Page 41 - ความรู้ทางสังคมศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักนิเทศศาสตร์
P. 41
ความร้ดู ้านการเมืองการปกครอง 4-31
1.3 คุณค่าของพรรคการเมืองต่อการปกครองระบบประชาธิปไตย แม้แตใ่ นการปกครองระบบ
ทไ่ี มเ่ ปน็ ประชาธปิ ไตย กย็ งั สามารถมพี รรคการเมอื งได้ อาทิ พรรคคอมมวิ นสิ ตใ์ นประเทศทม่ี กี ารปกครอง
ระบบสงั คมนยิ ม แตพ่ รรคการเมอื งเหลา่ นน้ั ไมส่ ามารถทำ� หนา้ ทพี่ รรคการเมอื งได้ เพราะไมไ่ ดเ้ ปน็ ตวั กลาง
เสนอความตอ้ งการของประชาชนใหแ้ กร่ ฐั บาล ตลอดจนไมไ่ ดเ้ ปดิ โอกาสใหป้ ระชาชนทส่ี นใจเขา้ มามสี ว่ นรว่ ม
ในทางการเมืองแต่อย่างใด ส่วนการใช้อ�ำนาจรัฐ พรรคการเมืองเหล่านั้นไม่ได้ท�ำหน้าที่ตรวจสอบการใช้
อ�ำนาจรัฐให้แกป่ ระชาชนดงั เช่นท่ีพรรคการเมอื งควรทำ�
จะเห็นได้ว่าพรรคการเมืองจะปฏิบัติหน้าที่ของตนได้ก็แต่ในภาวการณ์ท่ีมีพรรคการเมืองหลาย
พรรคเข้าร่วมแข่งขันกัน อันจะเกิดในบรรยากาศประชาธิปไตย ซ่ึงรับรองความเสมอภาค สิทธิในการ
เข้าถึงข้อมลู สทิ ธใิ นการชมุ นุม สทิ ธใิ นแสดงความคิดเห็น
ในอดตี ในการปกครองระบบประชาธปิ ไตยทางตรง พรรคการเมอื งไมใ่ ชเ่ รอ่ื งจำ� เปน็ แตเ่ มอื่ สงั คม
สลับซบั ซอ้ นย่ิงขน้ึ ประชาธิปไตยทางตรงย่อมเป็นไปไมไ่ ด้ เน่อื งจากมปี ระชาชนจำ� นวนมาก จึงเกิดเปน็
ประชาธปิ ไตยแบบตวั แทนขนึ้ ความจำ� เปน็ ทจี่ ะตอ้ งมพี รรคการเมอื งกป็ รากฏเดน่ ชดั ขน้ึ เพราะผแู้ ทนอสิ ระ
นนั้ มคี วามคดิ เหน็ ตา่ งๆ ไดห้ ลากหลายกนั ออกไป การรวมตวั กนั เปน็ พรรคการเมอื งโดยยอมทง้ิ ความเหน็
เล็กน้อยท่ีไม่ตรงกันเพ่ือผลประโยชน์ร่วมกันที่ส�ำคัญกว่าจะช่วยลดความสับสนในการเลือกผู้แทนของ
ประชาชนผูม้ สี ทิ ธิเลอื กต้ังใหม้ ีตวั เลอื กที่น้อยลงและชัดเจนมากย่งิ ขึ้น
การจัดต้ังพรรคการเมืองน้ันท�ำให้การเรียกร้องของประชาชนด�ำรงอยู่ต่อไปโดยไม่ขึ้นอยู่กับ
ปัจเจกบุคคล เพราะแม้ว่าผู้ก่อต้ังพรรคการเมืองจะตายไป พรรคการเมืองก็ไม่ส้ินสุดลงไปด้วย หากแต่
สามารถส่งต่อไปใหก้ บั สมาชกิ พรรคคนอ่นื ๆ
ในดา้ นการใชอ้ ำ� นาจนติ บิ ญั ญตั ิ พรรคการเมอื งจะชว่ ยพจิ ารณากลน่ั กรองความคดิ เหน็ ของสมาชกิ
สภาผแู้ ทนราษฎรโดยถถ่ี ว้ นภายในพรรคการเมอื งกอ่ น จงึ เสนอตอ่ สภา ทำ� ใหก้ ารทำ� งานของฝา่ ยนติ บิ ญั ญตั ิ
รวดเรว็ ทนั เหตกุ ารณ์ และรอบคอบมากขึ้น
พรรคการเมอื งทำ� ใหร้ ฐั บาลมเี สถยี รภาพมากขน้ึ หากรฐั บาลจะดำ� เนนิ นโยบายในทางใดกส็ ามารถ
รไู้ ดว้ า่ มสี มาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรทย่ี งั สนบั สนนุ ตนอยเู่ ทา่ ใด เพราะผแู้ ทนเหลา่ นนั้ สงั กดั ในพรรครว่ มรฐั บาล
เดยี วกัน หากผู้แทนคนใดจะกระท�ำตนนอกลูน่ อกทางก็ยงั มวี นิ ยั พรรคการเมอื งท่ตี นสังกัดอยู่คอยควบคุม
อยู่อกี ช้นั หน่งึ
ปจั จบุ นั หนา้ ทต่ี า่ งๆ ทพี่ รรคการเมอื งเคยมอี าจเรมิ่ ถกู แทนทด่ี ว้ ยสถาบนั อนื่ อาทิ สอ่ื หรอื องคก์ ร
ภาคประชาชน เข้ามาตรวจสอบการใช้อ�ำนาจรัฐแทนพรรคการเมือง และในบางคราว อาจท�ำได้ดีกว่า
พรรคการเมอื ง หรอื การทปี่ ระชาชนสามารถเขา้ มามสี ว่ นรว่ มในการปกครองไดโ้ ดยตรง อาทิ เขา้ ชอื่ เสนอ
กฎหมาย หรอื ถอดถอนผดู้ ำ� รงตำ� แหนง่ ทางการเมอื ง ทำ� ใหพ้ รรคการเมอื งไมไ่ ดม้ บี ทบาทเทา่ เดมิ เชน่ ทเ่ี คย
มีมา แตโ่ ดยสภาพสังคมปจั จบุ นั พรรคการเมืองยังเปน็ สิง่ ทจี่ ำ� เปน็ ในระบอบประชาธปิ ไตยไว้
1.4 ระบบพรรคการเมือง นกั วเิ คราะหท์ างรฐั ศาสตรม์ กั จะพดู ถงึ ระบบพรรค (party system) ซงึ่
ก็หมายรวมถึงจ�ำนวนของพรรคการเมืองและแบบแผนความสัมพันธ์ระหว่างพรรคการเมืองในประเทศใด
ประเทศหนง่ึ อยเู่ สมอวา่ โดยทวั่ ไปแลว้ ระบบพรรคการเมอื งมอี ยู่ 3 ประเภทดว้ ยกนั คอื ระบบพรรคการเมอื ง
แบบพรรคเดยี ว ระบบพรรคการเมอื งแบบสองพรรค และระบบพรรคการเมอื งแบบหลายพรรค แต่ก็เป็น