Page 19 - การบริหารจัดการและกลยุทธ์ การสื่อสารชุมชน
P. 19
การบริหารจดั การและกลยุทธก์ ารสื่อสารเพ่อื การจัดการความรูใ้ นชุมชน 5-9
เร่ืองที่ 5.1.2
ความส�ำคัญ และเป้าหมายของการบริหารจัดการความรู้
ความส�ำคัญของการบริหารจัดการความรู้
ในสงั คมปัจจุบนั ซ่ึงกำ� ลงั มงุ่ ไปสู่สังคมแห่งความรู้ องค์กรรฐั หรือหน่วยงานเอกชน รวมท้ังชมุ ชน
ต่างๆ จ�ำเป็นตอ้ งมีการบรหิ ารจัดการความรู้ การบริหารจดั การความรมู้ ีความสำ� คัญดังนคี้ ือ
1. ทำ� ใหค้ วามรไู้ มส่ ญู หาย การบรหิ ารจดั การความรทู้ ำ� ใหช้ มุ ชนสามารถเกบ็ ความรไู้ วไ้ ดใ้ นชมุ ชน
โดยไม่สูญหาย ในขณะที่สมาชิกของชุมชนอาจจะเกษียณอายุหรือเข้าสู่วัยชรา ท�ำให้ชุมชนสามารถเก็บ
ความรไู้ วไ้ ดไ้ มส่ ญู เสยี ทรพั ยากรโดยเปลา่ ประโยชน์ การบรหิ ารจดั การความรยู้ งั ชว่ ยใหส้ มาชกิ ลดการสรา้ ง
ความผดิ พลาดซำ้� ซากได้
2. มกี ารแลกเปลยี่ นความรรู้ ะหวา่ งสมาชกิ ในชมุ ชน ในกระบวนการบรหิ ารจดั การความรู้ สมาชกิ
ของชุมชนจะมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกัน สมาชิกบางท่านอาจจะเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้
ประสบการณ์ไปยังสมาชิกอ่ืนๆ ซ่ึงเป็นการพฒั นาบุคลากรไปด้วย
3. พัฒนาผลสัมฤทธ์ิของงาน เมื่อมีการบริหารจัดการความรู้ท�ำให้ความรู้ที่ซ่อนเร้นเปล่ียนเป็น
ความรู้ทช่ี ดั แจง้ และมีการจัดเกบ็ ความรูท้ ่เี กดิ ขึน้ อยา่ งเป็นระบบ ย่อมเป็นคลังความรทู้ ่เี ปิดให้สมาชกิ ของ
ชุมชนน�ำมาใชป้ ระโยชน์ และสามารถแตกแขนงความร้ใู หก้ วา้ งขวางมากขึน้ ด้วย
4. ชว่ ยเพม่ิ ความสามารถในการตดั สนิ ใจและวางแผนไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ กระบวนการจดั การความ
รมู้ ขี นั้ ตอนของการจดั ระเบยี บขอ้ มลู และการจดั เกบ็ ขอ้ มลู อยา่ งเปน็ ระบบ ดงั นน้ั ความรทู้ ถี่ กู จดั เกบ็ ดงั กลา่ ว
เป็นแหล่งความรู้ท่ีถูกกล่ันกรองมาอย่างเป็นระบบที่สมาชิกของชุมชน สามารถท�ำมาใช้ประกอบการ
ตัดสินใจและวางแผนในอนาคตไดอ้ ย่างสะดวก ไมต่ ้องเสยี เวลาคน้ หา
เป้าหมายของการบริหารจัดการความรู้
การบรหิ ารจดั การความรจู้ ะบรรลผุ ลสำ� เรจ็ ได้ สมาชกิ ของชมุ ชนควรรว่ มมอื รว่ มใจกนั ทง้ั นส้ี มาชกิ
ของชุมชนควรก�ำหนดเป้าหมายของการบริหารจัดการความรู้ร่วมกัน และตระหนักถึงเป้าหมายเพื่อจะได้
มุ่งสูจ่ ุดหมายที่เป็นอนั หนง่ึ อันเดยี วกัน ทัง้ นี้เปา้ หมายของการบริหารจัดการความรู้ ได้แก่
1. เพ่ือเก็บและถ่ายทอดความรู้ไว้ในชุมชน ผลลัพธ์ส�ำคัญอย่างหนึ่งของกระบวนการจัดการ
ความรคู้ อื คลงั ความรู้ ซง่ึ เกดิ จากการแลกเปลย่ี นเรยี นรขู้ องสมาชกิ ในชมุ ชน ชมุ ชนมคี ลงั ความรซู้ งึ่ สมาชกิ
สามารถหยิบมาใช้ประโยชน์ได้เม่ือต้องการ นอกจากนี้คลังความรู้ยังเป็นการเพิ่มพูนทุนความรู้หรือทุน
ปัญญาของชุมชนจะชว่ ยให้ชมุ ชนมีศักยภาพในการฟันฝ่าความยากล�ำบากหรอื ความไมแ่ น่นอนในอนาคต
ได้ดีย่ิงขึ้น นอกจากน้ีคลังความรู้ท่ีสมาชิกของชุมชนร่วมกันสร้างข้ึนยังสามารถน�ำมาใช้เพ่ือพัฒนางานให้
มีคณุ ภาพและผลสัมฤทธย์ิ ง่ิ ขึ้น
