Page 20 - การพัฒนาบทเรียนและสื่อการสอนภาษาอังกฤษ
P. 20

13-10 การพัฒนาบทเรียนและสื่อการสอนภาษาอังกฤษ

       5. 	 แนวทาง​การ​จัด​กิจกรรม​การ​เรียน​รู้ ส่วน​นี้​ของ​บท​เรียน​จะ​เสนอ​แนวทาง​การ​จัด​กิจกรรม​ทั้ง​ใน​
ชั้น​เรียน นอก​ชั้น​เรียน ตลอด​จนถึง​กิจกรรม​ของ​สถาน​ศึกษา​ที่​จะ​จัด​ให้​แก่​ผู้​เรียน เพื่อ​ให้​ผู้​เรียน​เรียน​รู้​
เนื้อหาส​ าระแ​ ละไ​ด้​รับ​ประสบการณ์ค​ รบถ​ ้วน​ตาม​จุดม​ ุ่ง​หมายข​ อง​บทเ​รียน และว​ ัตถุประสงค์ใ​นภ​ าพ​รวม​ของ​
รายวิชา

       6. 	 แนวทางก​ ารว​ ดั แ​ ละป​ ระเมนิ ผ​ ลก​ ารเ​รยี นร​ ู้ สว่ นน​ จี​้ ะร​ ะบว​ุ ธิ ก​ี ารแ​ ละเ​กณฑท​์ จี​่ ะใ​ชใ​้ นก​ ารต​ รวจส​ อบ​
ว่าผ​ ู้​เรียน​หรือผ​ ู้ท​ ี่จ​ ะจ​ บ​บท​เรียนม​ ีค​ ุณลักษณะ​ครบ​ตาม​จุดม​ ุ่งห​ มายข​ องบ​ ทเ​รียนแ​ ละ​ของร​ ายวิชา​หรือ​ไม่

       นูนั​น (Nunan. 1988) กล่าวถ​ ึงอ​ งค์​ประกอบท​ ี่ค​ วรพ​ ิจารณาใ​นก​ าร​ออกแบบบ​ ท​เรียนภ​ าษาอังกฤษ
ไว้ 10 ข้อ ดังนี้

       1. 	 ความ​ต้องการ​จำ�เป็น (needs) และ​ความ​ต้องการ (wants) ของ​ผู้​เรียน ​ความ​ต้องการ​จำ�เป็น​
ของ​ผู้​เรียน เป็น​สิ่ง​ที่​ผู้​เรียน​แต่ละ​คน​ต้อง​ปฏิบัติ​ให้​ได้​เพื่อให้​การ​เรียน​รู้​ภาษา​นั้น ๆ ​มี​ประสิทธิภาพ​ตาม​
วัตถุประสงค์​ที่​วาง​เอา​ไว้ ส่วน​ความ​ต้องการ หมาย​ถึง สิ่ง​ที่​ผู้​เรียน​ต้องการ​เรียน​รู้​จริง ๆ ตาม​ความ​รู้สึก​
ส่วน​บุคคล ซึ่ง​อาจ​ไม่​สอดคล้อง​กับ​ข้อ​กำ�หนด​ของ​บท​เรียน​หรือ​ความ​ต้องการ​ของ​ผู้​สอน แต่​ความ​ต้องการ
​ทั้ง​สอง​ประเภท​จะ​เป็น​ข้อมูล​พื้น​ฐาน​ทำ�ให้​การ​ออกแบบ​บท​เรียน​เป็น​ไป​ตาม​วัตถุประสงค์​ของ​หลักสูตร​และ​
ความ​ประสงค์​เฉพาะ​บุคคลข​ องผ​ ู้​เรียน

       2. 	 ระดับ​ความ​รู้​ของ​ผู้​เรียน เป็น​ตัว​กำ�หนด​ระดับ​ความ​ยาก​ง่าย​ของ​เนื้อหา​ของ​บท​เรียน ระดับ
ค​ วามร​ ู้ข​ องผ​ ู้เ​รียนภ​ าษาโ​ดยท​ ั่วไปจ​ ะส​ ามารถ​แบ่งก​ ว้าง ๆ ได้อ​ อกเ​ป็น 3 ระดับ คือ ระดับเ​ริ่มเรียน (beginner)
ระดับก​ ลาง (intermediate) และร​ ะดับส​ ูง (advanced) แตม่​ นี​ ักว​ ิชาการด​ ้านภ​ าษาห​ ลายท​ ่านท​ ีแ่​ บ่งย​ ่อยค​ วาม​
สามารถข​ องผ​ ูเ้​รยี นร​ ะดับก​ ลางอ​ อกเ​ป็นร​ ะดับย​ ่อยอ​ กี 2 ระดบั คอื ระดับก​ ่อนร​ ะดบั ก​ ลาง (pre-intermediate)
และ​ระดับ​กลาง​ค่อน​ข้าง​สูง (upper-intermediate) ซึ่ง​การ​จัด​ระดับ​ความ​รู้​ลักษณะ​นี้​หาก​เป็น​ผู้​เรียน​ใน​
ชั้นเ​รียนท​ ี่​เป็นท​ างการ เช่น ใน​สถาบันก​ าร​ศึกษาจ​ ะใ​ช้ร​ ะดับช​ ั้น​เรียนเ​ป็นต​ ัวก​ ำ�หนด​ระดับ​ความ​รู้​ของผ​ ู้​เรียน

