Page 29 - การวิจัยทางนิเทศศาสตร์
P. 29
การกำ�หนดตัวแปรและการวัด 3-19
โดยไม่ใช้น ิยามจ ากพจนานุกรม แต่ต ้องใช้คำ�ที่มาจากค ำ�ถามวิจัย หรือส มมติฐาน เพื่อห าคำ�นิยามท ี่ส ามารถวัดได้ใน
ทางปฏิบัติ มีความชัดเจนแ ละค งเส้นคงว า เป็นที่ย อมรับในแ วดวงวิชาการว ิจัย
การวัดเชิงปฏิบัติการ หรือการนิยาม หรือนิยามปฏิบัติการ (operationalization) ได้จากการทบทวน
วรรณกรรมท ีเ่กี่ยวข้อง เพื่อค ้นหาน ิยามท ีเ่หมาะส มท ี่สุดส ำ�หรับง านว ิจัย โดยเลือกน ิยามท ีเ่หมาะส มก ับง านว ิจัยข องต น
การวัดเชิงปฏิบัติการ เป็นกระบวนการทบทวนนิยามจากกรอบแนวคิด เพื่อทำ�ให้แนวคิดมีความชัดเจนขึ้น
อย่างเป็นรูปธรรมด้วยตัวบ่งช ี้ (concrete indicators) ที่เชื่อมโยงกับความเป็นจ ริงเชิงป ระจักษ์หรือค วามเป็นจริงที่
สังเกตได้ การน ิยามป ฏิบัติการอ าจน ิยามขึ้นใหม่ หรือป รับจากงานวิจัยในอดีต การน ิยามน ี้ คนทั่วไปค วรเข้าใจด้วย
สิ่งท ี่ส ำ�คัญมากคือ ต้องม ีห น่วยว ิเคราะห์ (unit of analysis)
การท ำ�ให้แ นวคิดที่ก ว้างมีความเล็กล งจนส ามารถวัดได้ ต้องม ีหน่วยว ิเคราะห์เดียวกัน สำ�หรับแ ต่ละตัวแปร
เช่น หน่วยวิเคราะห์ท ี่เป็นปัจเจกบุคคล ชุมชน สังคม ภูมิภาค ระดับความค ิด ทัศนคติ พฤติกรรม เป็นต้น5
การว ัดเชิงค ุณภาพ หรือเชงิ คุณลกั ษณะ
การวิจัยเชิงคุณลักษณะ สามารถใช้วิธีการวิจัยที่หลากหลายและซับซ้อน การวิจัยประเภทนี้เหมาะกับการ
พยายามค ้นหาท ฤษฎีใหม่ห รือส มมติฐานใหม่ ๆ เพื่อให้ม ีป ระสบการณ์เพิ่มข ึ้นในป รากฏการณท์ ี่ศ ึกษา ด้วยก ารส ืบค้น
เชิงลึกในป ระเด็นท ี่อ ่อนไหวและล ะเอียดอ ่อน โดยไม่มุ่งในก ารข ยายข อบข่ายข ้อค ้นพ บไปในบ ริบ ทท ี่ก ว้างข ึ้น ข้อมูลท ี่
เก็บรวบรวมได้เป็นสิ่งกำ�หนดรูปแบบและข้อจำ�กัดในการวิเคราะห์ (shape and limit) ข้อมูลที่ได้มักเป็นข้อมูลดิบ
โดยไม่ถูกจำ�แนกประเภทล่วงหน้า แต่ผู้วิจัยเป็นผู้ตระเตรียมการจัดระบบข้อมูลทั้งหมด และต้องใช้ความพยายาม
อย่างยิ่ง ไม่ว ่าจะเป็นข้อมูลจ ากการสัมภาษณ์ หรือจากเอกสาร
ในด า้ นบ วก การว ดั เชงิ ค ณุ ภาพช ว่ ยใหผ้ วู้ จิ ยั ส ามารถบ รรยายป รากฏการณท์ สี่ นใจศ กึ ษาอ ยา่ งล ุม่ ล กึ ดว้ ยภ าษา
ของผู้ให้ส ัมภาษณ์ งานว ิจัยที่ม ีค ุณภาพสูงม ักต ีพ ิมพ์เป็นรูปเล่มห นังสือคล้ายเรื่องเล่า (a narrative story)
ในด ้านล บ การว ัดเชงิ ค ณุ ภาพม คี วามอ อ่ นด ้อยในก ารข ยายผ ลก ารว จิ ยั โดยท ั่วไป หรือน �ำ ขอ้ ค ้นพ บไปใชใ้ นก าร
ตัดสินเชิงนโยบาย เพราะเป็นการวัดที่ม ุ่งก ารบ รรยายอย่างลึกซึ้งในป รากฏการณ์ที่ศึกษา (generate rich descrip-
tions) มากกว่า6
2. ความส�ำ คญั ข องการวัด
การว ัดต้องส ามารถก่อเกิดประโยชน์แก่สังคม ความสำ�คัญของก ารว ัดม ีดังนี้
1) การว ัดเป็นแ กนส ำ�คัญข องการว ิจัย การว ัดในก ารว ิจัยเชิงป ริมาณท ำ�โดยก ำ�หนดต ัวเลขให้กับตัวแปรหรือ
สิ่งที่ว ัด การวิจัยส่วนใหญ่ก ็ก ำ�หนดค ่าตัวเลขให้แ ก่ข ้อมูลในท ้ายที่สุด ความแ ม่นยำ�ชัดเจนในก ารวัด (precision and
exactness) เป็นเรื่องท ี่มีความสำ�คัญยิ่ง
2) การว ัดท ำ�ให้ส ามารถทดสอบสมมติฐาน ทำ�ให้สามารถว ัดตัวแปรอ ิสระแ ละต ัวแปรตามอ ย่างม ีคุณภาพ
3) การว ัดช ่วยให้ท ราบแ นวทางสำ�หรับการต อบปัญหาส ำ�คัญในง านว ิจัย
4) การวัดช่วยให้เข้าถึงปรากฏการณ์ที่ต้องมีการศึกษาต่อไป เช่น ทำ�ให้ทราบว่ากลุ่มผู้เสพสื่อมากมีความ
เสี่ยงต ่อการเป็นโรคซ ึมเศร้า กลุ่มท ี่มีค วามอ ่อนไหวทางจิตใจมีค วามเสี่ยงต่อก ารติดสารเสพต ิด เป็นต้น
5) การว ัดที่ม ีคุณภาพ ช่วยให้ได้ข้อมูลที่ม ีคุณภาพ องค์ป ระกอบที่ท ำ�ให้ข ้อมูลมีค ุณภาพประกอบด้วย
(1) ความตรง (validity) ของการวัดตัวแปร เช่น คำ�ถามในเครื่องมือวัดถามในสิ่งที่ผู้วิจัยต้องการ
ค้นหาค ำ�ตอบ เป็นต้น
(2) ความเที่ยง (reliability) ของการวัดตัวแปร เช่น คำ�ถามในเครื่องมือวัดนำ�ไปสู่การได้คำ�ตอบที่
คงที่หรือสอดคล้องก ัน เมื่อว ัดต ่างเวลาหรือต่างสถานที่ เป็นต้น