Page 37 - กฎหมายระหว่างประเทศ และองค์การระหว่างประเทศ
P. 37

องค์การที่ไม่ใช่ของรัฐ 15-27

แล้ว อันเ​ป็น​ที่มาข​ อง​ทฤษฎีพ​ ึ่ง​พิง (Dependency Theory) ที่​ให้ค​ วามส​ ำ�คัญ​แก่​ความส​ ัมพันธ์​ทาง​เศรษฐกิจท​ ี่​ไม่​เท่า​
เทียม​กัน​ระหว่าง​ประเทศพ​ ัฒนา​แล้วก​ ับ​ประเทศก​ ำ�ลัง​พัฒนา เป็นต้น

       บทบาท​ของ​บรรษทั ​ข้ามช​ าตม​ิ ี​มาต​ ั้งแต​ย่ คุ ส​ มยั ข​ องก​ ารล​ ่าอ​ าณานคิ ม ที่​บรรษัทข​ า้ มช​ าต​สิ ่วน​ใหญ่​เปน็ ​เครอื่ งมอื  ​
ของร​ ฐั ใ​นก​ ารแ​ สวงหาค​ วามม​ ั่งคั่งแ​ ละผ​ ลป​ ระโยชนท์​ างเ​ศรษฐกิจ เช่น บรษิ ัทอ​ ินเดยี ต​ ะวนั อ​ อก (East India Company)
บริษัท​บอมเบย์​เบอร์ม​ า (Bombay Burma Company) ของ​อังกฤษ เป็นต้น ภาย​หลังส​ งครามโลกค​ รั้ง​ที่ส​ องบ​ รรษัท​
ข้ามช​ าติ​ที่​มี​บทบาทท​ ี่​สำ�คัญ​มาจ​ าก​สหรัฐอเมริกา ด้วย​การ​เป็นป​ ระเทศท​ ี่ม​ ีช​ ัยชนะ​ใน​สงคราม การ​ไม่ไ​ด้​เป็นส​ มรภูมิใ​น​
สงครามโลกค​ รั้ง​ที่​สอง แนวคิด​เสรีนิยม​ทาง​เศรษฐกิจ การ​ที่​มี​บริษัท​ขนาด​ใหญ่​และ​บรรษัท​ข้าม​ชาติ​เป็น​จำ�นวน​มาก
ทำ�ใหส้​ หรัฐอเมริกาส​ นับสนุนก​ ารล​ งทุนไ​ปท​ ั่วโ​ลก บนค​ วามข​ ัดแ​ ย้งด​ ้านอ​ ุดมการณใ์​นย​ ุคส​ งครามเ​ย็น (ค.ศ. 1945-1989)
โดยใ​นท​ ศวรรษ 1950 บรรษัท​ข้ามช​ าติไ​ด้อ​ าศัย​เงื่อนไข​ของ​การ​บูรณะฟ​ ื้นฟู​ยุโรป​จาก​แผน​มาร์แชล (Marshall Plan)
ของ​สหรัฐอเมริกา ที่​ใช้ง​ บป​ ระมาณก​ ว่า 17,000 ล้านด​ อลลาร์ส​ หรัฐฯ ใน​การ​แสวงหา​ตลาด วัตถุดิบ และผ​ ลป​ ระโยชน์​
ใน​ด้านอ​ ื่น

