Page 22 - การวิจัยเพื่อพัฒนาการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย หน่วยที่ 10
P. 22

10-12 การวิจัยเพื่อพัฒนาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย

       3.	 ตัวแปร​แทรกซ้อน (extraneous variable) เป็น​ตัวแปร​ที่​เกิด​ขึ้น​และ​อาจ​มี​อิทธิพล​ต่อ​ผล​การ​
ทดลอง​โดยที่​ผู้​วิจัย​ไม่​ต้องการ​ให้​เกิด​ขึ้น ตัวแปร​แทรกซ้อน​เป็น​ตัวแปร​ที่​อาจ​จะ​มี​ผล​ต่อ​การ​ทดลอง เช่น
ความ​รู้​พื้น​ฐาน​ของ​ประชากร ภูมิ​หลัง การ​เจ็บ​ป่วย ความ​สนใจ ความ​วิตก​กังวล ความ​พร้อม​หรือ​ไม่​พร้อม
ฯลฯ ซึ่งต​ ัวแปรช​ นิดน​ ีน้​ ักว​ ิจัยพ​ ยายามค​ วบคุม จึงจ​ ะม​ ั่นใจไ​ดว้​ ่าผ​ ลท​ ีเ่​กิดข​ ึ้นเ​ป็นเ​พราะก​ ารท​ ดลองม​ ิใชอ่​ ิทธิพล​
ของ​สิ่งอ​ ื่น​หรืออ​ ิทธิพลข​ องต​ ัวแปร​แทรกซ้อน

       ตัวแปรแ​ ทรกซ้อนอ​ าจ​เกิด​ขึ้นไ​ด้จ​ าก​แหล่ง​ต่างๆ กัน ดังนี้
            1)	จากก​ ลุม่ ต​ วั อยา่ งห​ รอื ป​ ระชากร กลุม่ ต​ วั อยา่ งท​ ใี​่ ชใ​้ นก​ ารท​ ดลองท​ �ำ ใหเ​้ กดิ ต​ วั แปรแ​ ทรกซอ้ น​

ได้ม​ ากมาย เช่น อายุ ความ​รู้พ​ ื้นฐ​ าน ระดับก​ าร​ศึกษา เชื้อ​ชาติ สภาพ​ของค​ รอบครัว บุคลิกภาพ สติป​ ัญญา
ความ​ถนัด ความ​สนใจ ความ​พร้อม เป็นต้น เมื่อ​ต้องการ​เปรียบ​เทียบ​ผล​การ​ทดลอง​จาก​ตัวอย่าง​มากกว่า
1 กลุ่ม กลุ่ม​ตัวอย่าง​ที่​ใช้​อาจ​แตก​ต่าง​กัน​ตั้งแต่​ก่อน​การ​ทดลอง เมื่อ​พบ​ความ​แตก​ต่าง​ระหว่าง​ตัวแปร​ตาม
ความแ​ ตกต​ ่างท​ ี่พ​ บอ​ าจเ​ป็นผ​ ลม​ าจ​ ากก​ ารท​ ดลอง หรือ​เป็นผ​ ลม​ าจ​ ากก​ ารท​ ี่ก​ ลุ่มต​ ัวอย่างแ​ ตกต​ ่างก​ ันม​ าต​ ั้งแต​่
ต้นก​ ็ได้

            2)	จากว​ ิธีด​ ำ�เนินก​ ารท​ ดลองแ​ ละก​ ารท​ ดสอบใ​นก​ ารว​ ิจัยเ​ชิงท​ ดลอง วิธีด​ ำ�เนินก​ ารท​ ดลองแ​ ละ​
การท​ ดสอบอ​ าจม​ ีต​ ัวแปรแ​ ทรกซ้อน​เกิดข​ ึ้นด​ ้วย เช่น ความ​ผิดพ​ ลาด​ในว​ ิธีด​ ำ�เนินก​ าร คุณภาพ​ของส​ ิ่งท​ ดลอง​
ที่ใ​ช้​ทดสอบ ความ​ลำ�เอียงข​ อง​นักว​ ิจัย ความคลาด​เคลื่อน​ของ​เวลาท​ ี่​ใช้​ใน​การท​ ดลอง เป็นต้น