       3. 	 ผลลพั ธก​์ ารเ​รยี นร​ ท​ู้ ก​่ี �ำ หนดใ​หผ​้ เ​ู้ รยี นไ​ ดร​้ บั แ​ ละแ​ สดงใ​หเ​้ หน็ ไ​ ดห​้ ลงั ก​ ารเ​รยี น ผลลัพธ์ก​ ารเ​รียนร​ ู​้
เปรียบ​เสมือน​เป้าประสงค์​ของ​รายวิชา​ที่​กำ�หนด​ให้​ผู้​เรียน​ต้อง​สามารถ​แสดงออก​ให้​เห็น​โดย​วิธี​ใด​วิธี​หนึ่ง​
โดยใ​ช้​วิธี​การ​ประเมินท​ ี่​เหมาะ​สม เช่น การว​ ัด​ความเ​ข้าใจใ​นก​ ารอ​ ่าน​ในว​ ิชาการ​อ่าน หรือ การป​ ระเมิน​ความ​
ถูก​ต้อง​ใน​การ​จับ​ประเด็น​ของ​เนื้อหา​ใน​วิชาการ​ฟัง ซึ่ง​ผู้​ออกแบบ​บท​เรียน​จะ​ต้อง​พัฒนา​ขั้น​ตอน​และ​วิธี​การ​
เพื่อ​ให้ผ​ ู้เ​รียน​สามารถ​เดิน​ทาง​ไปส​ ู่​เส้นช​ ัย​ที่​เป็น​จุด​หมายป​ ลายท​ าง​ของ​การเ​รียนร​ ู้

       4. 	 ธรรมชาตข​ิ องศ​ าสตรแ​์ ละเ​นอ้ื หาข​ องร​ ายวชิ า สำ�หรับบ​ ทเ​รียนท​ ี่แ​ ยกต​ ามท​ ักษะภ​ าษาข​ องผ​ ู้เ​รียน​
นั้น ลำ�ดับ​ขั้น​ตอน​ของ​การ​จัด​เรียง​กิจกรรม​จะ​เป็น​ไป​ตาม​ธรรมชาติ​การ​รับ​รู้​ทักษะ​นั้น ๆ ของ​บุคคล เช่น ใน​
บทเ​รียน​ที่เ​น้นก​ ารอ​ ่าน ลำ�ดับก​ าร​จัดเ​รียงก​ ิจกรรมม​ ัก​เริ่มต​ ้น​ด้วย​กิจกรรมก​ ่อนก​ ารอ​ ่านท​ ี่ม​ ักเ​ป็นการ​กระตุ้น​
ความ​สนใจ​หรือ​ความ​รู้​เดิม​ของ​ผู้​เรียน​หลัง​จาก​นั้น​จึง​เป็นการ​อ่าน​และ​การ​ทดสอบ​ความ​เข้าใจ​หลัก​การ​อ่าน​
โดย​การ​ตอบ​คำ�ถาม​แบบ​ต่าง ๆ ซึ่ง​อาจ​ไม่​ต้อง​อาศัย​การ​เขียน​เลย​ก็ได้ เพราะ​ธรรมชาติ​ของ​รายวิชา​การ​อ่าน​
และก​ ารเ​ขยี นเ​ปน็ ส​ ิง่ ท​ สี​่ ามารถแ​ ยกอ​ อกจ​ ากก​ นั ห​ รอื ร​ วมเ​ขา้ ด​ ว้ ยก​ นั ไ​ดต​้ ามว​ ตั ถปุ ระสงคแ​์ ละค​ วามต​ อ้ งการข​ อง​
ผอู​้ อกแบบ ซึง่ แ​ ตกต​ า่ งจ​ ากบ​ ทเ​รยี นท​ เี​่ นน้ ท​ กั ษะก​ ารฟ​ งั แ​ ละก​ ารพ​ ดู ซ​ ึง่ ม​ ล​ี กั ษณะก​ ารจ​ ดั เ​รยี งข​ ัน้ ต​ อนท​ อี​่ าศยั ก​ าร​
   15   16   17   18   19   20   21   22   23   24   25