ม​ที่​มี​คุณสมบัติ​เหมือน​กัน คือ ให้​มี​
ลักษณะ​ของ​ตัวแปรแ​ ทรกซ้อนใ​นร​ ะดับ​ที่เ​ท่าๆ กัน การจ​ ับค​ ู่​มี 2 แบบ​คือ

                 3.1)	การจ​ บั ก​ ลมุ่ (matched group) เป็นการจ​ ัดใ​ห้ท​ ั้ง 2 กลุ่มม​ ีค​ ุณสมบัติเ​หมือนก​ ัน โดย​
มไิ ดค​้ �ำ นงึ ถ​ งึ วา่ ส​ มาชกิ ใ​นก​ ลุม่ จ​ ะเ​ทา่ ก​ นั เ​ปน็ ร​ ายบ​ คุ คลห​ รอื ไ​ม่ ซึง่ ท​ �ำ ไดโ​้ ดยก​ ารส​ ุม่ ก​ ลุม่ ต​ วั อยา่ งแ​ ตล่ ะก​ ลุม่ แ​ ลว้ ​
นำ�​ทั้ง 2 กลุ่มห​ รือห​ ลายๆ กลุ่มม​ า​ทดสอบค​ วามแ​ ตกต​ ่างข​ องค​ ่าเ​ฉลี่ย และค​ วามแ​ ปรปรวน ถ้าพ​ บ​ว่าแ​ ตกต​ ่าง​
กัน ก็​ต้อง​จัดก​ ลุ่ม​ใหม่​เพื่อไ​ด้​กลุ่มต​ ัวอย่างท​ ี่​มีค​ ่า​เฉลี่ย​ที่ไ​ม่​แตก​ต่างก​ ัน

                 3.2)	จับ​คู่​ราย​บุคคล (matched subjects) เป็นการ​จัด​ให้​บุคคล​ที่​มี​ความ​เหมือน​กัน​หรือ​
เท่า​เทียม​กันม​ า​จับ​คู่ก​ ัน แล้ว​แยกอ​ อกเ​ป็น​คนละ​กลุ่ม ทำ�​เช่นน​ ี้​จน​ได้​ครบต​ ามจ​ ำ�นวน​ที่​ต้องการ ก็​จะไ​ด้​กลุ่ม​
ตัวอย่าง 2 กลุ่ม​ที่ม​ ีค​ ุณสมบัติ​เหมือน​กัน นำ� 2 กลุ่ม​นี้ม​ าท​ ดสอบ​ดูน​ ัยส​ ำ�คัญ​เชิงส​ ถิติเ​พื่อด​ ูค​ วาม​แตก​ต่างข​ อง​
ค่าเ​ฉลี่ย และค​ วาม​แปรปรวน​เช่น​เดียวก​ ับ​การ​จับ​กลุ่ม
   20   21   22   23   24   25   26   27   28   29   30