            3)	จาก​แหล่ง​ภายนอก สิ่ง​แวดล้อม​ย่อม​มี​ส่วน​ทำ�ให้​เกิด​ตัวแปร​แทรกซ้อน​ใน​การ​วิจัย​เชิง​
ทดลองไ​ด้เ​ช่นก​ ัน เช่น บรรยากาศ​ขณะ​ทดลอง เสียงร​ บกวน สถานท​ ี่​ไม่​เหมาะส​ ม เป็นต้น ตัวแปรแ​ ทรกซ้อน​
เหล่า​นี้​ผู้​ทำ�การ​วิจัยต​ ้องพ​ ยายามส​ ามารถ​ควบคุม​ให้ไ​ด้

       จากท​ ี่อ​ ธิบายม​ าข​ ้างต​ ้น การว​ ิจัยเ​ชิงท​ ดลองจ​ ึงเ​ป็นการ​ศึกษาจ​ ากส​ าเหตุไ​ปห​ าผ​ ล คือต​ ้องการ​ทราบว​ ่า​
ตัวแปรท​ ี่​ศึกษา​เป็นส​ าเหตุ​ที่ท​ ำ�ให้​เกิดผ​ ลเ​ช่น​นั้น​จริงห​ รือ​ไม่ เช่น ถ้าเ​กิด X แล้ว​จะต​ ้อง​เกิด Y หรือไ​ม่ ดังน​ ั้น
การว​ ิจัย​เชิงท​ ดลองจ​ ึงเ​ป็นการว​ ิจัยเ​พื่อห​ าความ​สัมพันธ์​เชิงเ​หตุผลข​ องป​ รากฏการณ์​ต่างๆ และถ​ ือว่า​เป็นการ​
วิจัยท​ ี่​ให้ค​ วามเ​ชื่อ​ถือใ​น​ผลก​ าร​วิจัยท​ ี่ด​ ี​ที่สุด ถ้าด​ ำ�เนิน​การอ​ ย่างเ​หมาะส​ ม​และ​ควบคุม​ตัวแปรแ​ ทรกซ้อน​ได้

       ใน​การว​ ิจัยเ​ชิงท​ ดลอง​มัก​จะ​มีก​ ลุ่ม​ที่ใ​ช้​ในก​ าร​วิจัย 2 ประเภทค​ ือ
       1.	 กล่มุ ​ทดลอง (experimental group) หมาย​ถึง กลุ่ม​ตัวอย่างท​ ี่​ได้​รับก​ ารจ​ ัด​กระทำ� (treatment)
ใน​การท​ ดลอง นิยมใ​ช้ส​ ัญลักษณ์ E การว​ ิจัยเ​ชิง​ทดลอง​ทุก​ประเภทต​ ้อง​มี​กลุ่ม​ทดลอง
       2.	 กลมุ่ ​ควบคุม (control group) หมาย​ถึง กลุ่ม​ที่น​ ัก​วิจัย​จัด​ให้​มี​ลักษณะ​เหมือนก​ ลุ่ม​ทดลอง แต​่
ไม่​ได้​รับ​การ​จัด​กระทำ�  หรือ​ปล่อย​ให้​เป็น​ไป​ตาม​สภาพ​ธรรมชาติ ทั้งนี้​เพื่อ​ประโยชน์​ใน​การ​เปรียบ​เทียบ​กับ​
กลุ่มท​ ดลอง นิยม​ใช้​สัญลักษณ์ C
       โดย​ปกติ​แล้วก​ลุ่ม​ทดลอง​และ​กลุ่ม​ควบคุม​เป็น​ตัวอย่าง​ที่​เป็น​ตัวแทน​ของ​ประชากร​ที่​ศึกษา น้อย​
ครั้ง​นัก​ที่​จะ​ศึกษา​จาก​ประชากร​ทั้งหมด และ​ถ้า​ศึกษา​จาก​ประชากร​ทั้งหมด​ก็​มัก​เป็นการ​ศึกษา​กลุ่ม​ทดลอง​
เพียง​กลุ่ม​เดียว​ไม่มี​กลุ่ม​ควบคุม ดัง​นั้น​ใน​การ​วิจัย​เชิง​ทดลอง​จึง​มัก​ศึกษา​จาก​กลุ่ม​ตัวอย่าง​โดยที่​ต้อง​มี​
กลุ่ม​ทดลอง ส่วนก​ ลุ่มค​ วบคุม​อาจ​มี​หรือไ​ม่ก​ ็ได้ ทั้งนี้ข​ ึ้น​อยู่​กับแ​ บบ​การ​วิจัย
   17   18   19   20   21   22   23   24   25   26   27