Page 21 - ประวัติศาสตร์เศรษฐกิจ และแนวคิดทางเศรษฐศาสตร์
P. 21

แนวคิดเ​ศรษฐศาสตร์​กระแส​หลักใ​น​ปัจจุบัน 13-11

       จากน​ ั้น ฟรีด​ มันเ​สนอผ​ ลง​ านว​ ิจัยเ​ชิงป​ ระจักษ์ท​ ี่แ​ สดงว​ ่า ความต​ ้องการถ​ ือเ​งินเ​ป็นฟ​ ังก​ ์ชันที่ม​ ีเ​สถียรภาพ และ​
คตคัืวอวแาปมปร​ตริม้อrางaณกมา​เีอ​งรินิท​ถธือ(ิพM​เงลิน)ต​ม​ม่อี​คีค​ kววาาไมมม​ไส​่ม​วัมา​ตกพํ่าน​ต​ันัก่อธก​์​โกดารรยะ​เตทปรั่งลง​อี่ย​กานับจแถ​​รปาือยลวไ​ง่าดอ​k้ทัตเี่​เรสปาม็น​ผือ​ตลนัว​ต​เ​เอปงบิน็นแ“(ทPคนY่า​จ​ค) าโงดกท​สยี่”ินทไที่ก​ดรา้ ฉรัพเ​ะยปน์ลั(้นrี่ยaนน) ัยแนส​ปัยำ�ลห​คงนัญ​ปึ่งร​ขใิมอนาง​สณ​สมม​เกงกินาาร​ใรน((1​ร13ะ3.บ.88บ))​
เศรษฐกิจ​จะม​ ี​ผล​ต่อร​ ะดับร​ ายไ​ด้ที่​เป็น​ตัว​เงินใ​นท​ ิศทางเ​ดียวกัน แต่ค​ วามส​ ัมพันธ์ด​ ัง​กล่าวเ​ป็นเ​พียง “โดยป​ ระมาณ”
เช่น หาก​ปริมาณ​เงินเ​พิ่ม​ขึ้นร​ ้อย​ละ 5 รายไ​ด้ที่​เป็นต​ ัว​เงิน​ก็​จะเ​พิ่ม​ขึ้นป​ ระมาณร​ ้อยล​ ะ 5 เช่นก​ ัน

       นอกจาก​นี้ ฟรีด​ มัน​ยัง​เชื่อว​ ่า การ​ใช้จ​ ่ายล​ งทุน​ของ​เอกชนไ​ด้​รับ​อิทธิพลอ​ ย่าง​มาก​จากอ​ ัตรา​ดอกเบี้ย เช่น การ​
เพิ่มข​ ึ้น​เพียงเ​ล็กน​ ้อย​ของ​อัตราด​ อกเบี้ยจ​ ะท​ ำ�ให้​การ​ใช้จ​ ่าย​ลงทุนล​ ด​ลง​อย่าง​มาก

       นัยท​ างน​ โยบาย​ของท​ ฤษฎี​ปริมาณ​เงินข​ องฟ​ รีด​ มัน​ก็​คือ การ​เปลี่ยนแปลง​ปริมาณ​เงิน​และ​การด​ ำ�เนิน​นโยบาย​
การ​เงิน​ของ​ธนาคาร​กลาง​จะ​มี​อิทธิพล​อย่าง​มาก​ต่อ​ราย​ได้ป​ ระชาชาติ​ที่​เป็น​ตัวเ​งิน เช่น การ​ดำ�เนิน​นโยบาย​การ​เงิน​แบบ​
ผ่อนค​ ลายโ​ดยที่ธ​ นาคารก​ ลางเ​พิ่มป​ ริมาณเ​งินใ​นร​ ะบบเ​ศรษฐกิจ จะม​ ีผ​ ลใ​ห้อ​ ัตราด​ อกเบี้ยล​ ดล​ งซ​ ึ่งจ​ ะไ​ปก​ ระตุ้นก​ ารใ​ช​้
จ่ายล​ งทุน​ของเ​อกชนใ​ห้เ​พิ่มข​ ึ้น และ​มีผ​ ลใ​ห้​ราย​ได้​ประชาชาติ​ที่เ​ป็น​ตัว​เงิน​เพิ่มข​ ึ้นเ​ป็น​ทวีคูณ

