Page 45 - การพัฒนาบทเรียนและสื่อการสอนภาษาอังกฤษ
P. 45

การอ​ อกแบบ​บทเ​รียน​ภาษาอ​ ังกฤษ 13-35

2. 	กิจกรรมท​ ่ี​ใช​ใ้ น​การส​ อน​ทักษะอ​ า่ น

       กิจกรรม​ที่​ใช้​ใน​บท​เรียน​สำ�หรับ​การ​เรียน​การ​สอน​ทักษะ​อ่าน มัก​เน้น​ที่​กิจ​กรร​รม​ที่​จะ​ฝึกฝน​ทักษะ
กลวิธก​ี ารอ​ ่าน เปน็ ห​ ลกั อย่างไรก​ ็ตามจ​ ะเ​ห็นไ​ดว้​ ่าม​ กี​ ารจ​ ดั ก​ จิ กรรมก​ ารอ​ ่านใ​นล​ ักษณะห​ รือเ​ชื่อมโ​ยงก​ ับท​ ักษะ​
อื่น ๆ ตัวอย่างก​ ิจกรรม​ที่ใ​ช้​ในท​ ักษะก​ ารอ​ ่าน มีด​ ังนี้

       1)	 อ่านแ​ ล้วต​ อบค​ ำ�ถามป​ ระเภทต​ ่าง ๆ เช่น ความเ​ข้าใจค​ วามห​ มายข​ องค​ ำ�​ศัพท์ สำ�นวนว​ น ประโยค
ใจความ​สำ�คัญ ราย​ละเอียด วัตถุประสงค์​ในก​ าร​เขียน รูปแ​ บบ​การเ​ขียน ทัศ​คติ​ต่อ​เรื่อง​ที่เ​ขียน เป็นต้น โดย​
ใช้​แบบท​ ดสอบใ​นร​ ูป​แบบต​ ่าง ๆ เช่น แบบเ​ลือกต​ อบ แบบ​ถูกผ​ ิด แบบจ​ ับค​ ู่ ตอบ​คำ�ถามอ​ ย่างส​ ั้น

       2)	 อ่าน​แล้ว​วาด​รูป/ตารางจ​ ากเ​นื้อหา​ที่​อ่าน
       3)	 อ่าน​ข้อมูลจ​ าก​ตาราง​แล้วเ​ขียนบ​ รรยาย
       4)	 อ่าน​แล้วเ​ขียน/พูดส​ รุป​เนื้อหา​ที่อ​ ่าน
       5)	 อ่าน​แล้วเ​ขียน​สรุปโ​ดยก​ ารใ​ช้​แผนที่​ความ​คิด
       6)	 อ่าน​แล้วเ​ขียน/พูดแ​ สดงค​ วาม​คิดเ​ห็นเ​กี่ยวก​ ับส​ ิ่ง​ที่​อ่าน
       7)	 อ่านแ​ ล้วเ​ขียน/พูด​เล่า​เนื้อหา​ของ​เรื่องท​ ี่​อ่าน
       8)	 อ่าน​เนื้อ​เรื่อง​ที่​กำ�หนดแ​ ล้วน​ ำ�​มาเ​ขียนใ​หม่​โดยเ​รียงเ​หตุการณ์​ให้ถ​ ูกต​ ้อง
       9)	 อ่านแ​ ล้วเ​ขียน/แต่ง​เรื่อง​ตามค​ วามค​ ิดข​ องต​ นเอง
       10)	อ่าน​นิทาน​แล้ว​ออกม​ าแ​ สดงล​ ะคร​ตามเ​นื้อหาท​ ี่อ​ ่าน

