Page 21 - การพัฒนาบทเรียนและสื่อการสอนภาษาอังกฤษ
P. 21

การอ​ อกแบบ​บทเ​รียน​ภาษาอ​ ังกฤษ 13-11

สลับส​ ับ​เปลี่ยน​ระหว่าง 2 ทักษะอ​ ยู่​เสมอ เช่น ขึ้น​ต้นบท​เรียน​ด้วยก​ ารนำ�​เข้า​สู่บ​ ทเ​รียนท​ ี่ม​ ัก​เป็นการอ​ ภิปราย​
ใน​หัวข้อ​สั้น ๆ หลัง​จาก​นั้น​จึง​เป็นการ​ฟัง​การ​วัด​ความ​เข้าใจ​ของ​สิ่ง​ที่​ฟัง​แล้ว​จึง​เป็นการ​พูด​หรือ​การ​อภิปราย​
ถึง​สิ่ง​ที่​ได้​ฟัง นอกจาก​นี้​ธรรมชาติ​ของ​การ​รับ​รู้​ยัง​เป็น​สิ่ง​ที่​ผู้​ออกแบบ​บท เรียน​ต้อง​คำ�นึง​ถึง​อีก​ด้วย เช่น
การฟ​ งั จ​ ะอ​ าศยั ค​ วามท​ รงจ​ �ำ ​ของบ​ คุ คลท​ ไี​่ มย​่ าวเ​ทา่ กบั ก​ ารอ​ า่ น ซึง่ ส​ ิง่ ท​ นี​่ เี​้ ปน็ ล​ กั ษณะธ​ รรมชาตข​ิ องก​ ระบวนการ​
ทำ�งานข​ อง​สมอง​และค​ วาม​คิด​ของ​บุคคล

       5. 	 ระยะ​เวลา​ใน​การ​เรียน ระยะ​เวลา​ที่​ผู้​เรียน​ถูก​กำ�หนด​ให้​เรียน​หรือ​ต้องการ​เรียน​จะ​มี​ผล​ต่อ​การ​
ออกแบบ​กิจกรรม และ​ความ​ต่อ​เนื่อง​ของ​บท​เรียน​โดย​เฉพาะ​ใน​กรณี​ที่​บท​เรียน​อาจ​ต้อง​แบ่ง​ออก​เป็น​คาบ​
เรียนห​ ลายค​ าบ ความห​ มายข​ องร​ ะยะเ​วลาเ​รียนใ​นก​ ารอ​ อกแบบบ​ ทเ​รียนน​ ั้นม​ ีค​ วามห​ มายค​ รอบคลุมถ​ ึงร​ ะยะ​
เวลาร​ วมท​ ั้งหมดข​ องร​ ายวิชาแ​ ละร​ ะยะเ​วลาข​ องค​ าบเ​รียนแ​ ต่ละค​ รั้ง ทั้งนี้ผ​ ู้อ​ อกแบบย​ ังต​ ้องพ​ ิจารณาถ​ ึงค​ วาม​
เหมาะ​สมข​ องร​ ะดับเ​นื้อหาว​ ิชา​ด้วย ให้ม​ ีค​ วาม​สอดคล้อง​กับร​ ะยะ​เวลา เช่น รายวิชา​ที่​มีเ​นื้อหาย​ าก และ​ยาว​
ต้องใ​ช้ร​ ะยะเ​วลาใ​น​การเ​รียน​มากกว่า​การฟ​ ัง​ที่ม​ ีเ​นื้อหา​สั้น ไม่ซ​ ับซ​ ้อน เป็นต้น

       6. 	 ประเภท​ของ​ส่ือ​และ​กิจกรรม ประเภท​ของ​สื่อ​และ​กิจกรรม​จะ​มี​ความ​สอดคล้อง​กับ​ระดับ​อายุ​
ของผ​ ู้เ​รียนร​ วมถ​ ึงล​ ักษณะข​ องเ​นื้อหาว​ ิชา และ​ขนาดข​ อง​ชั้น​เรียน ใน​สถาบันก​ าร​ศึกษาท​ ี่ม​ ีอ​ ุปกรณ์เ​ทคโนโลย​ี
ครบ​ครัน ผู้​สอน​อาจม​ ีอ​ ิสระใ​น​การก​ ำ�หนด​รูปแ​ บบ​และก​ ารใ​ช้​สื่อต​ ่าง ๆ ได้​มากกว่า​ใน​สถาบัน​หรือส​ ถานท​ ี่ท​ ี่ม​ ี​
ข้อก​ ำ�จัด​ของ​โสต​ทัศนูปกรณ์ รวมถ​ ึงค​ วามร​ ู้ท​ างเ​ทคนิค​ของ​ผู้​เรียนท​ ี่​เป็นพ​ ื้น​ฐาน​ในก​ าร​เปิด​รับส​ ื่อเ​หล่าน​ ั้น

