Page 29 - ประวัติศาสตร์เศรษฐกิจ และแนวคิดทางเศรษฐศาสตร์
P. 29

แนวคิด​เศรษฐศาสตร์ก​ ระแสห​ ลักใ​น​ปัจจุบัน 13-19

       ประการ​สุดท้าย ใน​เมื่อ​ปัจเจก​ชน​มิได้​ใช้​ข้อมูล​ที่​มี​อยู่​ทั้งหมด​อย่าง​มี​ประสิทธิภาพ​ใน​ขณะ​ที่​ผู้​วาง​นโยบาย​
มี​ความ​ได้​เปรียบ​กว่า ตลอด​จน​ตลาด​แรงงาน​มี​ลักษณะ​ไม่​สมบูรณ์​ดัง​กล่าว ดัง​นั้น ระบบ​เศรษฐกิจ​จึง​อาจ​มี​ภาวะ​
ไร้​เสถียรภาพ​จาก​ผลก​ระ​ทบ​ที่​คาด​คะเน​ล่วง​หน้า​ไม่​ได้​นั่นเอง ใน​ภาวะ​เช่น​นี้ ทั้ง​รัฐบาล​และ​ธนาคาร​กลาง​จึง​ยัง​คง​มี​
บทบาท​ใน​การ​ดำ�เนิน​นโยบาย​การ​เงิน​การ​คลัง​เพื่อ​เสริม​สร้าง​เสถียรภาพ​ใน​ระยะ​สั้น​แก่​ระบบ​เศรษฐกิจ เพื่อ​ช่วย​ให้​
ระบบ​สามารถป​ รับ​ตัว​เข้า​สู่​ดุลยภาพร​ ะยะย​ าว​ได้เ​ร็วข​ ึ้น

       นัก​เศรษฐศาสตร์ค​ ลาสสิกใ​หม่​ยอมรับ​ว่า สมมติฐานว​ ่าด​ ้วย​การค​ าดค​ ะเนแ​ บบส​ ม​เหตุส​ มผ​ ล เ​ป็น​ข้อส​ มมติท​ ี​่
ไม่​สมจริง​ใน​โลก แต่​ก็​โต้​แย้ง​ว่า แบบ​จำ�ลอง​เศรษฐศาสตร์​ทุก​แบบ​จำ�ลอง​ล้วน​ไม่​สมจริง​ทั้ง​สิ้น เพราะ​แบบ​จำ�ลอง​
ต้อง​ใช้​ข้อ​สมมติ​ต่างๆ ที่​ลด​ทอน​โลก​ความ​จริง​ที่​ซับ​ซ้อน ลง​มา​เป็น​แบบ​จำ�ลอง​อย่าง​ง่าย​ที่​มี​ตัวแปร​สำ�คัญ​เพียง​ไม่​กี่​
ตัวแปร แม้แต่ส​ มมติฐานว​ ่า​ด้วย​การ​คาด​คะเน​แบบ​มอง​ไป​ข้าง​หลังห​ รือแ​ บบป​ รับต​ ัว (Backward-looking, adaptive
expectations hypothesis) ของเ​ศรษฐศ​ าสตร์เ​คนส​ ์เ​ซียนก​ ็​ไม่ส​ มจริง​เช่น​กัน เนื่องจาก​สมมติใ​ห้ค​ นง​ านท​ ำ�นาย​ระดับ​
ราคา​ที่แท้จ​ ริง​ในป​ ัจจุบันโ​ดยพ​ ิจารณาแ​ ต่ข​ ้อมูลร​ าคา​ใน​อดีตเ​ท่านั้น

       นัก​เศรษฐศาสตร์​คลาสสิก​ใหม่​ยืนยัน​ว่า ทฤษฎี​หรือ​แบบ​จำ�ลอง​ใด​จะ​มี​ประโยชน์​กว่า​กัน​จึง​มิใช่​ตัดสิน​จาก
“ความ​สมจริง” ของ​ข้อ​สมมติ​ใน​ทฤษฎี​หรือ​แบบ​จำ�​ลอง​นั้นๆ หาก​แต่​ต้อง​พิจารณา​จาก​ความ​สอดคล้อง​ต้อง​กัน​ทาง​
ตรรกะ ความส​ อดคล้องก​ ับพ​ ฤติกรรมพ​ ื้นฐ​ านข​ องป​ ัจเจกช​ น และค​ วามส​ ามารถใ​นก​ ารท​ ำ�นายค​ ่าตัวแ​ ปรข​ องแ​ บบจ​ ำ�ลอง
ซึ่ง​ใน​ประเด็น​เหล่า​นี้ ทฤษฎี​เศรษฐศาสตร์​คลาสสิก​ใหม่​มี​ความ​เหนือ​กว่า เนื่องจาก​สมมติฐาน​ว่า​ด้วย​การ​คาด​คะเน​
แบบ​สม​เหตุ​สม​ผล​มี​ความ​สอดคล้อง​ต้อง​กัน​ทาง​ตรรกะ สอดคล้อง​กับ​พฤติกรรม​พื้น​ฐาน​ของ​ปัจเจก​ชน​ที่​มุ่ง​แสวงหา​
อรรถประโยชน์ส​ ูงสุด และย​ ังส​ ามารถ​ให้​คำ�​ทำ�นาย​ค่าตัว​แปรท​ างเ​ศรษฐกิจ​ในร​ ะยะย​ าว​ได้ด​ ี​กว่า

