Page 18 - ประวัติศาสตร์เศรษฐกิจ และแนวคิดทางเศรษฐศาสตร์
P. 18

13-8 ประวัติศาสตร์​เศรษฐกิจแ​ ละแ​ นวคิด​ทางเ​ศรษฐศาสตร์

	 MV	 =	 PY	                                                                                     ..........(13.2)

       โดยที่	 M	 คือป​ ริมาณ​เงินใ​นร​ ะบบ​เศรษฐกิจ
       	 V	 คืออ​ ัตราก​ ารห​ มุนร​ อบ​ของเ​งิน
       	 P	 คือร​ ะดับร​ าคาส​ ินค้า
       	 Y	 คือ​ปริมาณส​ ินค้า​บริการ​ที่ผ​ ลิต​ขึ้น​ใหม่

       ทั้ง​สมการ (13.1) และ (13.2) ล้วนเ​ป็นเ​อกลักษณ์ (Identities) คือ​เป็นจ​ ริงอ​ ยู่​เสมอ แต่​นัก​ทฤษฎี​ปริมาณเ​งิน​
ไดพ้​ ัฒนาเ​อกลักษณด์​ ังก​ ล่าวใ​หก้​ ลายเ​ป็นท​ ฤษฎดี​ ้วยก​ ารก​ ำ�หนดใ​หต้​ ัวแปรบ​ างต​ ัวเ​ป็นต​ ัวแปรอ​ ิสระ และต​ ัวแปรอ​ ื่นเ​ป็น​
ตัวแปรต​ าม ก่อน​อื่น นัก​ทฤษฎี​ปริมาณเ​งิน​สมมติว​ ่า V และ Y เป็นอ​ ิสระจ​ ากป​ ริมาณเ​งิน M แต่ถ​ ูกก​ ำ�หนดจ​ ากป​ ัจจัย​
อื่นๆ นอก​สมการ นัย​หนึ่ง อัตรา​การ​หมุนร​ อบ​ของเ​งิน V ถูก​กำ�หนด​โดย​ความเ​คยชินข​ อง​ผู้คน​ในก​ าร​ใช้เ​งินต​ รา ระดับ​
พัฒนา​ของ​สถาบัน​การ​เงิน และ​ปัจจัย​เชิง​สถาบัน​อื่นๆ ใน​ขณะ​ที่​ปริมาณ​สินค้า​บริการ Y ถูก​กำ�หนด​จาก​ภาค​การ​ผลิต​
และ​การ​จ้างง​ านใ​น​ระบบ​เศรษฐกิจ ฉะนั้น​ตัวแปร V และ Y จึงถ​ ูก​สมมติใ​ห้​เป็นค​ ่าค​ งที่ใ​น​สมการ จากน​ ั้น นักท​ ฤษฎ​ี
ปริมาณเ​งินย​ ืนยันว​ ่า ระหว่าง​ปริมาณเ​งิน M และร​ ะดับร​ าคา​สินค้า P นั้น ปริมาณ​เงินเ​ป็นต​ ัวแปร​อิสระ และร​ าคา​สินค้า​
เป็น​ตัวแปร​ตาม หาก​ปริมาณ​เงิน​เพิ่ม​ขึ้น ราคา​สินค้า​จะ​สูง​ขึ้น หรือ​หาก​ปริมาณ​เงิน​ลด​ลง ราคา​สินค้า​ก็​จะ​ลด​ลง​ด้วย
ยิ่ง​กว่า​นั้น​คือ ความ​สัมพันธ์​ระหว่าง​ปริมาณ​เงิน​กับ​ราคา​สินค้า​มี​ลักษณะ​สัดส่วน​คงที่​ใน​ระยะ​ยาว เช่น หาก​ปริมาณ
เ​งินเ​พิ่ม​ขึ้น​ร้อย​ละ 10 ราคาส​ ินค้า​ก็​จะต​ ้องส​ ูง​ขึ้นร​ ้อย​ละ 10 เท่าก​ ัน

       ทฤษฎี​ปริมาณ​เงิน​นอกจาก​จะ​พัฒนา​ใน​รูป​ของ​สมการ​แลก​เปลี่ยน (13.1) และ (13.2) แล้ว ก็​ยัง​ได้​รับ​การ​
พัฒนา​ใน​กรอบ​ของ​ทฤษฎี​อุปทาน​เงิน​และ​ความ​ต้องการ​ถือ​เงิน (money supply and money demand) โดย​
นัก​เศรษฐศาสตร์​ที่​มหา​วิ​ทยา​ลัย​เคม​บริดจ์​ช่วง​ต้น​ศตวรรษ​ที่ 20 คือ อัลเฟ​รด มาร์แชล (Alfred Marshall) และ​
อาร์​เธอร​ ์ พิก​ ู (Arthur C. Pigou) นักท​ ฤษฎี​กลุ่ม​นี้เ​ริ่ม​ต้นจ​ าก​สมการค​ วาม​ต้องการถ​ ือ​เงิน โดยส​ มมติว​ ่า ปริมาณเ​งิน​
ที่ต​ ้องการถ​ ือ​ไว้​เป็น​สัดส่วน​ตายตัวต​ ่อ​ราย​ได้ต​ ัวเ​งิน ดังนี้

	Md	 =	 k P Y	                                                                                   ..........(13.3)

โดยที่	 Md	คือ​ความ​ต้องการ​ถือเ​งิน
	 P	 คือ​ระดับร​ าคาส​ ินค้า
	 Y	 คือร​ าย​ได้ที่แ​ ท้จริง
	 k	 คือ​อัตราส่วนป​ ริมาณเ​งินท​ ี่​ถือต​ ่อ​ราย​ได้​ตัว​เงิน ซึ่ง​มี​ค่าค​ งที่ใ​นร​ ะยะ​สั้น

       ส่วนอ​ ุปทาน​เงินน​ ั้น ถือว่า ถูก​กำ�หนดจ​ ากป​ ัจจัย​ภายน​ อก​ อื่นๆ (exogeneous) ฉะนั้น ณ ดุลยภาพซ​ ึ่งค​ วาม​
ต้องการถ​ ือเ​งิน (Md) เท่ากับอ​ ุปทานเ​งิน (M) จะ​ได้​ความ​สัมพันธ์ด​ ังต​ ่อไ​ป​นี้

	             M	=	Md  =  k P Y	                                                                  ..........(13.4)
       หรือ	

	 M (1/k)	 =	 PY	                                                                                ..........(13.5)
   13   14   15   16   17   18   19   20   21   22   23