       ใน​ทาง​ตรง​ข้าม ฟรี​ดมัน​เชื่อ​ว่า นโยบาย​การ​คลัง​ของ​รัฐบาล​ที่​แทรกแซง​ระบบ​เศรษฐกิจ​โดย​ผ่าน​การ​ใช้​จ่าย​
ของ​รัฐบาล​และ​การ​จัด​เก็บ​ภาษี​ไม่มี​ผล​ต่อ​การ​เปลี่ยนแปลง​ราย​ได้​ประชาชาติ​ที่แท้​จริง​มาก​นัก เช่น รัฐบาล​ใช้​จ่าย​เพิ่ม​
ขึ้นเ​พื่อก​ ระตุ้นเ​ศรษฐกิจ แต่ใ​นข​ ณะเ​ดียวกัน รัฐบาลก​ ็จ​ ะต​ ้องข​ าดด​ ุลง​ บป​ ระมาณม​ ากข​ ึ้นแ​ ละจ​ ะต​ ้องก​ ู้ย​ ืมจ​ ากป​ ระชาชน
โดย​การ​ขาย​พันธบัตรม​ าก​ขึ้น แต่ก​ าร​กู้​ยืมข​ องร​ ัฐบาลก​ ็ท​ ำ�ให้​อัตราด​ อกเบี้ย​เพิ่มส​ ูงข​ ึ้น ซึ่งจ​ ะ​ทำ�ให้ก​ าร​ใช้​จ่ายล​ งทุน​ของ​
เอกชนล​ ดต​ ํ่าล​ ง ผลก​ระท​ บข​ องก​ าร​เพิ่มร​ าย​จ่ายข​ อง​รัฐบาล​จึงถ​ ูกล​ บล้างด​ ้วย​การ​ลดล​ งข​ องก​ าร​ใช้จ​ ่าย​ลงทุน​ของเ​อกชน
ทำ�ให้​เกิด​ผลก​ระ​ทบ​สุทธิ​เพียง​เล็ก​น้อย​ต่อ​ราย​ได้​ประชาชาติ​ที่แท้​จริง ฉะนั้น นโยบาย​การ​คลัง​ของ​รัฐบาล​จึง​ไม่ใช่​
เครื่อง​มือ​ที่ม​ ี​ประสิทธิผล​ในก​ ารส​ ร้างเ​สถียรภาพข​ องร​ ะบบเ​ศรษฐกิจ

       แม้วา่ ปริมาณเ​งินจ​ ะม​ อ​ี ทิ ธิพลโ​ดยตรงต​ ่อร​ ะดับร​ ายไ​ดป้​ ระชาชาตทิ​ ีเ่​ป็นต​ ัวเ​งนิ แตฟ่​ รด​ี มันก​ ลับเ​ห็นว​ า่ นโยบาย​
การเ​งนิ ข​ องธ​ นาคารก​ ลางม​ ใิ ชเ​่ ครือ่ งม​ อื ท​ ชี​่ ว่ ยแ​ กป​้ ญั หาว​ า่ งง​ านห​ รอื เ​งนิ เฟอ้ แ​ ตอ​่ ยา่ งใ​ด หากแ​ ตก​่ ลบั ท​ �ำ ใหร​้ ะบบเ​ศรษฐกจิ ​
ไร้เ​สถียรภาพม​ ากย​ ิ่งข​ ึ้น ทั้งนี้เ​พราะฟ​ รีด​ มันเ​ชื่อว​ ่า ระบบเ​ศรษฐกิจภ​ าคเ​อกชนโ​ดยต​ ัวเ​องม​ ีเ​สถียรภาพส​ ูง สามารถป​ รับ​
ตัว​เอง​ต่อ​ผลก​ระ​ทบ​ทั้ง​จาก​ใน​และ​นอก​ระบบ (เช่น การ​เปลี่ยน​กระทัน​หัน​ของ​การ​ลงทุน การ​ขึ้น​ราคา​นํ้ามัน​เชื้อ​เพลิง
เป็นต้น) ได้อ​ ย่าง​รวดเร็วแ​ ละค​ ่อนข​ ้าง​ราบร​ ื่น แต่ก​ าร​ที่​ธนาคาร​กลางเ​ข้า​แทรกแซงด​ ้วยน​ โยบาย​การ​เงิน​โดย​เชื่อว​ ่า ตน​
สามารถส​ รา้ งเ​สถยี รภาพใ​หแ​้ กร​่ ะบบเ​ศรษฐกจิ ไ​ด้ กลบั ท​ �ำ ใหร​้ ายไ​ดป​้ ระชาชาตท​ิ เี​่ ปน็ ต​ วั เ​งนิ ม​ ก​ี ารกร​ ะเ​พือ่ ม​ ข​ ึน้ ล​ งม​ ากกวา่ ​
ที่​ควรจ​ ะ​เป็น และท​ ำ�ให้​ระบบเ​ศรษฐกิจม​ ีเ​สถียรภาพน​ ้อยล​ ง

