Page 55 - การวิจัยเพื่อพัฒนาการศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย หน่วยที่ 10
P. 55
การวิจัยเชิงท ดลองในการศึกษาน อกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย 10-45
2. การเปรียบเทียบค ะแนนจ ากแ บบว ัดค วามร ูใ้นก ารจ ัดการข ยะข องก ลุ่มต ัวอย่างร ะหว่างก ่อนแ ละ
หลังการเข้าร่วมกิจกรรม พบว่า กลุ่มตัวอย่างมีคะแนนเฉลี่ยของความรู้ในการจัดการขยะสูงกว่าก่อนการ
เข้าร่วมกิจกรรม และมีความแ ตกต่างกันอย่างม ีน ัยสำ�คัญทางส ถิติที่ร ะดับ 0.05
3. การเปรียบเทียบคะแนนจ ากแบบว ัดท ักษะในการจัดการข ยะของก ลุ่มตัวอย่างร ะหว่างก ่อนและ
หลังการเข้าร่วมกิจกรรม พบว่า กลุ่มตัวอย่างมีคะแนนเฉลี่ยของทักษะในการจัดการขยะสูงกว่าก่อนการ
เข้าร ่วมกิจกรรม และมีความแตกต่างก ันอย่างม ีน ัยส ำ�คัญทางสถิติที่ร ะดับ 0.05
4. การเปรียบเทียบค ะแนนจ ากแ บบว ัดเจตคตใินก ารจ ัดการข ยะข องก ลุ่มต ัวอย่างร ะหว่างก ่อนแ ละ
หลังก ารเข้าร ่วมก ิจกรรม พบว ่า กลุ่มต ัวอย่างม ีค ะแนนเฉลี่ยข องเจตคติในก ารจ ัดการข ยะส ูงก ว่าก ่อนก ารเข้า
ร่วมก ิจกรรม และมีค วามแตกต่างก ันอย่างม ีนัยสำ�คัญทางส ถิติท ี่ระดับ 0.05
จากผลของการจัดกิจกรรมแสดงให้เห็นว่า หลังการเข้าร่วมกิจกรรมการศึกษานอกระบบโรงเรียน
ตามแ นวคิดก ารเรียนร ู้จ ากก ารปฏิบัติเพื่อส ่งเสริมก ารจ ัดการขยะในครัวเรือนข องกลุ่มแม่บ้าน ทำ�ให้แม่บ้าน
มีค วามรู้ ทักษะ และเจตคติในการจัดการขยะเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ผู้วิจัยได้กำ�หนดไว้ รวม
ทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้แม่บ้านผู้มีบทบาทสำ�คัญในการดูแลและจัดการความสะอาดเรียบร้อยภายในบ้าน
ได้มีค วามร ู้ ความเข้าใจ และสามารถถ่ายทอดความร ู้นี้ไปยังสมาชิกในบ ้านได้อีกด ้วย
ตอนท ี่ 3 ผลข องก ารป ระเมนิ ค วามพ งึ พ อใจในก ารเขา้ ร ว่ มก จิ กรรมก ารศ กึ ษาน อกร ะบบโรงเรยี นต าม
แนวคิดก ารเรียนรูจ้ ากการป ฏบิ ัติเพอ่ื ส ง่ เสริมก ารจัดการขยะในค รัวเรอื นของก ลุม่ แมบ่ ้าน
จากก ารป ระเมนิ ค วามพ งึ พ อใจในก ารจ ดั ก จิ กรรมก ารศ กึ ษาน อกร ะบบโรงเรยี นต ามแ นวคดิ ก ารเรยี น
รู้จ ากก ารป ฏิบัติเพื่อส ่งเสริมก ารจ ัดการข ยะในค รัวเรือนข องก ลุ่มแ มบ่ ้านด ้วยแ บบป ระเมินค วามพ ึงพ อใจ พบ
ว่า แม่บ ้านท ี่เข้าร ่วมก ิจกรรมมีค วามพ ึงพ อใจเฉลี่ยในด ้านร วมอ ยู่ในร ะดับมากท ี่สุด (x = 4.73) เมื่อพิจารณา
เป็นรายด้านพ บว่า คะแนนความพ ึงพ อใจเฉลี่ยสูงสุดคือ ด้านวิทยากร (x = 4.81) อยู่ในระดับมากที่สุด รอง
ลงมาคือ ด้านการจัดก ิจกรรม (x = 4.71) อยู่ในร ะดับมากท ี่สุด และคะแนนความพ ึงพ อใจเฉลี่ยต่ำ�ที่สุดคือ
ด้านเนื้อหาส าระ (x = 4.67) อยู่ในระดับม ากที่สุด
จากผลการประเมินดังกล่าว ผู้วิจัยสรุปได้ว่า กิจกรรมการศึกษานอกระบบโรงเรียนตามแนวคิด
การเรียนรู้จากการปฏิบัติเพื่อส่งเสริมการจัดการขยะในครัวเรือนของกลุ่มแม่บ้าน มีความเหมาะสมทั้งด้าน
เนื้อหาสาระ ด้านการจ ัดก ิจกรรม และด้านวิทยาการ ส่งผ ลให้แม่บ้านท ี่เข้าร ่วมกิจกรรมม ีความพ ึงพอใจต่อ
การจัดกิจกรรมอยู่ในระดับมากที่สุด
ขอ้ สังเกต
1) งานวิจัยนี้ผู้วิจัยต้องการพัฒนาหรือสร้างกิจกรรมการศึกษานอกระบบโรงเรียนตามแนวคิด
การเรียนรู้จากการปฏิบัติเพื่อส่งเสริมการจัดการขยะในครัวเรือนของกลุ่มแม่บ้าน ตามวัตถุประสงค์ของ
การวิจัยข้อที่ 2 ซึ่งกิจกรรมในลักษณะเช่นนี้ถือเป็นสิ่งใหม่ จากนั้นต้องการยืนยันว่ากิจกรรมที่พัฒนาขึ้น
ใหม่น ี้ใช้ได้ผ ล คือ ผู้เรียนเกิดก ารเรียนร ู้ จึงอ าศัยว ิธีก ารว ิจัยเชิงท ดลองเพื่อแ สดงว ่าเมื่อผ ู้เรียนได้ร ับก ารจ ัด
กระทำ� (กิจกรรมก ารศ ึกษาน อกร ะบบโรงเรียน) แล้วม ีค ะแนนค วามร ู้ ทักษะ และเจตคติในก ารจ ัดการข ยะใน
ครัวเรือนสูงกว่าคะแนนความรู้ ทักษะ และเจตคติในเรื่องเดียวกันก่อนได้รับการจัดกระทำ� ซึ่งถ้าผลเป็นที่