Page 41 - การวิจัยทางนิเทศศาสตร์
P. 41

การ​วิจัย​ประเมิน​ผล 12-31

       3)	 การส​ ังเกต ถ้าผ​ ู้ส​ ังเกต​ไม่มี​ความร​ ู้ใ​น​เรื่อง​ที่​สังเกต และ​ขาด​การ​ฝึกฝน ข้อมูลท​ ี่​ได้อ​ าจค​ ลาดเ​คลื่อน
       4)	 การ​สังเกต อาจ​เกิดค​ วามคลาดเ​คลื่อน​ได้ อันเ​นื่องจาก​อคติ
       5)	 การส​ งั เกต ตอ้ งอ​ าศยั ก​ ารจ​ ดบ​ นั ทกึ ผ​ ลท​ รี​่ วดเรว็ แ​ ละแ​ มน่ ย�ำ  ถา้ ก​ ารจ​ ดบ​ นั ทกึ ไ​มด​่ ี ผลก​ อ​็ าจค​ ลาดเ​คลือ่ นไ​ด้

4. 	แบบ​วัด​ทศั นคติ

       งาน​วิจัยท​ างการส​ ื่อสารโ​ดย​เฉพาะก​ ารว​ ิจัย​เพื่อ​ประเมินแ​ ผนการส​ ื่อสารม​ ัก​จะ​เกี่ยวข้องก​ ับก​ ารว​ ัด​ทัศนคติใ​น​
เรื่อง​ต่าง ๆ อยู่​เสมอ​  ทั้งนี้​เนื่องจาก​งาน​สื่อสาร​เป็น​งาน​ที่​มี​จุด​หมาย​เพื่อ​สร้าง​หรือ​เปลี่ยนแปลง​ความ​รู้ ทัศนคติ และ​
พฤติกรรมข​ องค​ น ดังน​ ั้นก​ ารส​ ร้างเ​ครื่องม​ ือใ​นก​ ารว​ ัดท​ ัศนคติแต่ละเ​รื่องน​ ักป​ ระเมินต​ ้องจ​ ัดท​ ำ�​แบบสอบถามห​ รือแ​ บบ​
วัดท​ ัศนคติ​ขึ้น​มาใ​ช้เ​องโ​ดยส​ ร้างใ​ห้เ​หมาะส​ มก​ ับส​ ภาพ​ข้อมูล มี​ความ​ตรง ความเ​ที่ยง

       แบบ​วัด​ทัศนคติ​เป็น​ชุด​ของ​ข้อความ​ที่​เขียน​ขึ้น​เป็น​ประโยค​บอก​เล่า​ที่​มี​ความ​หมาย​เชิง​บวก​หรือ​ลบ​เกี่ยว​กับ​
สิ่ง​ใดส​ ิ่งห​ นึ่ง แล้วใ​ห้​กลุ่ม​เป้า​หมาย​แสดง​ท่าที​หรือ​ความ​รู้สึก​ต่อข​ ้อความ​เหล่า​นั้น หลังจ​ ากน​ ั้นจ​ ึงน​ ำ�​คำ�​ตอบ​มาป​ ระมวล​
ผลค​ ะแนน​โดยร​ วม​เพื่อ​แสดง​ระดับ​หรือค​ วาม​เข้ม​ข้น​ของ​ทัศนคติท​ ี่ม​ ีต​ ่อ​สิ่ง​นั้น อย่างไร​ก็ตาม​ในก​ าร​วัด​ทัศนคติจ​ ำ�เป็น​
ต้องเ​ข้าใจป​ ระเด็นส​ ำ�คัญท​ ี่เ​กี่ยวข้องก​ ับแ​ นวคิดข​ อง​ทัศนต​ ิ​ด้วย

ข้อ​ควร​พจิ ารณา​ใน​เรอ่ื งท​ ศั นคติ

       ทัศนคติ​หรือ​เจตคติ​มา​จาก​ภาษา​อังกฤษ​ว่า attitude หมาย​ถึง ความ​รู้สึก​ต่อ​สิ่ง​ใด​สิ่ง​หนึ่ง หรือ​เรื่อง​ใด​
เรื่อง​หนึ่ง ทั้ง​ในท​ าง​บวก​ เช่น​ เห็น​ด้วย ชอบ พอใ​จ และใ​นท​ างล​ บ เช่น ไม่เ​ห็น​ด้วย ไม่​ชอบ ไม่พ​ อใจ ในร​ ะดับ​หรือ​ความ​
เข้ม​ข้น​ที่​ต่าง​กัน (ปรับจ​ าก Thurston. 1964 อ้าง​ใน ​อร​สา ปานข​ าว. 2548)

