Page 32 - การวิจัยทางนิเทศศาสตร์
P. 32

3-22 การว​ ิจัย​ทางน​ ิเทศศาสตร์

1. 	การ​วัดแ​ บบน​ าม​บัญญัติ

       การ​วัด​แบบ​นาม​บัญญัติ หรือแบบ​แบ่ง​กลุ่ม เป็นการ​วัด​ใน​ระดับ​เบื้อง​ต้น​ที่สุด ใช้​แยกแยะ​บุคคล สิ่งของ
ผลิตภัณฑ์ ยี่ห้อ ฯลฯ ออก​จาก​กัน โดย​ไม่​ให้​ความ​สำ�คัญ​กับ​ลำ�ดับ ​ว่าสิ่ง​ใด​มา​ก่อน​หรือ​มา​ภาย​หลัง การ​วัด​แบบ​
นาม​บัญญัติ​ใช้​เพื่อ​จัด​ระบบ​การ​จำ�แนก​สิ่ง​ต่าง ๆ โดย​ไม่​จำ�เป็น​ต้อง​เป็น​แนว​ต่อ​เนื่อง อาจ​เรียก​ว่า “มาตร​วัด​จำ�แนก​
ประเภท (categorical scale)” ด้วยก​ ารน​ ับจ​ ำ�นวนค​ วามถี่ ใน​แต่ละป​ ระเภท

       มาตร​วัด​ตัวแปร​ระดับ​นี้​บอก​ความ​แตก​ต่าง​ระหว่าง​กลุ่ม โดย​จำ�แนก​คุณสมบัติ​ของ​หน่วย​ที่​ต้องการ​วัด​
ออก​เป็นก​ลุ่ม​ที่​แยก​จาก​กัน ค่าตัว​เลข​เป็น​เพียง​ชื่อเ​รียก ทำ�​หน้าที่​คล้าย​ฉลาก​ที่​บ่งบ​ อก​สินค้า เพื่อ​แยก​แต่ละ​ประเภท​
ออกจ​ ากก​ ัน โดยไ​ม่​จำ�เป็นต​ ้อง​เรียง​ลำ�ดับต​ ัวเลขก​ ่อน​หลัง

       ตัวอย่าง​การว​ ัด​แบบ​นามบ​ ญั ญัติ เช่น

          เพศ (1 = เพศช​ าย, 2 = เพศ​หญิง)
          อาชพี (1 = รับร​ าชการ, 2 = พนักงาน​บริษัท​เอกชน, 3 = ธุรกิจส​ ่วนต​ ัว, 4 = รับจ้าง​ทั่วไป) เป็นต้น

          หมายเลขแ​ ต่ละห​ มายเลขใ​ช้เ​พียงแ​ ยกล​ ักษณะแ​ ต่ละก​ ลุ่มอ​ อกจ​ ากก​ ัน โดยไ​ม่ไ​ด้ม​ ีค​ วามห​ มายว​ ่า 1 ต้องม​ าก​ ่อน
  2 และ 2 ต้องม​ า​ก่อน 3 เป็นต้น

       ข้อมูลจ​ าก​การ​วัด​ระดับน​ ี้​บอก​เพียงล​ ักษณะ​โดย​ไม่มี​ความห​ มายเ​ชิง​ปริมาณ การ​วัด​ใน​ระดับ​นี้​จึง​ทำ�ได้เ​พียง​
นับ​จำ�นวน​หรือ​ความถี่​ของ​สิ่ง​ตัวอย่าง ตัวเลข​ที่​กำ�หนด​เป็น​ค่าตัว​แปร​ที่​ไม่มี​ความ​หมาย​ใน​การ​คำ�นวณ​ตาม​ตรรกะ​
ทาง​คณิตศาสตร์

       มาตรน​ วี​้ ดั ต​ วั แปรต​ ามช​ ือ่ ห​ รอื ส​ ญั ลกั ษณ์ (คณุ สมบตั ห​ิ รอื จ​ �ำ พวก) ทบี​่ ง่ บ​ อกค​ ณุ ลกั ษณะข​ องส​ ิง่ ท​ ตี​่ อ้ งการว​ ดั ทัง้ ​
คุณสมบัติแ​ ละจ​ ำ�พวกน​ ี้ต​ ้องไ​ด้ร​ ับก​ ารน​ ิยามก​ ่อน เพื่อใ​ห้การว​ ัดม​ ีค​ วามแ​ ม่นยำ� ความต​ รง ความถ​ ูกต​ ้อง วิธีก​ ารท​ ดสอบ​
ทาง​สถิติ​ที่​เหมาะ​สม​กับ​มาตร​วัด​ระดับ​นี้​คือ การ​ทด​สอบ​ไค​ส​แคว​ร์ (Chi-square) การ​วัด​ระดับ​นี้​สามารถ​ใช้​ทดสอบ​
สมมติฐาน​ได้ มัก​ใช้​การท​ ดส​ อบ​ไคส​ ​แควร​ ์ (the Chi-square test) เพื่อ​ทดสอบ​ว่า​ตัวแปร​สอง​ตัว​หรือม​ ากกว่าม​ ี​ความ​
สัมพันธ์​กัน​หรือไ​ม่ เป็นค​ วามส​ ัมพันธ์ร​ ะดับใ​ด โดย​ไม่​สามารถร​ ะบุ​ความ​เป็น​เหตุ​เป็น​ผล การ​วิเคราะห์​ทางส​ ถิติ​ใช้​การ​
นับ​จำ�นวน ความถี่ ร้อยล​ ะ ฐานนิยม (mode) ตารางไ​ขว้ห​ รือต​ าราง​การณ์จ​ ร (Cross tabulation)

       การ​วัดแ​ นวโ​น้มเ​ข้า​สู่ส​ ่วน​กลาง​ของข​ ้อมูลต​ ามม​ าตร​วัดน​ ี้​ทำ�ได้เ​พียง​การใ​ช้​ฐานนิยม หรือค​ ำ�นวณ​การก​ระจ​ าย​
เป็น​ร้อยล​ ะ การ​รายงาน​ผล​ทำ�ได้​เพียงว​ ่า​กลุ่มใ​ดม​ ี​จำ�นวนส​ มาชิกม​ าก​เท่าไร

2. 	การ​วดั แ​ บบ​เรยี งล​ �ำ ดบั

       การ​วัด​แบบ​เรียง​ลำ�ดับ หรือ​การ​วัด​แบบ​จัด​อันดับ คล้าย​การ​วัด​แบบ​นาม​บัญญัติ แต่​มี​ค่า​ของ​ความ​ต่อ​เนื่อง​
และล​ ำ�ดับ​ก่อนห​ ลังด​ ้วย นิยมใ​ช้​ใน​การว​ ัดส​ ถานะท​ างเ​ศรษฐกิจแ​ ละ​สังคม และร​ ะดับ​การ​ประเมิน

       ลกั ษณะท​ กี​่ �ำ หนด (attributes) ในก​ ารว​ ดั แ​ บบน​ ี้ สามารถจ​ ดั อ​ นั ดบั ก​ อ่ นห​ ลงั แตร​่ ะยะห​ า่ งร​ ะหวา่ งแ​ ตล่ ะล​ กั ษณะ​
ไม่มี​ความห​ มาย​เฉพาะแ​ ละ​ไม่​ต้อง​เป็น​ระยะห​ ่างท​ ี่เ​ท่า​กัน
   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37