       ความ​เสีย​หาย​จาก​สงครามโลก​ครั้ง​ที่​สอง​ใน​ยุโรป​ทำ�ให้​ประเทศ​ใน​ยุโรป​หลาย​ประเทศ​ต้อง​ยอม​ปลด​ปล่อย​
อาณานิคม​ให้​เป็น​ประเทศ​เอกราช​นับ​ตั้งแต่​ปลาย​ทศวรรษ​ที่ 1940 ทำ�ให้​ธนาคารโลก​ที่​สหรัฐอเมริกา​มี​บทบาท​ชี้นำ�​มี​
บทบาท​สำ�คัญ​ใน​การ​ฟื้นฟู​ประเทศ​ใน​ยุโรป​ที่​เสีย​หาย​จาก​สงคราม หัน​มา​ให้​ความ​สำ�คัญ​กับ​การ​พัฒนา​ประเทศ​ของ​
ประเทศ​เอกราช​ใหม่​ใน​เอเชีย​และ​แอฟริกา​โดย​ส่วน​ใหญ่ รวม​ถึง​ประเทศ​ใน​ลา​ติ​นอ​เม​ริกา​ที่​เป็น​ประเทศ​เอกราช​เดิม
เพราะใ​น​ทศวรรษ​ที่ 1950 ภายใ​ต้​การ​แข่งขันด​ ้านอ​ ุดมการณ์ ประเทศเ​หล่าน​ ี้ม​ ีล​ ักษณะ​ร่วม​กัน​คือ ความย​ ากจน การม​ ​ี
คุณภาพช​ ีวิตท​ ี่ต​ ํ่าก​ ว่าม​ าตรฐาน และข​ าดค​ วามม​ ั่นคงท​ ั้งด​ ้านก​ ารเมือง เศรษฐกิจ และส​ ังคม รวมเ​รียกป​ ระเทศเ​หล่าน​ ี้ว​ ่า
ประเทศก​ �ำ ลงั พ​ ฒั นา การใ​หค​้ วามช​ ่วยเ​หลือข​ องส​ หรัฐอเมริกาแ​ ละธ​ นาคารโลกม​ ว​ี ัตถปุ ระสงคส์​ ำ�คัญ เพื่อก​ ารส​ รา้ งค​ วาม​
ทนั ส​ มยั ท�ำ ใหต​้ อ้ งม​ ก​ี ารพ​ ฒั นาด​ า้ นอ​ ตุ สาหกรรม ความเ​ปน็ เ​มอื ง และค​ วามเ​ปน็ ต​ ะวนั ต​ ก น�ำ ​มาส​ กู​่ ารก​ �ำ หนดย​ ทุ ธศาสตร​์
การพ​ ฒั นาป​ ระเทศด​ ว้ ยอ​ ตุ สาหกรรมเ​พือ่ ท​ ดแทนก​ ารน�ำ ​เขา้ (Import Substitution Industrialization: ISI) ในท​ ศวรรษ
1960 ในป​ ระเทศก​ ำ�ลังพ​ ัฒนา เช่น ไทย ฟิลิปปินส์ และก​ านา เป็นต้น และเ​ปลี่ยนแปลงเ​ป็นอ​ ุตสาหกรรมเ​พื่อก​ ารส​ ่งอ​ อก
(Export Oriented Industrialization: EOI) ใน​ทศวรรษ 1970 ทำ�ให้ป​ ระเทศ​กำ�ลังพ​ ัฒนา​หลายป​ ระเทศม​ ีก​ าร​ปรับ​
เปลี่ยน​ยุทธศาสตร์​การ​พัฒนา ทำ�ให้​ทุน​ของ​ญี่ปุ่น​ขยาย​ตัว​สู่​เอเชีย​ตะวัน​ออก​เฉียง​ใต้ ดัง​นั้น การ​กำ�หนด​ยุทธศาสตร์​
การพ​ ัฒนาเ​ท่ากับเ​ปิดโ​อกาสใ​ห้บ​ รรษัทข​ ้ามช​ าตมิ​ ีบ​ ทบาทส​ ำ�คัญใ​นท​ างการเ​มือง เศรษฐกิจ และส​ ังคมข​ องป​ ระเทศก​ ำ�ลัง​
พัฒนาเ​หล่าน​ ี้ จนก​ ล่าวไ​ดว้​ ่าน​ ับต​ ั้งแตท่​ ศวรรษ 1950 และ 1960 รัฐบาลข​ องป​ ระเทศก​ ำ�ลังพ​ ัฒนาส​ ่วนใ​หญส่​ นับสนุนก​ าร​
ลงทุนจ​ ากต​ ่างป​ ระเทศ ทำ�ใหม้​ กี​ ารส​ ร้างก​ ฎร​ ะเบียบ กติกา หรือห​ น่วยง​ านท​ ีเ่​อื้อป​ ระโยชนต์​ ่อก​ ารล​ งทุน และด​ ้วยน​ โยบาย​
การส​ ่งเ​สริมก​ ารล​ งทนุ ข​ องป​ ระเทศก​ ำ�ลังพ​ ฒั นา การส​ นับสนุนใ​หบ้​ รรษัทข​ า้ มช​ าตอิ​ อกไ​ปล​ งทนุ ภ​ ายนอกป​ ระเทศท​ พี่​ ัฒนา​
แล้ว ทั้ง​สหรัฐอเมริกา​และก​ ลุ่มป​ ระเทศย​ ุโรป​ตะวันต​ ก​ที่ฟ​ ื้นต​ ัว​ภายห​ ลัง​สงครามโลก​ครั้ง​ที่ส​ อง​ใน​ทศวรรษ 1950 และ​
ญี่ปุ่น​ที่​ฟื้น​ตัวใ​น​ทศวรรษ​ที่ 1960 ยุทธศาสตร์ก​ าร​พัฒนา​ประเทศใ​นท​ ศวรรษ​ที่ 1960 และ 1970 ทำ�ให้บ​ รรษัท​ข้าม​ชาติ​
มี​บทบาท​สำ�คัญ​ใน​การ​ลงทุน​ใน​ประเทศ​กำ�ลัง​พัฒนา และ​นับ​เป็น​ส่วน​สำ�คัญ​ที่​ทำ�ให้​ประเทศ​กำ�ลัง​พัฒนา​มี​อัตรา​ความ​
เจริญเ​ติบโตท​ างเ​ศรษฐกิจแ​ บบก​ ้าวก​ ระโดด หรือม​ อี​ ัตราค​ วามเ​จริญเ​ติบโตท​ ีล่​ ํ้าหน้าก​ ว่าค​ วามเ​จริญเ​ติบโตข​ องเ​ศรษฐกิจ​
โลก บรรษัทข​ ้าม​ชาติ​จึงน​ ับเ​ป็นต​ ัวแ​ สดง​ที่​มีค​ วามส​ ำ�คัญใ​น​ความส​ ัมพันธ์​ระหว่าง​ประเทศ ตัวอย่าง​เช่น ใน ค.ศ. 1978
ผลิตภัณฑ์​มวลร​ วม​ของโ​ลกม​ ีจ​ ำ�นวน 1,886 ล้านบ​ าท ซึ่งม​ าจ​ าก​บรรษัท​ข้าม​ชาติจ​ ำ�นวน 430 บรรษัท เป็นต้น

