Page 44 - ความรู้ทางสังคมศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักนิเทศศาสตร์
P. 44
4-34 ความรู้ทางสงั คมศาสตรแ์ ละเทคโนโลยสี �ำ หรับนกั นิเทศศาสตร์
การมพี รรคการเมอื งแบบหลายพรรคนท้ี ำ� ใหเ้ ปน็ การยากทจ่ี ะจดั ตงั้ รฐั บาลผสมทม่ี เี สถยี รภาพ
เหมือนอย่างในกรณีของระบบพรรคการเมืองแบบสองพรรค ในบางคร้ังพรรคการเมืองท่ีเข้มแข็งพรรคใด
พรรคหนง่ึ ในระบบพรรคการเมอื งแบบหลายพรรคอาจจะไดเ้ สยี งขา้ งมากแบบเดด็ ขาด (absolute major-
ity) คือได้ท่ีน่ังมากที่สุดในสภานิติบัญญัติก็ได้ นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1945 เป็นต้นมา ระบบพรรคการเมือง
แบบหลายพรรคเกิดข้ึนตามห้วงเวลาต่างๆ ในอิตาลี ในเยอรมนีตะวันตก และในเบลเยียม แต่ตามปกติ
แล้วจะไม่มีพรรคการเมืองพรรคใดได้เสียงข้างมากในสภาแบบเด็ดขาดในระบบพรรคการเมืองแบบหลาย
พรรค และจึงมีความจ�ำเป็นจะต้องจัดต้ังรัฐบาลผสมโดยการน�ำพรรคการเมืองสองพรรคบ้าง ต้ังแต่สอง
พรรคขนึ้ ไปบา้ งมารว่ มกนั จดั ตั้งรัฐบาลบรหิ ารประเทศ
รฐั บาลผสมแบบนม้ี กั จะเปราะบาง ในบางครง้ั รฐั บาลทจี่ ดั ตงั้ ขน้ึ มาจะลม้ ครง้ั แลว้ ครงั้ เลา่ และ
ในประเทศทมี่ รี ะบบพรรคการเมอื งแบบหลายพรรคนอี้ าจจะมรี ฐั บาลสามสร่ี ฐั บาลหรอื มากกวา่ นใี้ นชว่ งเวลา
เพียงปีเดียวก็ได้ แต่ตรงกันข้ามรัฐบาลผสมในระบบพรรคการเมืองแบบหลายพรรคอาจจะมีเสถียรภาพ
ยืนยงคงกระพันอยู่ได้ตลอดก็ได้ ในบางประเทศการเป็นพันธมิตรกันระหว่างพรรคการเมืองต่างๆ มีการ
ตกลงกันจนกลายเปน็ เรอื่ งกงึ่ ถาวรไปเลยก็มี
ส�ำหรับรูปแบบของรัฐบาลแบบผสมจะมีข้อแตกต่างกันออกไปอีกมาก ในบางคร้ังอาจจะมี
การรวมกลุ่มของพรรคการเมืองฝ่ายขวาเพ่ือเอาชนะพรรคการเมอื งฝา่ ยซ้ายอย่างนกี้ ม็ ี ในบางคร้ัง มกี าร
แบ่งฝักแบ่งฝ่ายในรูปแบบเหมือนในระบบสองพรรคดังเช่นท่ีพบในระบบการเมืองแบบสองพรรคอย่างนี้ก็
มี ในบางประเทศรัฐบาลแบบผสมอาจนำ� พรรคทมี่ แี นวความคดิ แบบกลางๆ มารวมกนั เปน็ รฐั บาลเพือ่ ตอ่
ตา้ นพรรคการเมอื งทร่ี วมตวั กนั ของฝา่ ยซา้ ยและฝา่ ยขวาอยา่ งนก้ี ม็ อี กี เหมอื นกนั เชน่ ในฝรงั่ เศสในระหวา่ ง
สาธารณรฐั ที่ 4 (The Fourth Republic) ซึง่ อยใู่ นช่วงปี ค.ศ. 1946 ถงึ ปี ค.ศ. 1958 รัฐบาลผสมทจ่ี ดั ตัง้
ขน้ึ ปกตเิ ปน็ การผสมกนั ในหมพู่ รรคการเมอื งทม่ี แี นวความคดิ แบบสายกลาง สำ� หรบั ฝา่ ยคอมมวิ นสิ ตท์ อ่ี ยู่
ฝา่ ยซา้ ยและพวกกอลลสิ ตท์ อี่ ยฝู่ า่ ยขวาจะถกู กดี กนั ไมใ่ หเ้ ขา้ มารว่ มในการจดั ตงั้ รฐั บาลผสม เปน็ ตน้ ดงั นนั้
ไม่ว่ารูปแบบของการจัดตั้งรัฐบาลผสมจะเป็นแบบไหน ล้วนแต่จะต้องใช้กระบวนการท่ีสลับซับซ้อนของ
การเจรจาต่อรองเพื่อให้สามารถจัดต้ังรัฐบาลและธ�ำรงไว้ซ่ึงรัฐบาลที่ตั้งข้ึนมาในระบบการเมืองแบบหลาย
พรรคนท้ี ้งั นนั้
1.5 ความสัมพันธ์ระหว่างระบบการเลือกต้ังกับจ�ำนวนพรรคการเมือง รูปแบบของระบบการ
เลอื กตงั้ ทนี่ ำ� มาใชใ้ นประเทศใดประเทศหนง่ึ สามารถมอี ทิ ธพิ ลตอ่ จ�ำนวนของพรรคการเมอื งในประเทศนน้ั ๆ
กล่าวกันว่าระบบการเลือกตั้งผู้แทนแบบสัดส่วน (proportional representation) มีแนวโน้มที่จะท�ำให้
ระบบพรรคการเมืองของประเทศน้ันเป็นแบบหลายพรรค ท้ังน้ีเพราะเป็นระบบที่ให้หลักประกันแม้แต่กับ
พรรคท่ีได้คะแนนเสียงจ�ำนวนน้อยว่าจะได้บางท่ีนั่งในสภานิติบัญญัติ ตรงกันข้ามระบบการเลือกตั้งที่
ผสู้ มคั รรบั เลอื กตงั้ หนง่ึ คนถกู เลอื กมาจากแตล่ ะเขตเลอื กตงั้ นนั้ (เปน็ การเลอื กตงั้ ทไ่ี มใ่ ชร้ ะบบเลอื กตงั้ รอบ
สอง แต่เป็นแบบผู้สมัครรับเลือกต้ังคนใดได้คะแนนเสียงมากท่ีสุดจะเป็นผู้ได้รับการประกาศชื่อว่าเป็น
ผชู้ นะ) เชอื่ กนั วา่ เปน็ ระบบการเลอื กตงั้ ทส่ี ง่ เสรมิ ใหม้ รี ะบบสองพรรคการเมอื ง เพราะเปน็ ระบบทเี่ ปน็ โทษ
แก่พรรคการเมืองที่อาจจะได้คะแนนเสียงจ�ำนวนหนึ่งแต่จะไม่ได้เสียงส่วนใหญ่ที่จ�ำเป็นต่อการเลือกต้ัง
ผู้สมคั รรบั เลือกต้ังในเขตเลือกตัง้ เขตใดเขตหนึง่ เป็นการเฉพาะก็ได้