Page 116 - หลักการและทฤษฎีการศึกษาเกี่ยวกับวิชาชีพครู
P. 116

10-106 หลักการและทฤษฎีการศึกษาเกี่ยวกับวิชาชีพครู

            5)	เมื่อชื่อน้ันอยู่ในป้ายประกาศหรือเป็นค�ำจ่าหัวในหนังสือพิมพ์ ไม่จ�ำเป็นต้องมี article
น�ำหน้า เช่น

                                   Faculty of Medicine
                                   Chiang Mai University

            แตถ่ า้ ชอ่ื นนั้ เปน็ คำ� ในประโยคจะตอ้ งมี the นำ� หนา้ เพอ่ื ระบใุ หช้ ดั เจนวา่ เปน็ คำ� นามนนั่ เอง เชน่

                The meeting will be held at the Faculty of Medicine, Chiang Mai University.

            6)	ชื่อประเทศที่เป็นช่ือเฉพาะไม่ต้องมี article น�ำหน้า เช่น Thailand, India, Malaysia
แต่ชื่อประเทศที่เป็นกลุ่มค�ำหรือเป็นรูปพหูพจน์ มักจะมี the น�ำหน้า เช่น the United States of America,
the Philippines, the Netherlands

            7)	กรณีท่ีมีการเขียนค�ำนามต่อเนื่องกันในประโยค มักจะใช้ the เป็นค�ำน�ำหน้าของค�ำนาม
แรกในกระบวน ส่วนค�ำต่อ ๆ ไปไม่ต้องมี the น�ำหน้า (เพราะหากมี the น�ำหน้าทุกค�ำจะรกรุงรังเกินไป)
ตัวอย่างเช่น

                Statistics employed for data analysis were the percentage, mean, standard
deviation, and t-test.

            ที่กล่าวมานี้สรุปได้ว่า การใช้ a, an, หรือ the น�ำหน้าค�ำนามในภาษาอังกฤษน้ันมีข้อพิจารณา
หลายกรณีซ่ึงต้องศึกษาและใช้ให้ถูก แต่หลักการท่ีควรยึดก็คือ ใช้เฉพาะเท่าที่จ�ำเป็นเท่านั้น หากมีค�ำอ่ืนน�ำ
หน้าค�ำนามอยู่แล้วก็ไม่จ�ำเป็นต้องใช้

       4.	 การใช้ค�ำนามในภาษาอังกฤษมีหลายประเภท โดยแบ่งเป็นประเภทใหญ่ ๆ 2 ประเภท คือ
ค�ำนามท่ีนับได้ (countable noun หรืออักษรย่อ c) กับค�ำนามที่นับไม่ได้ (uncountable noun หรืออักษร
ย่อว่า u)

       ค�ำนามที่นับได้ (c) คือค�ำนามท่ีสามารถแยกนับเป็นแต่ละหน่วยได้ แบ่งออกเป็น 2 รูป คือ รูป
เอกพจน์ และรูปพหูพจน์ และมีการใช้ค�ำกริยาท่ีสอดคล้องกัน เช่น ค�ำนามท่ีเป็นรูปเอกพจน์จะต้องมีการเติม
s ท่ีค�ำกริยาเมื่อเป็นปัจจุบันกาล (present tense) ส่วนค�ำนามที่เป็นรูปพหูพจน์ใช้ค�ำกริยาที่ไม่ต้องเติม s
กฎเหล่านี้เป็นกฎไวยากรณ์พ้ืนฐานท่ีรู้จักกันดีอยู่แล้ว

       ค�ำนามท่ีนับไม่ได้ (u) คือค�ำนามท่ีไม่สามารถแยกนับเป็นแต่ละหน่วยได้ ประกอบด้วยค�ำนามที่เป็น
นามธรรม เช่น honesty, beauty, intelligence เป็นต้น และค�ำนามท่ีเป็นปริมาณต่อเนื่องท่ีแยกนับไม่ได้
เช่น water, air, ice เป็นต้น ค�ำนามเหล่าน้ีมีรูปเป็นเอกพจน์และใช้ค�ำกริยาแบบเดียวกับค�ำนามที่นับได้ที่
เป็นเอกพจน์
   111   112   113   114   115   116   117   118   119   120   121