Page 29 - ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร
P. 29

ศิลปะการใช้ภาษา ๑๒-19
       ในตัวอย่างข้างต้น ผู้เขียนใช้ค�ำว่า “พวก สว.” แทนค�ำว่าคนสูงวัยซ่ึงคนฟังอาจไม่ชอบหาก
ไมย่ อมรบั ความจรงิ จงึ เลยี่ งไปใชค้ ำ� ทฟี่ งั ดเู บาขนึ้ และใชค้ ำ� วา่ “ฉ”่ี ในความหมายวา่ เขา้ หอ้ งนำ้�  ซง่ึ นอกจาก
เลยี่ งการใชค้ ำ� ไมส่ ภุ าพไดเ้ ปน็ อยา่ งดแี ลว้ ยงั ใชค้ ำ� ทม่ี เี สยี งพยญั ชนะเดยี วกนั กบั คำ� วา่ “ชอ้ ป” และ “แชะ”
ซงึ่ มคี วามหมายวา่ ชอ้ ปปง้ิ หรอื ซอื้ ของ และถา่ ยรปู การใชค้ ำ� ทม่ี เี สยี งพยญั ชนะเสยี งเดยี วกนั คอื เสยี ง /ช/
ทำ� ให้มเี สยี งไพเราะ และแสดงใหเ้ หน็ ปฏภิ าณของผู้ใช้ภาษาในการสรรค�ำสทั พจน์หรือค�ำเลยี นเสยี ง (“ฉ่ี”
และ “แชะ”) และคำ� ตดั สั้นจากคำ� เตม็ (“ช้อป”) มาเข้าคกู่ ันไดอ้ ย่างแยบคายและเหน็ ภาพ
       ๒.๓ 	พูดคุยโดยใช้ค�ำท่ีมีสัมผัสไพเราะ ปกติคนไทยชอบพูดโดยใช้ค�ำคล้องจองอยู่แล้วเพราะ
มคี วามเป็นกวีอย่ใู นตวั และท�ำให้ฟงั แลว้ ร่ืนหู ทง้ั ยังทำ� ใหจ้ ดจ�ำได้งา่ ย เชน่

            ๑) 	 มีเสียงสัมผัสพยัญชนะ เช่น
         “ในโลกบนั เทิงทกุ วันนี้ ดาวต่างๆ เกิดง่ายและดบั งา่ ยมาก ท้งั ดาวเด่นและดาวดับ”

            ในตัวอย่างข้างต้น ผู้พูดเลือกใช้ค�ำ  “ดาว” “เด่น” และ “ดับ” เพื่อให้ค�ำท่ีเลือกใช้มีเสียง
พยัญชนะเดยี วกัน ท้งั ยังทำ� ใหค้ วามหมายของค�ำ “เดน่ ” กับ “ดบั ” ตรงขา้ มกนั ไดอ้ ยา่ งน่าชมเชยด้วย

            อนงึ่ ยงั มกี ารใชค้ ำ� อกี ลกั ษณะหนงึ่ เปน็ คำ� ทมี่ คี วามหมายตรงขา้ มกนั และใชเ้ สยี งพยญั ชนะ
ของคำ� แบบค่ขู นาน เชน่ เสยี ง /ด/ และ /ร/ ในคำ� ว่า “ดาวรุ่ง” กบั “ดาวร่วง” และเสียง /น/ และ /ง/
ในคำ� ว่า “นางงาม” กบั “นางงอม”

            การใชค้ ำ� ทม่ี เี สยี งพยญั ชนะเดยี วกนั และมคี วามหมายของคำ� ตรงขา้ มกนั เชน่ นน้ี บั เปน็ ตวั อยา่ ง
ท่ดี ตี ัวอย่างหนึง่ ของศิลปะการใชภ้ าษาท่ที ัง้ ไพเราะและไดค้ วามหมายดี

            ๒) 	มีเสียงสัมผัสสระหรือค�ำคล้องจอง เช่น
         			“หลายคนในสมยั นถ้ี อื คตวิ า่ “มเี งนิ นบั เปน็ นอ้ ง มที องนบั เปน็ พ”่ี แตแ่ ทจ้ รงิ แลว้ ใช้ “นำ้� ใจ
  ไมตรี ผูกพนั ฤดีกนั ไว”้ นา่ จะดีท่สี ดุ ”
         		

            ในตวั อยา่ งขา้ งตน้ ผพู้ ดู ใชค้ ำ� ทม่ี สี มั ผสั คลอ้ งจองในการสอื่ สาร คอื คำ� วา่ “นอ้ ง” กบั “ทอง”
และ “ไมตรี” กับ “ฤดี” สะท้อนใหเ้ ห็นทกั ษะการใชค้ ำ� คล้องจองและคลังคำ� ของผู้พดู วา่ มีอยูไ่ มน่ ้อยเลยที
เดยี ว ทำ� ใหไ้ พเราะ นา่ ฟังมากขนึ้

            ๓) 	มีการเล่นเสียงวรรณยุกต์ต่างระดับ เช่น
         “ปนี ีเ้ ป็นปที องของการท่องเทีย่ วไทย เพราะมีชาวตา่ งชาตจิ ำ� นวนมากและหลากหลายชาติ
  เข้ามาเทย่ี วในประเทศไทย”
   24   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34