Page 37 - การศึกษาชีวิตครอบครัวและชุมชน
P. 37

การสรา้ งเสรมิ ความเขม้ แขง็ ของครอบครัวและชุมชน 12-25
และหยา่ 111,377 คู่ (ส�ำนักบริหารงานทะเบียน กรมการปกครอง, 2539-2555 อ้างถึงใน ยพุ ิน วรสิรอิ มร
และคณะ, 2557, น. 55)

       2.2	 การเปล่ียนแปลงด้านสังคมและวัฒนธรรมที่เป็นอุปสรรคต่อการสร้างเสริมความเข้มแข็ง
ของครอบครัว

            2.2.1	 ปัญหาวัตถุนิยมและบริโภคนิยมท่ีมีผลกระทบต่อการสร้างเสริมความเข้มแข็งของ
ครอบครัว การแพรร่ ะบาดของกระแสวตั ถนุ ยิ ม (materialism) ผนวกกบั กระแสตะวนั ตกนยิ ม (western-
ization) ท�ำให้คนจ�ำนวนไม่น้อยตัดสินหรือให้คุณค่าคนจากวัตถุสิ่งของ ท�ำให้คนจ�ำนวนมากพยายาม
แสวงหาวัตถุส่ิงของ สิ่งฟุ่มเฟือย เพ่ือให้เป็นท่ียอมรับของสังคม (เกรียงศักด์ิ เจริญวงศ์ศักดิ์, 2548,
น. 59) ซ่ึงกระแสดังกล่าวกระทบกับการด�ำเนินชีวิตครอบครัวโดยตรง โดยเฉพาะสมาชิกในครอบครัวที่
เปน็ เดก็ ซง่ึ ตอ้ งใชช้ วี ติ ทา่ มกลางกระแสสงั คมทฟ่ี งุ้ เฟอ้ ดว้ ยวตั ถุ และสงั คมรอบตวั กระตนุ้ ใหเ้ กดิ ความอยาก
พอ่ แมเ่ องกอ็ ยากใหล้ กู ทดั เทยี มกบั เพอื่ นคนอนื่ ๆ บางครงั้ ตวั เดก็ เองกต็ ดิ วตั ถนุ ยิ ม ไมส่ นใจวา่ ฐานะพอ่ แม่
เปน็ อยา่ งไร มองวา่ เปน็ หนา้ ทข่ี องพอ่ แมต่ อ้ งจดั การใหไ้ ด้ กลายเปน็ เดก็ กา้ วรา้ ว ขาดความเคารพ เกดิ ปญั หา
สัมพันธภาพในครอบครัว หรือเด็กอาจหลงเข้าสู่ช่องทางแสวงหาที่ไม่ถูกต้อง เช่น กรณีมีข่าววัยรุ่นหญิง
ขายตัวเพอ่ื น�ำเงินไปซอ้ื สงิ่ ของฟ่มุ เฟอื ย หรอื วัยรุ่นชายเขา้ สกู่ ารค้ายาเสพตดิ เปน็ ต้น

