Page 39 - การศึกษาชีวิตครอบครัวและชุมชน
P. 39
การสร้างเสรมิ ความเข้มแข็งของครอบครวั และชมุ ชน 12-27
เร่ืองที่ 12.2.2
ปัจจัยท่ีมีผลต่อการสร้างเสริมความเข้มแข็งของชุมชน
แมก้ ารเปลย่ี นแปลงของสงั คมยคุ ใหมจ่ ะท�ำใหช้ มุ ชนจำ� นวนมากสญู เสยี ความสามารถในการพง่ึ พา
ตนเองและพึ่งพาอาศัยกันในชุมชน รวมทั้งขาดความเชื่อมั่นในศักยภาพของตน จนปล่อยให้กระแส
การเปลี่ยนแปลงพัดพาให้จมดิ่งสู่ปัญหามากย่ิงขึ้น และรอคอยความช่วยเหลือจากภายนอกโดยไม่รู้ว่าจะ
จัดการกับตนเองอย่างไร แต่ขณะเดียวกันก็พบว่ายังมีชุมชนบางส่วนที่ไม่ยอมจ�ำนนต่อปัญหา หากแต่
สามารถต่อสู้เพ่ือหาทางออกจากปัญหาท่ีรุมเร้าจนประสบผลส�ำเร็จปรากฏอยู่ด้วยเช่นกัน หากประมวล
แนวคิดของนักวิชาการเกี่ยวกับสิ่งที่ท�ำให้ชุมชนสามารถหลุดพ้นจากสภาวะไม่พึงประสงค์สู่การมีชีวิต
ความเปน็ อยทู่ ดี่ ไี ดจ้ ะสามารถสรปุ เกยี่ วกบั ปจั จยั ทมี่ ผี ลกระทบตอ่ การสรา้ งเสรมิ ความเขม้ แขง็ ของชมุ ชนได้
ดังน้ี (สมพันธ์ เตชะอธิก, ปรีชา อุยตระกูล, และช่ืน ศรีสวัสดิ์, 2533; สรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม, 2546;
เพ็ญสริ ิ จรี ะเดชากุล, 2550 และสลี าภรณ์ บัวสาย, 2552)
1. ศักยภาพของผู้น�ำหรือกลุ่มแกนน�ำในชุมชน
การมีผู้น�ำทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการที่ชาวบ้านให้การยอมรับนับถือในความซื่อสัตย์
เสยี สละ มคี วามรคู้ วามสามารถ มจี ติ สำ� นกึ ในการทำ� งานเพอื่ สว่ นรวม และมคี วามเปน็ ผนู้ ำ� การเปลยี่ นแปลง
(change agent) ทส่ี ามารถผลกั ดนั และขบั เคลอื่ นใหช้ มุ ชนเกดิ การเปลยี่ นแปลงไปในทศิ ทางทพ่ี งึ ปรารถนา
ได้ ถือเป็นปัจจัยความส�ำเร็จท่ีส�ำคัญของการสร้างเสริมความเข้มแข็งของชุมชน คุณสมบัติของผู้น�ำท่ี
สามารถสรา้ งการยอมรบั จากคนในชมุ ชน ไดแ้ ก่ การเปน็ ผทู้ มี่ คี วามรคู้ วามสามารถพเิ ศษเฉพาะตวั มคี วาม
มุ่งมนั่ จริงใจและท�ำงานด้วยความเสียสละ มคี วามสามารถในการแกไ้ ขปัญหาไดอ้ ย่างเหมาะสมสอดคลอ้ ง
กบั สภาพทแ่ี ทจ้ รงิ ในชมุ ชน และบคุ ลกิ ภาพเฉพาะตวั ของผนู้ �ำ เชน่ ความกลา้ ทจี่ ะทดลองสงิ่ ใหม่ ความเปน็
คนชา่ งคิดชา่ งทำ� ความเป็นตวั ของตวั เอง ความเข้าใจชุมชนของตนเองและสงั คมภายนอกชุมชน เปน็ ตน้
ในความเหน็ ของ ปารชิ าติ วลยั เสถียร และคณะ (2543) ผนู้ �ำชุมชนสามารถมีอิทธิพลได้ทั้งทางบวกและ
ทางลบต่อการพัฒนา กลา่ วคอื มีบทบาทไดท้ ้งั การเป็นผูส้ รา้ งหรือผู้ท�ำลายความเข้มแขง็ ของชมุ ชน โดย
จะพบว่าในสังคมที่ไม่เป็นประชาธิปไตยและมีความเหลื่อมล้ําไม่เป็นธรรมสูง ผู้น�ำมักเป็นคนกลุ่มน้อยที่มี
อ�ำนาจและทรัพย์สินหรือต�ำแหน่งสูงกว่าคนกลุ่มอื่นๆ โดยความสัมพันธ์ระหว่างผู้น�ำกับสมาชิกมักเป็น
ความสมั พนั ธเ์ ชงิ พงึ่ พา ในสงั คมลกั ษณะน้ี หากผนู้ ำ� มคี วามเขม้ แขง็ มากเทา่ ใดชมุ ชนกจ็ ะออ่ นแอมากเทา่ นนั้
ในทางกลับกัน ในสังคมที่เข้มแข็ง ผู้น�ำที่มีภาวะการน�ำท่ีดีอาจมิใช่ผู้มีอ�ำนาจอิทธิพลหรือมีฐานะทาง
เศรษฐกิจก็ได้ ดังจะเห็นได้จากผู้น�ำทางความคิด ผู้น�ำทางคุณธรรม หรือผู้น�ำทางศาสนาและวัฒนธรรม
จำ� นวนมากทไ่ี ดร้ บั การยอมรบั จากชมุ ชน บคุ คลเหลา่ นส้ี ามารถทำ� หนา้ ทเ่ี ปน็ สอื่ ประสานใหเ้ กดิ ความรว่ มมอื
ร่วมใจในการท�ำงานพัฒนา รวมทั้งการแบ่งปันความรู้ ประสบการณ์ และทรัพยากร เพ่ือน�ำไปสู่ชีวิตที่ดี
รว่ มกัน