       ฟรี​ดมัน​สรุป​ว่า ธนาคาร​กลาง​ไม่​ควร​ดำ�เนิน​นโยบาย​การ​เงิน “เชิง​รุก” คือ ไม่​ควร​มุ่ง​เข้า​แทรกแซง​ระบบ​
เศรษฐกิจเ​พื่อ “สร้างเ​สถียรภาพ” หรือ “แก้​ปัญหาว​ ่างง​ านแ​ ละเ​งินเฟ้อ” เพราะน​ โยบายด​ ัง​กล่าวม​ ีผ​ ล​ในท​ างต​ รงข​ ้าม​
ที่ท​ ำ�ให้​ระบบเ​ศรษฐกิจ​ไร้​เสถียรภาพ ทางออกค​ ือ ธนาคาร​กลางค​ วรป​ ฏิบัติต​ าม “กฎก​ าร​เงิน” (monetary rules) ที่​
ตายตัว​โดย​ไม่​ต้อง​พิจารณาถ​ ึง​ภาวะ​เศรษฐกิจ​ในร​ ะยะ​สั้น และ​กฎ​ที่ฟ​ รี​ดมันเ​สนอ​คือ “กฎ​การ​เพิ่ม​ปริมาณเ​งินใ​น​อัตรา​
คงที่” (The constant money growth rule) เช่น กำ�หนดล​ ่วงห​ น้าใ​ห้เ​พิ่ม​ปริมาณ​เงิน​ใน​ระบบ​บ​ในอ​ ัตรา​ร้อยล​ ะ 5
ต่อป​ ี เป็นต้น ฟรีด​ มันใ​ห้เ​หตุผลว​ ่า หากป​ ริมาณเ​งินเ​พิ่มข​ ึ้นใ​นอ​ ัตราค​ งที่ใ​นร​ ะยะย​ าวแ​ ล้ว รายไ​ด้ป​ ระชาชาติท​ ี่เ​ป็นต​ ัวเ​งิน​
ก็จ​ ะเ​พิ่มข​ ึ้น​ใน​อัตรา​คงที่ใ​นร​ ะยะย​ าวเ​ช่น​กันด​ ังป​ รากฏ​ในส​ มการ (13.8) และห​ ากผ​ ลผลิตท​ ี่แท้จ​ ริง (Y) เพิ่มข​ ึ้นใ​นอ​ ัตรา​
คงที่ เช่น ร้อยล​ ะ 2 ต่อ​ปี ก็​หมายความ​ว่า ระดับ​ราคาส​ ินค้าใ​นร​ ะบบจ​ ะ​เพิ่ม​ขึ้น​ร้อยล​ ะ 3 ต่อป​ ี ดังนี้
   16   17   18   19   20   21   22   23   24   25   26