       7. 	 จำ�นวน​ผู้​เรียน​ใน​ช้ัน​เรียน โดย​ทั่วไป​ใน​ชั้น​เรียน​ภาษา​จะ​มี​การ​จำ�กัด​จำ�นวน​ของ​ผู้​เรียน​ไม่​ให้​มี​
จำ�นวนเ​กิน 50 คน ใน​รายวิชาท​ ี่​เน้น​การ​ฟัง การ​พูด หรือ​การ​เขียน จำ�นวนผ​ ู้​เรียน​ที่​ผู้​สอน​สามารถค​ วบคุม​
ดูแล​ได้​ทั่วถ​ ึง​จะ​เป็นช​ ั้นเ​รียนท​ ี่​มี​ขนาด 30 ถึง 35 คน ทั้งนี้ ไม่ไ​ด้​หมายความ​ว่า​ยิ่งม​ ีผ​ ู้​เรียน​น้อย​การเ​รียนก​ าร​
สอน​จะ​ยิ่ง​มี​ประสิทธิภาพ​เสมอ​ไป เพราะ​ใน​ทาง​ปฏิบัติ​ลักษณะ​เนื้อหา​รายวิชา และ​ทักษะ​ภาษา​จะ​เป็น​ปัจจัย​
ที่ม​ ี​ผลต​ ่อ​การก​ ำ�หนดข​ นาดช​ ั้นเ​รียนด​ ้วย เช่น รายวิชา​การฟ​ ัง-การ​พูด จำ�เป็น​ต้อง​อาศัยก​ าร​ทำ�งานก​ ลุ่ม หรือ​
การแ​ ลกเ​ปลี่ยน​ระหว่างผ​ ู้เ​รียน เพราะเ​ป็นล​ ักษณะท​ ี่​เป็น​ธรรมชาติ​ของ​การ​สื่อสาร​ที่​ต้อง​อาศัยป​ ฏิสัมพันธ์​กับ​
ผู้คนห​ ลากห​ ลาย

       8. 	 ทรัพยากร​ใน​การ​เรียน​รู้ เช่น จำ�นวน​หนังสือ หรือ​เทคโนโลยี​ใน​การ​เรียน​การ​สอน ​เทคโนโลยี​
การเ​รยี นก​ ารส​ อนจ​ ะส​ อดคลอ้ งก​ บั ส​ ือ่ แ​ ละก​ ารอ​ อกแบบก​ จิ กรรมก​ ารเ​รยี นก​ ารส​ อน ผอู​้ อกแบบบ​ ทเ​รยี นอ​ าจต​ อ้ ง​
มีท​ าง​เลือกส​ ำ�หรับ​ผู้ส​ อน​ใน​การ​จัด​กิจกรรมต​ ่าง ๆ ใน​บท​เรียน​โดย​อาศัย​การ​คาดก​ ารล​ ่วงห​ น้าถ​ ึงส​ ถานการณ​์
การ​เรียน​การ​สอน​หรือ​ชั้น​เรียน​ใน​สถาน​ศึกษา​บาง​แห่ง​ที่​อาจ​ขาดแคลน​เทคโนโลยี​หรือ​โสต​ทัศนูปกรณ์​ขั้น​
พื้น​ฐาน​ทั้งนี้​การ​ดัดแปลง​กิจกรรม​ต่าง ๆ ล้วน​ขึ้น​อยู่​กับ​ประสบการณ์​และ​วิจารณญาณ​ของ​ผู้​สอน​ด้วย​เช่น​
กัน

       9. 	 ความ​เป็น​ไป​ได้​ใน​การ​ตรวจ​สอบ​และ​ประเมิน​ผู้​เรียน ใน​ชั้น​เรียน​ภาษา ผู้​เรียน​ควร​ได้​รับ​การ​
ประเมิน​ทั้ง​ใน​ระหว่าง​เรียน​และ​หลัง​การ​เรียน​โดย​อาศัย​การ​พิจารณา​ของ​ผู้​สอน​เอง และ​เกณฑ์​การ​ประเมิน​
ของ​หลักสูตร การ​ออกแบบก​ ิจกรรม หรือ​รูป​แบบ​การ​วัด​ประเมิน​ผล​การ​เรียน​รู้​ล้วน​แต่​สอดคล้องก​ ับ​ปัจจัย​
ทั้งหมด​ที่​กล่าว​มา​แล้ว​ใน​ข้าง​ต้น โดย​คำ�นึง​ถึง​วัตถุประสงค์ข​ อง​บท​เรียน และ​ผลลัพธ์ก​ าร​เรียน​รู้​ของ​ผู้​เรียน​
เป็นห​ ลัก
   16   17   18   19   20   21   22   23   24   25   26