Page 97 - การจัดประสบการณ์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์
P. 97
ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม 3-87
ดังก ล่าว การป รับเปลี่ยนพื้นที่เกษตรกรรมไปเป็นอย่างอื่น เช่น ที่อยู่อ าศัย การอ ุตสาหกรรม พาณิชยกรรม
การท ่องเที่ยว หรือก ารใช้ที่นาเพื่อท ำ�นาก ุ้ง แสดงให้เห็นถึงการใช้ที่ดินผ ิดป ระเภทข องป ระเทศไทย
ในก ารใช้ท ี่ดินอ ย่างข าดค วามร ู้ค วามเข้าใจ จะก ่อให้เกิดผ ลเสียต ามม า เช่น การไม่รู้จ ักน ำ�เทคโนโลยี
ที่เหมาะส มมาใช้ การขาดการบำ�รุงร ักษาเนื้อด ินจนเกิดพ ังท ลายของด ิน ดินขาดความอุดมสมบูรณ์ และเกิด
มลพิษทางดินขึ้นได้ เพื่อให้การใช้ทรัพยากรดินเกิดประโยชน์อย่างสูงสุด จึงควรใช้ที่ดินให้เหมาะสมตาม
ศักยภาพ ต้องคำ�นึงถึงผลเสียที่อาจเกิดขึ้นต่อการใช้ทรัพยากรดินด้วย และควรป้องกันคุณภาพเนื้อดินให้
เหมาะสมและมีการปรับปรุง ทำ�นุบ ำ�รุงทรัพยากรด ินให้ค งส ภาพด ีอย่างสมํ่าเสมอ
4. ปัญหาข องท รพั ยากรดนิ
มนุษย์มีค วามสัมพันธ์ใกล้ช ิดก ับด ิน ปัญหาต่างๆที่เกิดข ึ้นก ับด ิน ไม่ว ่าจะเป็นป ัญหาใดจ ะเกี่ยวข้อง
กับช ีวิตข องม นุษยด์ ้วย ดินเป็นท รัพยากรธรรมชาตทิ ีใ่ชแ้ ล้วไม่มวี ันห มดส ิ้น สามารถเกิดข ึ้นด ้วยก ระบวนการ
ทางธ รรมชาติ แต่ห ากใช้ผ ิดว ิธี จะท ำ�ให้ด ินน ั้นเสื่อมค วามอ ุดมส มบูรณ์อ ย่างร วดเร็ว ซึ่งเป็นป ัญหาส ำ�คัญม าก
สำ�หรับก ารดำ�รงช ีวิตข องม นุษย์ ปัญหาที่เกิดกับท รัพยากรด ิน นอกจากจ ะเกิดข ึ้นตามธรรมชาติของดิน เช่น
ดินเค็ม ดินเปรี้ยวแ ล้ว อาจเป็นป ัญหาที่เกิดจ ากก ารใช้ที่ดินท ี่ไม่เหมาะสมข องม นุษย์ด ังต่อไปน ี้
4.1 ปัญหาท่ีดินเสื่อมความอุดมสมบูรณ์ การใช้ที่ดินเพื่อการเกษตรกรรมที่ขาดการบำ�รุงรักษาที่ดี
ทำ�ให้องค์ประกอบของดินบางส่วนที่เป็นธาตุอาหารของพืชถูกใช้ไปโดยไม่มีการเติมลงทดแทน ดินจึงขาด
ธาตุอาหารที่จำ�เป็นต่อพืช ส่งผลให้พืชเจริญเติบโตได้น้อยหรือช้าและให้ผลผลิตที่ลดลง นอกจากนี้การใช้
เทคโนโลยีท ี่ไม่เหมาะส มก ็อ าจท ำ�ให้ด ินเสื่อมโทรมล งได้ เช่น การใช้เครื่องจักรท ี่มีน ํ้าหนักม ากเพื่อไถพ รวน
ดิน จะท ำ�ให้ดินแ น่นไม่ร่วนซ ุย ความส ามารถในก ารซับนํ้าข องด ินลดล ง
4.2 ปัญหาการชะล้างพังทลายของดิน ดินส่วนที่อยู่ข้างบนหรือที่เรียกว่าหน้าดิน เป็นดินส่วนที่
มีความสำ�คัญต่อการเจริญเติบโตของพืชเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นส่วนที่มีอินทรียวัตถุและธาตุต่างๆ ที่มี
ความจ ำ�เป็นต่อก ารเจริญเติบโตของพืช ในหน้าดินที่ความลึกทุกๆ 1 เซนติเมตร ธรรมชาติต้องใช้เวลาส ร้าง
ถึง 100-400 ปี การพังท ลายข องหน้าดินม ักเกิดจากการใช้เทคโนโลยีในก ารเพาะป ลูกที่ไม่เหมาะสม เช่น การ
บุกรุกเข้าไปท ำ�การเกษตรในพ ื้นที่ส ูงข องป ระเทศ หรือก ารต ัดไม้ท ำ�ลายป ่าจ นไม่มีส ิ่งป กคลุมห รือไม่มีร ากพ ืช
ที่ยึดห น้าดินเอาไว้ เมื่อม ีก ระแสล มหรือฝนตกอย่างรุนแรง จะเกิดการช ะล้างพังทลายข องหน้าด ิน ก่อให้เกิด
ปัญหาดินเสื่อมความอุดมสมบูรณ์ได้ในที่สุด นอกจากนี้ตะกอนดินที่ถูกชะล้างไปยังเกิดผลเสียต่อคุณภาพ
นํ้า โดยท ำ�ให้น ํ้าข ุ่นข ้นและแ หล่งนํ้าตื้นเขินได้อ ีกด ้วย
4.3 ปญั หาการใช้ท่ดี ินผดิ ประเภท การใช้ท ี่ดินไม่สอดคล้องกับศักยภาพข องทรัพยากรดิน อาจก่อ
ให้เกิดผลเสียต ่อท รัพยากรด ินและสภาพแวดล้อมโดยร อบได้ เช่น การใช้ที่ดินชั้นเยี่ยมเหมาะส ำ�หรับการท ำ�
เกษตรมาใช้ในก ิจการอื่นๆ เช่น ที่พักอาศัย สถานที่ท ำ�งาน ศูนย์การค้า และโรงงานอ ุตสาหกรรม นอกจากจ ะ
ทำ�ให้เสียโอกาสในการใช้ที่ดินดังกล่าว และไม่สามารถสร้างที่ดินเหล่านี้ขึ้นมาใหม่ทดแทนได้แล้ว ยังทำ�ให้
เกิดของเสียห รือมลภาวะหรือมลพิษทางดินแ ก่ที่ดินในบ ริเวณใกล้เคียงได้อีกด้วย