Page 62 - ความรู้ทางสังคมศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักนิเทศศาสตร์
P. 62

13-52 ความรทู้ างสังคมศาสตร์และเทคโนโลยีสำ� หรบั นกั นเิ ทศศาสตร์
สง่ อทิ ธพิ ลตอ่ วถิ ชี วี ติ ความรสู้ กึ นกึ คดิ ของผรู้ บั ไมว่ า่ จะเปน็ ความคดิ แบบเสรนี ยิ ม บรโิ ภคนยิ มทม่ี เี งนิ เปน็
สงิ่ ทใี่ ชใ้ นการบรรลทุ กุ สง่ิ ได้ นอกจากนยี้ งั มขี อ้ มลู ขา่ วสารดา้ นลบเกยี่ วกบั ศาสนาไหลเวยี นอยเู่ สมอ สงิ่ เหลา่ นี้
ไดส้ ่งผลตอ่ การเสอ่ื มถอยของศาสนา

       แตใ่ นทางกลบั กนั สงั คมสมยั ใหมก่ ท็ ำ� ใหเ้ กดิ การเปลยี่ นแปลงแกศ่ าสนา มกี ารเคลอ่ื นไหวตา่ งๆ ที่
ตอบสนองตอ่ สมยั ใหม่ เชน่ การปฏริ ปู ศาสนาในทกุ วงการของศาสนาทว่ั โลก (ทเ่ี หน็ ชดั คอื การปฏริ ปู ศาสนา
คาธอลิกในการประชมุ ตัวแทนครสิ ตจกั รท่วั โลกทีส่ �ำนกั วาตกิ นั ระหว่างปี ค.ศ.1960-1967 ที่เสนอวา่ ควรมี
การเปลี่ยนวิธีเผยแพร่ศาสนาจากมิชชันนารีเป็นแบบไดอาลอกหรือการสร้างความเข้าใจซ่ึงเป็นการท�ำให้
กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมและวัฒนธรรมท้องถ่นิ )

       การปรบั ตวั ของศาสนาทเี่ ดน่ ชดั คอื ขบวนการจารตี และขบวนการเกดิ ศาสนาใหม่ ทส่ี ะทอ้ นถงึ การ
ตอบสนองต่อยุคใหม่ในทางท่ีปกป้องศาสนาที่ถูกเบียดออกไปอยู่ชายขอบด้วยการหวนคืนแบบอนุรักษ์
รวมทั้งการปรบั ตวั ให้เข้ากับยุคใหมด่ ว้ ยการแยกออกจากศาสนาเดมิ เพื่อตอบสนองสภาพการณข์ องความ
เปลย่ี นแปลงและความตอ้ งการของคนในยคุ สมยั ใหม่ ซง่ึ ปรากฏในรปู ของการเกดิ ลทั ธแิ ละศาสนาใหมๆ่ ที่
แตกจากเดิม หรอื ผสมผสานหลายศาสนาตลอดจนผสานความเช่อื แบบใหม่ เช่น สิทธิมนุษยชน บรโิ ภค
นิยมเข้าไปในวงการศาสนา เช่น บางศาสนาเน้นความมั่งคั่ง บางศาสนาเน้นความส�ำเร็จในชีวิตน้ี บาง
นิกายยอมให้สตรีบวช ความเคล่ือนไหวที่เกิดข้ึนแสดงถึงพลวัตของศาสนาและท�ำให้ยังคงยึดครองพ้ืนที่
ทางจติ วิญญานได้ในสงั คมยุคใหม่

2. 	การฟื้นตัวของศาสนา

       แมว้ า่ ทฤษฎโี ลกยี นวุ ตั รจะมบี ทบาทตอ่ การมองบทบาทศาสนาแตน่ กั วชิ าการบางกลมุ่ กไ็ มเ่ หน็ ดว้ ย
กับมุมมองศาสนาจะสูญหายไป อีฟ ลอมแบร์ (Yves Lambert, 1999 อ้างถึงในอภิญญา เฟื่องฟูสกุล,
2551: 105) มคี วามเหน็ วา่ ยุคสมัยใหมก่ ่อใหเ้ กดิ ผลตอ่ ศาสนา 4 ประการ คือ

       1)	 การเสอื่ มถอยของศาสนา
       2)	 การปรบั ตวั ของศาสนา (รวมถึงการตคี วามศาสนาใหม่)
       3)	 การตอบโตแ้ บบอนรุ ักษนิยม (conservative reaction) และ
       4)	 การประดิษฐ์ใหม่ทางวัฒนธรรม
       จากทัศนะดังกล่าวจะเห็นว่าโลกียนุวัตรมีความหมายเพียงข้อแรกส่วนอีกสามข้อหลังน้ันช้ีให้เห็น
วา่ ยคุ สมยั ใหมส่ ง่ ผลใหก้ อ่ เกดิ รปู แบบใหมๆ่ ทางศาสนาซงึ่ มกี ารผสมผสานทางวฒั นธรรมอยา่ งหลากหลาย
ดงั นน้ั ยคุ สมยั ใหมจ่ งึ ไมไ่ ดส้ ง่ ผลเพยี งในดา้ นลบตอ่ ศาสนาหากไดก้ ระตนุ้ ใหเ้ กดิ การแสวงหาทางจติ วญิ ญาณ
ด้วย ทางด้านเบอร์เกอร์ผู้ซ่ึงเป็นหลักในการสนับสนุนทฤษฎีโลกียนุวัตร ก็ได้ยอมรับว่าทฤษฎีที่มองว่า
สังคมยคุ ใหม่จะนำ� มาซ่งึ ความเส่อื มถอยของศาสนาน้นั ผดิ โดยเบอร์เกอรไ์ ดเ้ ขียนหนงั สืออีกเล่มในปี ค.ศ.
1979 คือ The Heretical Imperative ว่าทฤษฎีดังกล่าวไม่สามารถอธิบายปรากฏการณ์ท่ีเกิดในส่วน
ต่างๆ ของโลกได้
       สังคมสมัยใหม่แม้ในทางหน่ึงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าท�ำให้ศาสนาลดบทบาทลง ถูกผลักให้ถอยร่นไป
อยู่ชายขอบของสังคม จากการท่ีความทันสมัยน�ำมาซึ่งการเน้นเหตุผล แนวคิดอุดมการณ์สมัยใหม่ เช่น
   57   58   59   60   61   62   63   64   65   66   67