Page 45 - การวิจัยเพื่อพัฒนาการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย หน่วยที่ 10
P. 45
การว ิจัยเชิงทดลองในการศึกษานอกระบบและก ารศึกษาต ามอัธยาศัย 10-35
4) วิเคราะห์ข้อมูลในลักษณะของการเปรียบเทียบผลของการวัดหลังการทดลอง ระหว่างกลุ่ม
ทดลองและกลุ่มค วบคุม i(nOd1eเpทeียnบdกeับntOs2)amโดpยlใeช้สเมถื่อิตริอะ้าดงอับิงขอ(inงขfe้อrมenูลtตiaัวlแsปtaรtตisาtมicเปs)็นเตชัว่นแกปารรตท่อดเสนอื่อบง
โดยใช้สถิติ t-test for
มาตรวัดข ้อมูลอยู่ในร ะดับช่วงข ึ้นไป และข้อมูลนั้นม ีการแ จกแจงแบบป กติ เป็นต้น
ตัวอยา่ งก ารนำ�แ บบก ารว ิจัยน้ีไ ปใช้
นักวิจัยจะศึกษาว่าการใช้ชุดการฝึกปฏิบัติในการพัฒนาทักษะการเขียนภาษาอังกฤษที่นักวิจัย
พัฒนาข ึ้นม าน ั้น (X) จะส ่งผ ลต่อผ ลสัมฤทธิ์ในก ารเรียนของพ นักงานไปรษณีย์ด ้านการเขียนภ าษาอังกฤษได้
ไม่ด้อยก ว่าการเรียนแ บบบรรยายปกติ นักวิจัยเลือกตัวอย่างม า 2 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 สอนการเรียนภาษาอ ังกฤษ
โดยใช้ก ารเรียนแ บบบรรยายป กติ (C) กลุ่มท ี่ 2 สอนบรรยายแ ละฝึกปฏิบัติ (E) และเมื่อทำ�การส อนเสร็จสิ้น
ทั้ง 2 กลุ่ม นักวิจัยนำ�แบบทดสอบคะแนนการเขียนภาษาอังกฤษไปให้กลุ่มตัวอย่างทั้ง 2 กลุ่มทำ�การสอบ
จากนั้นเปรียบเทียบคะแนนของกลุ่มควบคุมกับกลุ่มทดลอง โดยใช้ t-test for independent sample
เพปัฒ็นนต้านข ถึ้น้ามคาะนแั้นน(นX)Oส1่งสผ ูงลกตว่อ่าผอลาสจัมหฤมทายธถิ์ในึงกก าารรใเรชีย้ชนุดขฝอึกงใพนนกัการงพานัฒไปนราทษักณษียะ์ดก ้าานรกเขาียรนเขภียานษภาาอษังกาอฤังษกทฤี่นษักด วีกิจวัย่า
การเรียนแบบบ รรยายปกติเพียงอย่างเดียว
ข้อดีข องแ บบก ารวจิ ยั
นักว ิจัยส ามารถเปรียบเทียบผ ลก ารท ดลองร ะหว่างก ลุ่มท ดลองก ับก ลุ่มค วบคุมได้ ทำ�ใหเ้ห็นผ ลข อง
การทดลองช ัดเจนกว่าก ารว ิจัยร ูปแบบที่ 1 และแ บบที่ 2 และช ่วยทำ�ให้ความตรงภ ายในดีขึ้น
จุดอ อ่ นของแบบก ารวจิ ยั
1) อาจเกิดความลำ�เอียงในการเลือกตัวอย่าง เนื่องจากนักวิจัยไม่ได้สุ่มตัวอย่างกลุ่มทดลองและ
กลุ่มควบคุมอ าจมีล ักษณะสำ�คัญบ างอ ย่างแ ตกต่างก ันอยู่ก่อนแ ล้ว ซึ่งมีอิทธิพลต่อผลข องการท ดลองได้
2) วุฒิภ าวะของกลุ่มตัวอย่างอาจมีผลต ่อการทดลอง สืบเนื่องมาจ ากป ระเด็นแ รก ถ้าก ลุ่มทดลอง
และกลุ่มควบคุมม ีวุฒิภ าวะแตกต่างกัน การเปลี่ยนแปลงข องว ุฒิภาวะท ี่ต่างก ันย่อมส ่งผ ลต่อการท ดลอง
3) การวิจัยรูปแบบนี้ถ้ากลุ่มตัวอย่างมีขนาดไม่มากพอ อาจไม่เป็นตัวแทนที่ดีของประชากรทำ�ให้
ขาดความต รงภ ายนอก
การวิจัยกึ่งท ดลอง 3 รูปแบบที่ก ล่าวม านี้ แคมเบลล์ และสแตนลีย์ (Cambell and Stanley, 1966:
6-13) เรียกว่า เป็นร ูปแ บบก่อนก ารทดลอง (pre experimental design) เป็นการว ิจัยเชิงท ดลองแ บบไม่แท้
คือ รูปแ บบศ ึกษาก ลุ่มเดียว วัดห ลังก ารท ดลอง รูปแ บบศ ึกษาก ลุ่มเดียว วัดก ่อนห ลังก ารท ดลอง และร ูปแ บบ
ศึกษากลุ่มทดลองและก ลุ่มค วบคุม วัดห ลังก ารทดลอง โดยให้เหตุผลว ่า ทั้ง 3 แบบก ารว ิจัยนี้มีการค วบคุม
ตัวแปรภายนอกน้อย ขาดน้ำ�หนักในการสรุปผลการวิจัยเชิงเหตุผล จึงอาจมีข้อจำ�กัดมาก เป็นรูปแบบที่
เหมาะสมส ำ�หรับการวิจัยช ั้นต้น เพื่อห าข ้อมูลพื้นฐ านในการท ำ�วิจัยในชั้นสูงต่อไป