Page 18 - การบริหารกิจการสื่อสาร
P. 18
12-8 การบรหิ ารกิจการสื่อสาร
2) เจเนอเรชั่นบุกเบิก (Baby Boomers) เปน็ ผทู้ กี่ ำ� เนดิ ประมาณ พ.ศ. 2490-2507 เตบิ โต
ในยุคสงครามโลกคร้ังที่ 2 ส่งผลให้เกิดการเร่ิมต้นของการโฆษณายาคุมก�ำเนิด และเติบโตมาในยุคของ
การเตบิ โตทางเศรษฐกิจและการจ้างแรงงานสูง มีความอดทนและปรับตัวเก่ง
3) เจเนอเรชั่นเอ็กซ์ (Gen X) คอื ผทู้ ่กี �ำเนดิ ต้ังแต่ พ.ศ. 2508-2522 คนกลุ่มน้ี เป็นผู้ที่
ประสบความสำ� เรจ็ ในหนา้ ทก่ี ารงาน เตบิ โตในชว่ งของสภาวะเศรษฐกจิ ถดถอย ทำ� งานโดยยดึ หลกั จรยิ ธรรรม
และใหค้ วามสนใจคนรุ่นบกุ เบิก แตม่ คี วามเปน็ ตัวเองสูงและมองโลกในแง่รา้ ย
4) เจเนอเรชั่นวาย (Generation Y) คือคนทกี่ ำ� เนิดอยใู่ นช่วง พ.ศ. 2523-2539 มคี วาม
ใกลช้ ดิ กบั เทคโนโลยพี อสมควร ลกั ษณะนสิ ยั จะมคี วามกลา้ แสดงออกสงู มนั่ ใจในตนเอง ชอบอสิ ระ ไมส่ น
คำ� วจิ ารณ์ ไมค่ อ่ ยมคี วามอดทน มกั คาดหวงั เงนิ เดอื นสงู ชอบสงั สรรค์ พบปะเพอื่ นฝงู และชอบทำ� กจิ กรรม
เพอื่ สรา้ งความสขุ ใหต้ นเอง เชน่ การออกกำ� ลงั กาย ออกไปปารต์ ี้ เปน็ ตน้ แตก่ ม็ กั มจี ติ ใจดี ชอบชว่ ยเหลอื
สงั คม และรกั ษาสง่ิ แวดล้อม
5) เจเนอเรช่ันซี (Generation Z) เปน็ กลุ่มท่เี กดิ หลัง พ.ศ. 2539 เป็นตน้ ไป มกั เป็นกล่มุ
ทเ่ี ปน็ ลกู ของกลมุ่ เจเนอเรชนั่ เอกซ์ ใกล้ชดิ กบั เทคโนโลยีมาก ไม่ไดม้ องว่าเทคโนโลยีเปน็ คร่ืองมือ แต่จะ
มองว่าเปน็ ส่วนหน่ึงของชีวิต
การแบ่งกลุ่มคนตามเจเนอเรช่ันข้างต้น ถูกน�ำมาใช้เป็นเคร่ืองมือในการวิเคราะห์พฤติกรรมกลุ่ม
เปา้ หมาย และใชใ้ นการวางแผนการสอ่ื สารตลาดใหเ้ หมาะสมกบั แตล่ ะกลมุ่ แตส่ ำ� หรบั รนุ่ ทธ่ี รุ กจิ ตา่ งๆ ให้
ความสนใจมากเป็นพเิ ศษในขณะน้ี คือ เจเนอเรชั่นวาย (Generation Y) เพราะมลี กั ษณะเฉพาะตัวและ
พฤตกิ รรมในการบรโิ ภคหลายประการทตี่ า่ งจากเจเนอเรชน่ั กอ่ น นกั การตลาด ใหค้ วามสนใจอยา่ งมากและ
เรง่ ปรบั กลยทุ ธใ์ นการดำ� เนนิ การตลาดเพอื่ ใหต้ อบสนองตอ่ คนกลมุ่ น้ี เพราะเปน็ รนุ่ ทเี่ ปน็ ผมู้ กี ำ� ลงั ซอื้ ในอนาคต
2.3 การปรับตัวของส่ือ เมอื่ อนิ เทอรเ์ นต็ ไดเ้ ขา้ มามบี ทบาทตอ่ การเปดิ รบั ของผบู้ รโิ ภค สอื่ ดง้ั เดมิ
เชน่ โทรทัศน์ วทิ ยุ หรอื หนงั สือพิมพ์ ก็ตา่ งปรบั ตวั ให้ทนั ความเปลี่ยนแปลงดงั กล่าว มชี ่องทางออนไลน์
เพอ่ื เปน็ ทางเลอื กใหผ้ บู้ รโิ ภคมากขน้ึ เชน่ ผชู้ มสามารถรบั ชมรายการยอ้ นหลงั ผา่ นเวบ็ ไซต์ หรอื YouTube
ได้ หนงั สอื พมิ พก์ ม็ เี วบ็ ไซตเ์ ปน็ ของตนเองทใี่ หผ้ บู้ รโิ ภคเขา้ ไปอา่ นเนอ้ื หาได้ หรอื แมแ้ ตว่ ทิ ยุ ผฟู้ งั สามารถ
ฟังผ่านโทรศัพท์มือถือหรือออนไลน์ได้ และสามารถรับฟังย้อนหลังได้เช่นกัน ซ่ึงถือได้ว่าเป็นโอกาสของ
สื่อในการตอบสนองต่อกลุ่มเป้าหมายมากข้ึน และเป็นโอกาสในการที่สินค้ามีทางเลือกในการลงโฆษณา
มากข้ึนเชน่ กัน
2.4 การใหค้ วามสำ� คญั กบั เนอ้ื หามากขนึ้ เมอ่ื มองถงึ แบบจำ� ลองการสอ่ื สาร ไดแ้ กผ่ รู้ บั สาร ผสู้ ง่ สาร
สอื่ และสารตา่ งกม็ บี ทบาทสำ� คญั ในการสอ่ื สารจากตราสนิ คา้ ไปยงั ผบู้ รโิ ภค แตด่ ว้ ยสอื่ สงั คมออนไลน์ เชน่
เฟซบุ๊ก ท�ำให้สารแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว การแข่งขันด้วยเน้ือหาเป็นส่ิงที่ต้องให้ความส�ำคัญมาก
เพราะยุคสมัยเปล่ียน พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป ตราสินค้า หรือแบรนด์ต่างๆ ไม่ได้แข่งกันด้วยตัว
สินค้าอีกต่อไป แต่มีการแข่งขันในรูปแบบของการให้ผู้คนพูดถึงตัวสินค้าให้มาก และนับจากยอดการรับ
ชมผา่ นเวบ็ ไซต์ www.youtube.com ดว้ ย โดยเฉพาะการแชร์ การบอกตอ่ หากเนอ้ื หาโดนใจ มคี วามแตก
ต่าง เป็นกระแสให้ผคู้ นกลา่ วถงึ ก็จะทำ� ให้ตราสินค้าเปน็ ที่ร้จู กั มากขึ้นเร็วกว่าเดิม “เนอื้ หา” จงึ ไดร้ ับการ
ยกใหม้ บี ทบาทเสมอื นราชาในการสื่อสาร หรือเรียกว่า “Content is the king”