Page 26 - ประวัติศาสตร์เศรษฐกิจ และแนวคิดทางเศรษฐศาสตร์
P. 26
13-16 ประวัติศาสตร์เศรษฐกิจและแ นวคิดทางเศรษฐศาสตร์
นัยหนึ่ง คนงานทำ�การคาดคะเนระดับราคาปัจจุบันโดยมิเพียงใช้ระดับราคาสินค้าในอดีตเท่านั้น แต่ยังใช้
ประสบการณ์จ ากตัวแปรอดีตอื่นๆ ที่ตนท ราบ เช่น พฤติกรรมและน โยบายข องธ นาคารก ลางในอ ดีต ระดับการใช้จ่าย
การจ ัดเก็บภ าษี และป ริมาณเงินในอ ดีต และค ่าค าดค ะเนข องต ัวแปรด ังก ล่าวในป ัจจุบัน เป็นต้น ยิ่งก ว่าน ั้น การส มมติ
ให้ท ั้งน ายจ้างและคนง าน “สามารถร ะบุค วามส ัมพันธ์ร ะหว่างต ัวแปรต ่างๆ ได้อ ย่างถูกต ้อง ก็เท่ากับส มมติให้พ วกเขา
มีก ระบวนการค ิดแ ละค าดค ะเนอ ย่างเป็นร ะบบเสมือนห นึ่ง มีแ บบจ ำ�ลองท างเศรษฐกิจอ ันซ ับซ ้อนอ ยู่ในห ัวส มอง” อีก
ด้วย สมมติฐานดังก ล่าวมีลักษณะต รงไปตรงม าและค่อนข้างรุนแรง และก็ม ีนัยทางน โยบายท ี่แ ตกต ่างอ ย่างส ิ้นเชิงไป
จากเศรษฐศ าสตร์เคนส ์เซียน ตลอดจ นไปส นับสนุนข้อคิดพื้นฐานข องแ นวคิดก ารเงินนิยมว่าด้วยบทบาทของร ัฐบาล
และธนาคารก ลางให้เข้มแข็งชัดเจนแ ละเป็นร ะบบย ิ่งข ึ้น
กิจกรรม 13.2.1
อธิบายสมมติฐานว า่ ดว้ ยก ารคาดคะเนท ่สี มเหตสุ มผล
แนวตอบก ิจกรรม 13.2.1
ทง้ั น ายจา้ งแ ละค นง านจ ะท �ำ การค าดค ะเนค า่ ตวั แ ปรใดๆ (เชน่ ระดบั ร าคาส นิ คา้ ป จั จบุ นั ) โดยใชข้ า่ วสาร
ขอ้ มูลและค ่าตวั แ ปร อ่ืนๆ ท่ีเกีย่ วข้องแ ละท ม่ี ีอย่ทู ้ังหมดอ ยา่ งม ปี ระสิทธภิ าพชาญฉลาด โดยส ามารถระบุความ
สัมพันธร์ ะหวา่ งตวั แปรต า่ งๆ ได้อย่างถ ูกต อ้ ง
เร่อื งท่ี 13.2.2
ทฤษฎแี ละนโยบายของเศรษฐศาสตร์คลาสสิกใหม่
นักเศรษฐศาสตร์ค ลาสสิกใหม่จ ำ�แนกน โยบายข องร ัฐบาลในก ารส ร้างเสถียรภาพแ ก่ร ะบบเศรษฐกิจอ อกเป็น
สองป ระเภทใหญ่ๆ คือ นโยบายรัฐบาลท ี่ภาคเอกชนค าดร ู้ล ่วงห น้า และนโยบายที่ไม่รู้ล ่วงห น้า
นโยบายร ัฐบาลท ี่ภ าคเอกชนคาดรู้ล ่วงหน้าได้แก่ นโยบายที่ร ัฐบาลเคยก ระทำ�มาแล้วในอดีต และได้น ำ�กลับ
มากระทำ�ซํ้าในรูปแบบเดิม หรือเป็นนโยบายที่รัฐบาลประกาศล่วงหน้าโดยที่ภาคเอกชนก็เชื่อว่า รัฐบาลจะทำ�ตามที่
ประกาศอย่างแน่นอน หัวใจสำ�คัญคือ ภาคเอกชนรับรู้ล่วงหน้าว่า รัฐบาลกำ�ลังจะแทรกแซงระบบเศรษฐกิจอย่างไร
ในกรณีเหล่านี้ นักเศรษฐศาสตร์คลาสสิกใหม่เห็นว่า การกระทำ�ของรัฐบาลจะมีผลแต่เพียงทำ�ให้ระดับราคาสินค้า
และค่าจ้างที่เป็นตัวเงินสูงขึ้นเท่านั้น แต่จะไม่มีผลกระทบต่อระดับผลผลิต การจ้างงาน และระดับค่าจ้างที่แท้จริง
แต่อย่างใด ทั้งนี้เนื่องจากภาคเอกชนรู้ล่วงหน้าว่ารัฐบาลกำ�ลังทำ�อะไร และได้ปรับการคาดคะเนระดับราคาได้อย่าง
ถูกต้อง ตัวอย่างเช่น ธนาคารก ลางด ำ�เนินน โยบายการเงินแ บบข ยายต ัวด ้วยการเพิ่มปริมาณเงินในร ะบบเศรษฐกิจอีก
ร้อยล ะ 5 ทั้งนายจ้างและคนง านก็จ ะค าดคะเนได้ล ่วงห น้าว่า ราคาส ินค้าจะเพิ่มสูงขึ้นป ระมาณร้อยล ะ 5 จึงต ่างเพิ่ม
ระดับราคาส ินค้าและอัตราค่าจ้างท ี่เป็นต ัวเงินข ึ้นอ ีกร ้อยล ะ 5 ทำ�ให้อ ัตราค่าจ ้างท ี่แท้จริงย ังค งอยู่ที่ระดับเดิม เป็นผล
ให้การจ้างแ รงงาน การผ ลิต และผลผลิตท ี่แท้จริงย ังคงอยู่ท ี่ระดับเดิมด ้วย