Page 19 - ความเป็นครู
P. 19
มนุษยสัมพันธ์และการท�ำงานเป็นทีม 6-9
2. วิธกี ารสรา้ งมนษุ ยสมั พันธ์
เม่ือเข้าใจหลักการของมนุษยสัมพันธ์แล้ว สิ่งท่ีส�ำคัญคือการรู้จักวิธีการสร้างมนุษยสัมพันธ์ เพื่อน�ำ
ไปใช้ประโยชน์ในการท�ำงานร่วมกัน
วิธีการสร้างมนุษยสัมพันธ์มีผู้กล่าวไว้อย่างน่าสนใจหลายท่าน ดังนี้
กิตติ พัชรวิชญ์ (2546, น. 133–136) ได้กล่าวถึงกระบวนการสร้างมนุษยสัมพันธ์ สรุปได้ดังนี้ การ
สรา้ งความสมั พันธก์ ับคนตอ้ งใชท้ ัง้ ศิลป์และศาสตร์เพ่ือใหไ้ ด้ใจผู้ร่วมงาน ดงั นนั้ จึงต้องรจู้ กั และเขา้ ใจตนเอง
รู้และเข้าใจบุคคลอื่น และสร้างความสัมพันธ์อันดีในครอบครัวหรือที่ท�ำงาน ควรรู้จักการให้อภัยกันเมื่อเกิด
ความเข้าใจผิดหรือมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน
ความเห็นดังกล่าวสอดคล้องกับ กุลธน ธนาพงศธร (2549, น. 8-10) กล่าวถึงวิธีการพัฒนา
มนษุ ยสมั พนั ธข์ องนกั บรหิ ารรฐั กจิ สรปุ ไดว้ า่ มี 2 วธิ ี ไดแ้ ก่ ดำ� เนนิ การแกไ้ ขตนเอง เพอื่ ใหม้ ลี กั ษณะทเ่ี หมาะสม
กับการมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่นอย่างมีประสิทธิภาพ และด�ำเนินการปรับตัวเองให้เข้ากับบุคคลแวดล้อม
ซ่ึงได้แก่ ผู้ที่อยู่ในต�ำแหน่งสูงกว่าหรือผู้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงาน และประชาชนผู้มาขอรับบริการ
นอกจากน้ัน ความเห็นดังกล่าวยังสอดคล้องกับ กาญจนา ใจกว้าง (2547, น. 71–72) ท่ีกล่าวถึงการ
สร้างมนุษยสัมพันธ์ในวิชาชีพสารสนเทศศาสตร์ สรุปได้ว่าต้องมีหลัก ดังน้ี
1) หลักการรู้จักและเข้าใจตนเอง โดยต้องศึกษาตนเอง รู้จักและเข้าใจตนเอง ยอมรับค�ำต�ำหนิจาก
บุคคลอื่น และต้องรู้จักแก้ไขปรับปรุง
2) หลักการเข้าใจมนุษย์ ต้องค�ำนึงถึงความคล้ายคลึงและความแตกต่างของมนุษย์
3) หลักการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข เป็นการสร้างมนุษยสัมพันธ์กับบุคคลท่ีต้องท�ำงานด้วย การ
ให้ความส�ำคัญและการยอมรับบุคคลอื่น มีอัธยาศัยท่ีดีและเป็นกันเอง แสดงความแจ่มใส มีชีวิตชีวา ไม่เอา
เปรียบผู้อ่ืน และยอมรับผิดเมื่อเกิดความผิดพลาดในการท�ำงานและพร้อมที่จะแก้ไขงานให้ถูกต้องสมบูรณ์
จะเห็นได้ว่าวิธีการสร้างมนุษยสัมพันธ์น้ันจะต้องมีวิธีการ ดังนี้
1. รู้จักและเข้าใจตนเองอย่างแท้จริง โดยศึกษาตนเองทุกแง่มุม ยอมรับจุดเด่น จุดด้อยของตน
ใจกว้างพร้อมรับฟังความคิดเห็นของผู้อ่ืนท่ีมีต่อตนเองทั้งด้านบวกและด้านลบ พร้อมท้ังยินดีท่ีจะแก้ไข
ข้อบกพร่องของตนเองอยู่เสมอ
2. รู้จักและเข้าใจบุคคลอื่น ยอมรับความแตกต่างของแต่ละบุคคล พร้อมท่ีจะเลือกพิจารณาน�ำ
ด้านดีของบุคคลนั้นมาใช้ประโยชน์ในการท�ำงานร่วมกัน
3. ยดึ หลกั การอยรู่ ว่ มกนั อยา่ งมคี วามสขุ โดยเนน้ ความประนปี ระนอม ไมเ่ อาเปรยี บกนั ยอมรบั ผดิ
และให้อภัยกัน
4. ปรับตัวให้เข้ากับบุคคลที่แวดล้อมท้ังผู้บังคับบัญชา เพ่ือนร่วมงาน และบุคคลท่ีเกี่ยวข้องกับ
วิชาชีพ เพ่ือจะได้ท�ำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ
5. มคี วามสามารถในการสอื่ สารกบั บคุ คลอน่ื การสอ่ื สารทด่ี จี ะชว่ ยสรา้ งความสมั พนั ธท์ ดี่ รี ะหวา่ งกนั
ด้วย