       อันท​ ี่​จริงม​ ี​นัก​วิชาการไ​ด้​ให้ค​ วาม​หมายข​ อง​ทัศนคติ​ไว้​มากมาย หลากห​ ลาย​แต่จ​ ะ​ไม่ข​ อก​ ล่าว​ใน​ที่น​ ี้ แต่​ขอ​ตั้ง​
ข้อ​สังเกตเ​กี่ยว​กับ​คุณลักษณะข​ อง​ทัศนคติ ดังนี้

       1) 	ทัศนคติ​เป็น​สิ่ง​ที่​เกิด​จาก​การ​เรียน​รู้​และ​ประสบการณ์​ของ​บุคคล ทัศนคติ​ไม่ใช่​สิ่ง​ที่​ติดตัว​มา​แต่​กำ�เนิด
เช่น การม​ ีท​ ัศนคติ​ที่ด​ ีต​ ่อง​ านบ​ ริการ​ของธ​ นาคารแ​ ห่งห​ นึ่ง จะต​ ้องเ​กิดจ​ ากก​ ารร​ ู้จัก การไ​ด้ร​ ับข​ ่าวสาร หรือเ​คยใ​ช้บ​ ริการ​
ของธ​ นาคารแ​ ห่ง​นี้

       2) 	ทัศนคตเิ​ป็นผ​ ลท​ ี่เ​กิดจ​ าก​ การป​ ระเมินข​ องบ​ ุคคล การท​ ี่บ​ ุคคลจ​ ะม​ ีค​ วามร​ ู้สึกท​ างบ​ วกห​ รือท​ างล​ บต​ ่อส​ ิ่งใ​ด
ย่อม​ขึ้นอ​ ยู่ก​ ับผ​ ล​ของก​ าร​ประเมิน​ความ​รู้ ความ​คิด ความเ​ชื่อ​เกี่ยว​กับ​สิ่งน​ ั้น​โดยอัตโนมัติ

       3) 	ทัศนคติ​มี​ทิศทาง​และ​ความ​เข้มข​ ้น กล่าวค​ ือ​ทิศทาง​ของ​ทัศนคติ​มี​ทั้งท​ างบ​ วก ทาง​ลบ ขณะ​เดียวกัน​ความ​
เข้มข​ ้นจ​ ะบ​ ่งบ​ อกถ​ งึ ค​ วามแ​ ตกต​ า่ งข​ องท​ ศั นคตข​ิ องบ​ ุคคลท​ มี่​ ตี​ ่อส​ ิ่งเ​รา้ เช่น บุคคลอ​ าจม​ ค​ี วามร​ ูส้ ึกไ​ปใ​นท​ ิศทางเ​ดียวกนั ​
แต่ร​ ะดับม​ าก​น้อย​ต่างก​ ัน เช่น เห็นด​ ้วยม​ าก-เห็นด​ ้วย​มาก​ที่สุด

       4) 	ทัศนคติ​มี​ความ​คงทน โดย​ทั่วไป​ทัศนคติ​ของ​คน​เรา​จะ​เปลี่ยนแปลง​ยาก เนื่องจาก​ทัศนคติ​เกิด​จาก​
การ​ประเมิน​ของ​บุคคล​ที่​อาศัย​ความ​รู้ ประสบการณ์​ที่​สั่งสม​มา​เป็น​เวลา​นาน​พอ​สมควร​  อย่างไร​ก็ตาม​ทัศนคติ​อาจ​
เปลี่ยนแปลง​ได้ เมื่อไ​ด้​รับค​ วามร​ ู้ห​ รือป​ ระสบการณ์ใ​หม่

       ทัศนคติ​เป็น​คุณลักษณะ​ภายใน​จิตใจ​ของ​บุคคล ดัง​นั้น​การ​จะ​ทราบ​ทัศนคติ​ของ​บุคคล​ใด​บุคคล​หนึ่ง​ต้อง​
ให้​บุคคล​นั้น​บอก​หรือ​บรรยาย​ความ​รู้สึก​ต่อ​สิ่ง​เร้า​นั้น​ออก​มา ด้วย​การ​สัมภาษณ์​หรือ​ให้​รายงาน​ตนเอง​หรือ​สังเกต​
พฤติกรรม แล้ว​ให้​ผู้​ตรวจ​สอบ​ให้​คะแนน​และ​ประเมิน​ด้วย​มาตร​วัด​ที่​เชื่อ​ถือ​ได้ เช่น แบบ​วัด​ทัศนคติ​ตาม​วิธี​ของ​
ลิ​เค​ิร์ท แบบ​วัด​ทัศน​คติ​ของอ​ อ​สกูด ซึ่งม​ ีร​ ายล​ ะเอียด​ดังนี้
   36   37   38   39   40   41   42   43   44   45   46