            การทค่ี รอบครวั มปี ญั หาเรอื่ งเศรษฐกจิ อาจนำ� ไปสปู่ ญั หาครอบครวั ถงึ ขน้ั หยา่ รา้ งได้ จากผล
การวิจัยพบว่า คู่สมรสที่มีความเห็นขัดแย้งกันเร่ืองการเงินแทบทุกวันจะน�ำไปสู่การหย่าร้างเพ่ิมข้ึนถึง
รอ้ ยละ 69 โดยเปรยี บเทยี บกบั คทู่ ไี่ มเ่ คยขดั แยง้ เรอ่ื งการเงนิ เลย และคสู่ มรสทไี่ มว่ า่ จะอยใู่ นฐานะเศรษฐกจิ
และสงั คมใด หากมคี วามขดั แยง้ ไมล่ งรอยกนั เรอ่ื งการเงนิ กพ็ ยากรณไ์ ดว้ า่ เปน็ ตวั แปรทนี่ ำ� ไปสกู่ ารหยา่ รา้ ง
ทส่ี ำ� คญั ทส่ี ดุ เมอ่ื เปรยี บเทยี บกบั ประเดน็ การขดั แยง้ ในเรอื่ งอน่ื และการถกเถยี งกนั เกย่ี วกบั เรอื่ งเงนิ ๆ ทองๆ นี้
เปน็ สญั ญาณพน้ื ฐานถงึ ความไมม่ น่ั คงในชวี ติ สมรส ซงึ่ มคี วามเกย่ี วเนอื่ งไปถงึ ประสทิ ธภิ าพในการสอ่ื สาร และ
ความพงึ พอใจในการใชช้ วี ติ ครู่ ว่ มกนั (Dew, Britt, & Huston, 2012, p. 627) นอกจากนี้ ผลการวิจัย
ยังพบว่า ความสัมพันธ์ของคู่สมรสของครอบครัวท่ีมีรายได้ตํ่าจะมีประสบการณ์ที่เลวร้ายและขมข่ืน เม่ือ
เปรยี บเทยี บกบั ครอบครัวที่มีรายไดส้ ูงซง่ึ มีความสมั พันธท์ ดี่ ี ดงั นัน้ เพ่ือให้ครอบครวั ท่ีมีรายได้ตํา่ มีความ
เข้มแข็งและอยู่รอดอย่างม่ันคง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมีการให้ความช่วยเหลือคู่สมรสเผชิญกับภาวะ
เศรษฐกิจและสังคมตามสภาพการณ์ท่เี ปน็ จริง (Trail & Karney, 2012, p. 425)

            2.2.2	 ปัญหาครอบครัวท่ีเกิดจากการหย่าร้างของคู่สมรส ในปัจจุบันอัตราหย่าร้างของ
ครอบครัวไทยเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งผลจากการหย่าร้างท�ำให้ลูกที่เกิดจากการสมรสก่อนหน้าน้ันมีปัญหาตามมา
ดังกรณศี ึกษาถึงผลกระทบต่อลูกทเี่ กิดหลงั จากการหยา่ รา้ งของคสู่ มรสในสหรัฐอเมรกิ า พบว่า เด็กอย่ใู น
สภาวะยากไรก้ วา่ เดมิ สขุ ภาวะทางอารมณแ์ ยล่ ง ความสมั ฤทธผิ ลทางการศกึ ษาไมด่ ี และการเปน็ แมว่ ยั รนุ่
เดก็ ชายทอ่ี ยกู่ บั แมค่ นเดยี วหลงั การหยา่ รา้ งกจ็ ะเปน็ เดก็ เกเร กระทำ� ผดิ กฎหมาย และมเี พศสมั พนั ธต์ ง้ั แต่
ยงั เดก็ มากเป็น 4 เท่าของเด็กผูช้ ายที่อาศัยอยกู่ ับพ่อแม่ (Leon-Guerrero, 2014, p. 172) นอกจากนี้
ยงั พบวา่ ถงึ แมว้ า่ คสู่ มรสทแี่ ตง่ งานใหมห่ ลงั การหยา่ รา้ งในสหรฐั อเมรกิ าจะมคี วามสขุ มากขน้ึ แตล่ กู ทเ่ี กดิ
จากการแตง่ งานครง้ั แรกมกั จะมปี ัญหา อาทิ ปญั หาการมีเพศสัมพันธต์ ง้ั แต่อายยุ งั น้อย การมบี ตุ รคนแรก
โดยไม่ได้มีการแต่งงาน และมีความสุขในระดับต่ํา ซ่ึงสอดคล้องกับผลการศึกษาในประเทศอื่นท่ีเด็ก
ในครอบครวั หยา่ รา้ งมคี วามเสยี่ งทจ่ี ะมปี ญั หา (Cherlin, 2010 อา้ งถงึ ใน Thio & Taylor, 2012, p. 242)
   32   33   34   35   36   37   38   39   40   41   42