       ในท​ ศวรรษ 1970 แมร้​ ัฐบาลใ​นป​ ระเทศก​ ำ�ลังพ​ ัฒนาห​ ลายป​ ระเทศต​ ่างม​ สี​ ่วนส​ ำ�คัญใ​นก​ ารส​ นับสนุนก​ ารล​ งทุน​
ที่ต​ ่อเ​นื่องจากท​ ศวรรษ 1960 แตค่​ วามร​ ู้สึกช​ าตินิยมแ​ ละค​ วามไ​ม่พ​ อใจใ​นบ​ รรษัทข​ ้ามช​ าตขิ​ องน​ ิสิตน​ ักศึกษาป​ ัญญาชน
ทำ�ให้​มอง​ว่า​บรรษัท​ข้าม​ชาติ​เป็น​ภัย​คุกคาม​ต่อ​ความ​เป็น​อิสระ​ทางการ​เมือง​และ​เศรษฐกิจ ใน​ทางการ​เมือง​คือ​การ​
แทรกแซงท​ างการเ​มือง โดยบ​ างป​ ระเทศบ​ รรษัทข​ ้ามช​ าตปิ​ ระสบค​ วามส​ ำ�เร็จใ​นก​ ารแ​ ทรกแซงก​ ารเมือง เช่น กรณขี​ องช​ ิลี
   32   33   34   35   36   37   38   39   40   41   42