Page 111 - การจัดประสบการณ์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์
P. 111
กระบวนการดำ�รงช ีวิต 2-101
พืชดอกมีการเจริญเติบโตเกิดขึ้นเป็นขั้นตอน (ภาพที่ 2.35) ตั้งแต่ระยะไข่ที่ถูกผสมจนกลายเป็น
เอ็มบริโออยู่ภ ายในเมล็ด การงอกของเมล็ด การเจริญข องลำ�ต้น ราก ใบ และดอก จนถึงร ะยะโตเต็มท ี่ท ี่จ ะ
สืบพันธุ์ได้ ต้นพืชที่เจริญเต็มที่จะประกอบด้วยเซลล์ซึ่งโตเต็มที่และทำ�หน้าที่เฉพาะต่างๆ กัน เซลล์พวกนี้
จะไม่มีการแบ่งตัวอีก แต่พืชก็ยังมีเซลล์อีกกลุ่มหนึ่งซึ่งมีการแบ่งตัวและเจริญตลอดเวลา คือ ส่วนที่เรียก
ว่า เนื้อเยื่อเจริญ (meristem) เนื้อเยื่อเจริญมีหน้าท ี่แ บ่งต ัวเพิ่มจำ�นวนเซลล์ใหม่ๆ ซึ่งเซลล์เหล่านี้บ างพ วก
ก็เจริญและเปลี่ยนแปลงกลายเป็นเนื้อเยื่อชนิดอื่นๆ แต่ก็ยังมีอีกพวกหนึ่งที่ยังคงเป็นเนื้อเยื่อเจริญอยู่
ดังน ั้น การเจริญข องพืชจ ึงเป็นแบบไม่มีวันส ิ้นสุดจ นกว่าจะหมดอายุของพ ืชนั้นๆ ตามสภาพปกติ แต่อัตรา
การเจริญจะลดลงตามอายุของพืช ซึ่งต่างกันกับการเจริญของสัตว์ที่เมื่อเจริญเต็มที่แล้วจะไม่มีการเจริญ
ต่อไป แต่มีการเปลี่ยนแปลงในท ิศทางท ี่เสื่อมล ง
ระยะการเจริญเติบโตของพ ืชด อกอาจแ บ่งได้ดังนี้ ระยะท ี่ 1 การเจริญของเอ็มบริโอในเมล็ด ระยะ
ที่ 2 การงอกข องเมล็ดแ ละการเจริญเติบโตข องต ้นกล้า ระยะท ี่ 3 การเจริญเติบโตขั้นต้น (primary growth)
ซึ่งเป็นการเติบโตท างด ้านค วามส ูงห รือก ารย ืดย าวข องล ำ�ต้นแ ละร าก การส ร้างร ากแ ขนง กิ่ง และใบ และร ะยะ
ที่ 4 การเจริญเติบโตขั้นท ี่ส อง (secondary growth) พบในพ ืชบางช นิด เป็นการเจริญเติบโตทางด้านค วาม
กว้างห รือความห นาข องลำ�ต้นแ ละรากข องพืช
2.1 การเจริญของเอ็มบริโอในเมล็ด เซลล์ไข่ของพืชดอกซึ่งอยู่ในรังไข่ จะได้รับการผสมโดย
นิวเคลียสข องส เปิร์มจ ากล ะอองเรณู หลังจ ากก ารผ สมแ ล้วไซโกต จะเจริญเป็นเอ็มบริโอ เมล็ดม ีอ าหารส ะสม
อยู่ในเอนโดสเปิร์ม ซึ่งเกิดจากการผสมของนิวเคลียสของสเปิร์มอีกอันหนึ่งกับโพลาร์นิวเคลียส เอ็มบริโอ
และเอนโดสเปิร์มจ ะถูกห ่อห ุ้มด้วยเปลือกห ุ้มเมล็ด (seed coat)
เมล็ดของพ ืชใบเลี้ยงค ู่ส ่วนใหญ่ท ี่เป็นพ ืชต ระกูลถ ั่ว เอ็มบริโอจ ะใช้อาหารสะสมในเอนโดส เปิร์มใน
การเจริญเติบโตจนห มด และม ีใบเลี้ยงซ ึ่งม ีอ าหารส ะสมแ ทน อาหารสะสมในใบเลี้ยงนี้จะใช้ในการง อกข อง
เมล็ดต่อไป ตัวอย่างข องเมล็ดเหล่าน ี้ ได้แก่ เมล็ดถั่วแขก ถั่วล ันเตา เมล็ดท านตะวัน เป็นต้น พืชใบเลี้ยงคู่
บางช นดิ เชน่ ละหุง่ จะม เีมล็ดซ ึง่ ย ังม เีอนโดส เปิรม์ อย ู่ และใบเลี้ยงจ ะม ลี ักษณะเปน็ แ ผน่ บางๆ ทำ�ห น้าทีด่ ูดซ มึ
อาหารจากเอนโดสเปิร์มมาเลี้ยงต้นอ่อน ส่วนเมล็ดของพืชใบเลี้ยงเดี่ยว เช่น ข้าว ข้าวโพด ถึงแม้ว่าจะมี
ใบเลี้ยงหนาและม ีอาหารสะสมก ็ยังด ูดซึมอาหารจากเอนโดส เปิร์มมาเลี้ยงต ้นอ ่อนเหมือนก ัน
การเจริญข องเอ็มบริโอในระย ะแรกๆ มีความค ล้ายคลึงก ันทั้งในพืชใบเลี้ยงค ู่และพ ืชใบเลี้ยงเดี่ยว
ตัวอย่างข องพ ืชใบเลี้ยงค ู่ท ี่ม ีก ารศ ึกษาม ากท ี่สุด คือ พืชพ วกแ คปเซลล า (Capsella bursa-pastoris) ส่วนใน
พืชใบเลี้ยงเดี่ยว คือ เอ็มบริโอของต ้นข ้าวโพด การเจริญข องเอ็มบริโอเริ่มด ้วยการแ บ่งตัวของไซโกตภ ายใน
ถุงบรรจุเอ็มบริโอในเมล็ด ในพืชดอกทั่วๆ ไป การแบ่งตัวครั้งแรกของไซโกตจะได้เซลล์มีขนาดไม่เท่ากัน
คือ เซลล์ข้างบ นซ ึ่งมีข นาดเล็กจ ะเจริญไปเป็นเอ็มบริโอ และเซลล์ที่ฐานซ ึ่งมีขนาดใหญ่ซ ึ่งต ่อม าจะกลายเป็น
ส่วนที่ยึดห รือพ ยุงเอ็มบริโอเรียก เซลล์พ ยุง (suspensor) จากก ารศ ึกษาพ บว ่านอกจ ากเซลล์พ ยุงจ ะม ีหน้าท ี่
ยึดเอ็มบริโอให้ฝังอยู่ในเอนโดสเปิร์มซึ่งเป็นอาหารสะสมแล้ว ยังมีหน้าที่ดูดซึมอาหารจากเอนโดสเปิร์มมา
เลี้ยงเอ็มบริโออีกด้วย นอกจากนี้ เซลล์พยุงของพืชบางชนิดยังมีการสร้างสารประกอบพวกโปรตีนซึ่งเป็น
อาหารเลี้ยงเอ็มบริโอที่กำ�ลังเจริญเติบโตอ ย่างร วดเร็ว