       ใน​ส่วน​ข้อ​วิจารณ์​ของ​นัก​เศรษฐ​ศาสตร์​เคน​ส์​เซียน​ที่​ว่า ตลาด​แรงงาน​มี​ลักษณะ​ไม่​แข่งขัน ระดับ​ค่า​จ้าง​
ตัว​เงิน​เป็น​ตัวแปร​ที่​ปรับ​ตัว​ยาก​และ​ใช้​เวลา​นาน​เนื่องจาก​สัญญา​จ้าง​งาน​ที่​ยาวนาน​กว่า​หนึ่ง​ปี​หรือ​จาก​อำ�นาจ​ผูกขาด​
ของ​สหภาพแรงงาน​นั้น นัก​เศรษฐศาสตร์​คลาสสิก​ใหม่​โต้​แย้ง​ว่า แม้​สัญญา​จ้าง​งาน​ระยะ​ยาว​และ​อำ�นาจ​ผูกขาด​ของ​
สหภาพแรงงาน​จะ​มี​อยู่​จริง และ​อาจ​เป็น​อุปสรรค​ต่อ​การ​ปรับ​อัตรา​ค่า​จ้าง​ตัว​เงิน แต่​ก็​ไม่​ได้​มี​ผล​มาก​ถึง​กับ​ทำ�ให้​ค่า​
จ้าง​ตัว​เงิน​มี​การ​ปรับ​ตัว​ช้า​จน​ก่อ​ให้​เกิด​การ​ว่า​งง​งาน​โดย​ไม่​สมัคร​ใจ​จำ�นวน​มาก​ดัง​ที่​ทฤษฎี​เศรษฐ​ศาสตร์​เคน​ส์​เซียน​
กล่าว​อ้าง เพราะ​ถึง​อย่างไร ทั้ง​นายจ้าง​และ​ลูกจ้าง รวม​ทั้ง​สหภาพแรงงาน ยัง​มี​ความ​ยืดหยุ่น​ใน​การ​ปรับ​เปลี่ยน​
รายล​ ะเอียด​ของ​การจ​ ้างง​ า​นอื่นๆ เช่น จำ�นวนช​ ั่วโมง​ทำ�งาน ผล​ประโยชน์ส​ วัสดิการท​ ี่​ได้ร​ ับ ไปจ​ นถึง​อาจย​ ินยอม​ให้ม​ ี​
การ​ปรับร​ ะดับค​ ่า​จ้าง​ตัวเ​งินได้

  กจิ กรรม 13.2.3
         สรุปข​ อ้ ว​ ิจารณ์​ตอ่ ส​ มมตฐิ าน​ว่า​ด้วย​การค​ าด​คะเนท​ สี​่ ม​เหต​สุ มผ​ ลข​ องเ​ศรษฐศาสตรค​์ ลาสสกิ ​ใหม่

  แนวต​ อบก​ จิ กรรม 13.2.3
         สมมตฐิ านว​ า่ ด​ ว้ ยก​ ารค​ าดค​ ะเนท​ ส​ี่ มเ​หตส​ุ มผ​ ลเ​ปน็ ข​ อ้ ส​ มมตท​ิ ส่ี ดุ โ​ตง่ แ​ ละข​ ดั แ​ ยง้ ก​ บั ค​ วามเ​ปน็ จ​ รงิ อ​ ยา่ งย​ งิ่ ​

  นอกจากน​ ้ี ใน​การร​ วบรวมข​ า่ วสารข​ อ้ มูลเ​พือ่ ​การต​ ดั สนิ ใ​จ ปจั เจกช​ นย​ อ่ ม​มตี​ ้นทุนค​ า่ ใ​ช้จ​ า่ ย ซึ่ง​ท�ำ ใหไ้​ม​่สามารถ​
  ใชป้​ ระโยชน์​จาก​ข้อมลู ​ไดท​้ ั้งหมดอ​ ยา่ ง​มีป​ ระสทิ ธิภาพ
   24   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34