                                       เป็นต้น
       อนึ่ง สำ�หรับ​กิจกรรมก​ าร​สอนท​ ักษะ​อ่าน โดยเ​ฉพาะ​อย่าง​ยิ่งก​ ิจกรรมท​ ี่​ให้​ผู้​เรียน​ทำ�​แบบฝ​ ึกหัด​เพื่อ​
ทดสอบค​ วามเ​ขา้ ใจใ​นก​ ารอ​ า่ น การใ​ชค​้ �ำ ถามม​ ค​ี วามส​ �ำ คญั ท​ จี​่ ะช​ ว่ ยใ​หผ​้ เู​้ รยี นไ​ดพ​้ ฒั นาค​ วามค​ ดิ ใ​นร​ ะดบั ต​ า่ ง ๆ
ซึ่ง​จะส​ ามารถ​พัฒนา​ได้ม​ ากห​ รือ​น้อย​ขึ้นอ​ ยู่ก​ ับ​ประเภท​ของ​คำ�ถาม​ที่ผ​ ู้ส​ อนใ​ช้ห​ รือ​ฝึก​ให้แ​ ก่​ผู้เ​รียน ฉะนั้น​การ​
ที่ผ​ ู้ส​ อน​รู้จักว​ ิธี​ใช้ค​ ำ�ถามใ​ห้เ​หมาะส​ มว​ ่า​จะใ​ช้​อย่างไร เมื่อไร และ​ที่ไหน ย่อมเ​ป็น​สิ่ง​ที่​จำ�เป็น​ใน​การ​สอน​อ่าน​
เพื่อ​ความ​เข้าใจ นักว​ ิชาการ​หลายท​ ่าน​ได้อ​ ธิบาย​เกี่ยว​กับป​ ระเภท​ของค​ ำ�ถาม​ไว้​ ดังนี้
       โคล (Cole. 1987: 114-121) ได้ร​ วบรวมก​ ารจ​ ำ�แนกป​ ระเภทข​ องค​ ำ�ถามไ​ว้ร​ วม 6 วิธี ซึ่ง​ใช้เ​กณฑ์ก​ าร​
จำ�แนก 6 เกณฑ์ ดัง​ต่อ​ไป​นี้
       1. 	 จ�ำ แนกต​ าม​ระดบั ข​ อง​คำ�ถาม ​ได้ 2 ประเภท คือ

            1.1 	ค�ำ ถามร​ ะดบั ต​ าํ่ (low order questions) ได้แก่ คำ�ถามท​ ี่ถ​ ามค​ วามร​ ู้ใ​นเ​นื้อหา หรือใ​ห้ร​ ะลึก​
ถึงข​ ้อ​เท็จจ​ ริง จึง​เรียกค​ ำ�ถามป​ ระเภท​นี้​อีกอ​ ย่างห​ นึ่งว​ ่า​คำ�ถาม​ข้อ​เท็จ​จริง

            1.2 	คำ�ถาม​ระดับ​สูง (high order questions) ได้แก่ คำ�ถาม​ที่​มี​การ​ตีความ การนำ�​ไป​ใช้
การว​ ิเคราะห์ การส​ ังเคราะห์ หรือก​ ารป​ ระเมินค​ ่า ซึ่งอ​ าจเ​รียกค​ ำ�​ว่า คำ�ถามใ​ห้ค​ ิด ซึ่งช​ ่วยใ​นก​ ารพ​ ัฒนาท​ ักษะ​
การค​ ิดแ​ ละ​การ​ใช้​เหตุผล​ในเ​นื้อหา​ที่เ​รียน

       2. 	 จ�ำ แนก​ตาม​ลักษณะข​ องค​ �ำ ​ตอบ ​ได้​เป็น 3 ประเภท คือ
            2.1 	ค�ำ ถาม​ที่​เน้นผ​ ลลัพธ์ (product questions) ซึ่งต​ ้องการค​ ำ�​ตอบท​ ี่​เป็นข​ ้อ​สรุปห​ รือ​ผลลัพธ์​ที่​

จะเ​กิดต​ ามม​ า มักเ​ป็นค​ ำ�​ตอบท​ ี่จ​ บใ​นต​ ัวเ​องส​ ั้น ๆ เช่น คำ�ถาม “อะไรเ​ป็นเ​หตสุ​ ำ�คัญ 3 ประการข​ องก​ ารป​ ฏิวัต​ิ
ใน​ฝรั่งเศส”
   40   41   42   43   44   45   46   47   48   49   50