Page 17 - ประวัติศาสตร์เศรษฐกิจ และแนวคิดทางเศรษฐศาสตร์
P. 17

แนวคิด​เศรษฐศาสตร์​กระแสห​ ลัก​ใน​ปัจจุบัน 13-7

เรือ่ ง​ที่ 13.1.2
ทฤษฎีป​ ริมาณเ​งนิ

       รากฐานท​ ี่มาข​ อง​แนวคิดก​ ารเ​งินน​ ิยมค​ ือ ทฤษฎีป​ ริมาณ​เงิน (The Quantity Theory of Money) ซึ่งเ​ชื่อ​ว่า
ปริมาณ​เงินใ​นร​ ะบบเ​ศรษฐกิจ​กำ�หนดร​ ะดับ​ราคาส​ ินค้า แต่​ไม่ก​ ระทบร​ ะดับ​การ​จ้าง​งาน​และผ​ ลผลิต​ที่แท้​จริง แนวคิด​
เบื้อง​ต้น​ของท​ ฤษฎีป​ ริมาณเ​งิน​มีป​ ระวัติ​ย้อนห​ ลัง​ไป​ยาวนานถ​ ึงเ​ดวิด ฮูม (David Hume) ในศ​ ตวรรษท​ ี่ 18 แต่ไ​ด้​รับ​
การพ​ ัฒนาข​ ึ้นอ​ ย่างเ​ป็นร​ ะบบเ​มื่อต​ ้นศ​ ตวรรษท​ ี่ 20 โดยน​ ักเ​ศรษฐศาสตร์ช​ าวอ​ เมริกันแ​ ห่งม​ หาวิทยาลัยเ​ยลช​ ื่อ เออ​ ร์ว​ ิง
ฟิช​เชอร​ ์ (Irving Fisher) โดย​สรุป​แนวคิดด​ ัง​กล่าว​เป็นค​ วามส​ ัมพันธ์ท​ ี่​เรียก​ว่า สมการแ​ ลก​เปลี่ยน (The Equation
of Exchange) ดัง​ต่อ​ไปน​ ี้

	MVT  =  PTT	                                                                                                ..........(13.1)

      โดยที่	 M	 คือป​ ริมาณ​เงิน​ใน​ระบบเ​ศรษฐกิจ

      			 VPTTT			  คืออ​ ัตราก​ าร​หมุน​รอบ​ของเ​งิน
                    คือร​ ะดับ​ราคา​สินค้า
                    คือ​ปริมาณส​ ินค้าบ​ ริการท​ ี่ซ​ ื้อ​ขาย​ใน​ระบบ

      คำ�​อธิบาย​ต่อ​สมการ​ดัง​กล่าว​คือ การ​แลก​เปลี่ยน​สินค้า​ใน​ระบบ​เศรษฐกิจ​จะ​ต้อง​กระทำ�​โดย​ใช้​เงิน​ตรา​เป็น​

พาหะ นัย​หนึ่ง เงิน​ตรา​เป็น​ปัจจัย​หล่อ​ลื่น​ให้​สินค้า​บริการ​นานา​ชนิด​สามารถ​หมุนเวียน​ไป​สู่​มือ​ของ​ผู้​ที่​ต้องการ​ได้

เช่น  บในาท​ระ(Mบบ=​เศ5ร0ษ0)ฐฉกะิจน​มั้นี​กาปรร​ซิมื้อา​ขณาเ​ยง​สินินด​ คังก​้า​บลร่าวิก​จาะร​ต​เป้อ็นงห​​มมูลุนคเ​่าป3ล,ี่ย0น00ม​ ือบใ​าหท้​ผ​ตู้ค่อน​ปส​ี า(มPTารTถ=​ใช3้ซ​,0ื้อ0ส​ 0ิน)คแ้าลบ​ ะร​มิกีา​ปรรท​ิมี่ต​า้อณง​เกงาินร​อ​ไดยู​่้
500

เป็นจ​ ำ�นวน    ห6ารกอ​ปบรต​ิม่อา​ปณี (เ​PงินTT​ล/ดM​ลง=​เห3ล,0ือ0100/500บ0า=ท6()Mหา=ก3ป​0ร0ิม)าเณงิน​เงจ​ ินำ�นต​ วรนา​ม​ดีจ​ังำ�​กนลว่านว​จ​นะ้อต​ย้อก​งวห​่ามน​ ุนี้ เง​เปินล​ตี่ยรานก​​ม็จ​ือะ​ถต​ ึง้อ1ง0ห​ มรอุนบ​รต​อบ่อ​​
เร็ว​ขึ้น เช่น

ปี (PTT/Mตัว=แป3ร,00T0/ใ3น0​ส0ม=กา1ร0)(1เป3.็น1ต) ้นรวม​การซ​ ื้อ​ขายส​ ินค้า​บริการท​ ุก​ชนิด ทั้ง​เก่า​และ​ใหม่ และ​การ​ซื้อ​ขาย​สินทรัพย์​

ต่างๆ ตัวแปร T จึง​ไม่​สะท้อน​ถึง​ปริมาณ​ผลผลิต​ที่แท้​จริง​ของ​ระบบ​เศรษฐกิจ​โดยตรง แต่​ใน​เศรษฐศาสตร์​มหภาค

ตัวแปรส​ ำ�คัญ​คือ ราย​ได้​ประชาชาติ ซึ่ง​รวม​เฉพาะ​มูลค่า​สินค้า​บริการท​ ี่​ผลิต​ขึ้น​ใหม่​ใน​แต่ละ​ปี​เท่านั้น ฉะนั้น สมการ

(13.1) สามารถด​ ดั แปลงโ​ดยน​ ับเ​ฉพาะม​ ูลค่าก​ ารซ​ ือ้ ข​ ายส​ ินค้าบ​ ริการท​ ีผ่​ ลิตข​ ึน้ ใ​หมใ่​นแ​ ต่ละป​ ี ซึ่งก​ ค​็ อื รายไ​ดป้​ ระชาชาติ

นั่นเอง นัยห​ นึ่ง แทน​ตัวแปร T ด้วย Y ซึ่ง​หมายถ​ ึง​ปริมาณ​สินค้า​บริการท​ ี่​ผลิตข​ ึ้น​ใหม่​ใน​ปีน​ ั้น  ส่วน​ตัวแปร  VT  และ  PT
ก็ต​ ้อง​แก้ไข​ให้เ​ป็นก​ รณี​การ​ซื้อ​ขาย​สินค้าบ​ ริการ​ที่ผ​ ลิต​ขึ้นใ​หม่ ดังนี้
   12   13   14   15   16   17   18   19   20   21   22