Page 55 - ความเป็นครู
P. 55

ศักยภาพ สมรรถภาพครู และจิตวิญญาณความเป็นครู 10-45

       วธิ กี ารสรา้ งเสริมศักยภาพและสมรรถภาพหรอื สมรรถนะครดู งั กล่าวขา้ งตน้ โรงเรยี นหรือหน่วยงาน
ทางการศึกษาควรได้ใช้หลากหลายวิธีให้เหมาะกับสภาพแวดล้อม และทรัพยากรของโรงเรียนโดยควร
ด�ำเนินการในเร่ืองต่าง ๆ ดังกล่าวข้างต้นอย่างต่อเนื่องเป็นระบบ มีการติดตามนิเทศก�ำกับดูแล ให้ขวัญ
ก�ำลังใจครูอย่างกัลยาณมิตร ทั้งน้ีเพ่ือผลที่จะเกิดกับผู้เรียนจะเป็นไปในทางท่ีพึงประสงค์ต่อไป

       นอกเหนือไปจากวิธีการท่ีเสนอให้โรงเรียนได้จัดวิธีการเสริมสร้างศักยภาพและสมรรถภาพหรือ
สมรรถนะครูข้างต้น สถาบันพัฒนาครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษายังได้เสนอกรอบแนวคิดการ
พัฒนาครูและบุคลากรแนวใหม่เพ่ือเสริมสร้างศักยภาพและสมรรถภาพครูแนวใหม่ ดังน้ี

            1) 	ครูทุกคนต้องได้รับการพัฒนาอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
            2) 	การพัฒนาต้องสอดคล้องกับความต้องการของครู ภายใต้กรอบสมรรถนะท่ีก�ำหนดและ
แผนพัฒนาครูรายบุคคล (ID-Plan)
            3) 	การพัฒนาต้องก่อให้เกิดการเปล่ียนแปลงท่ีตัวผู้เรียน
            4) 	การพัฒนาต้องใช้วิธีการหลากหลายรูปแบบ
            5) 	การพัฒนาต้องสะดวก มีเครือข่ายทั่วประเทศ

                - 	 หน่วยงานเครือข่าย เช่น สถาบันอุดมศึกษา สมาคมครูและผู้ปกครอง สมาคม
ศิษย์เก่า สถานศึกษาเอกชน ส�ำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา (สพท) โรงเรียนในเขตพ้ืนที่การศึกษา

                - 	 บุคคลเครือข่าย เช่น ผู้ทรงวุฒิ ปราชญ์ท้องถิ่น
                - 	 เครือข่ายทางไกล เช่น สื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ เว็บไซต์
            6) 	รัฐสนับสนุนงบประมาณในรูปคูปองวิชาการ
       จากวิธีการท่ีกล่าวมาข้างต้น เป็นวิธีการหลากหลายวิธีท่ีจะช่วยเสริมสร้างศักยภาพและสมรรถภาพ
ของครู ในการพัฒนาศักยภาพครูตามสมรรถนะย่อย ๆ หากจะท�ำให้เกิดพลังสูงสุด พูลสุข หิงคานนท์ (2549,
น. 15 -16) ได้เสนอให้ใช้แนวคิดการสร้างพลังอ�ำนาจ (empowerment) มาใช้ เน่ืองจากเป็นกระบวนการที่
ท�ำให้บุคลากรหรือครูมีความสามารถในการปฏิบัติงานได้บรรลุเป้าหมาย โดยการสนับสนุนให้อ�ำนาจ
ตัดสินใจ สร้างแรงจูงใจและการพัฒนาศักยภาพของบุคคล แนวคิดน้ีประกอบด้วยขั้นตอน 6 ข้ันตอน คือ
       1.	 ความไว้วางใจ (trust) ผู้น�ำต้องสร้างและคงไว้ซึ่งความไว้วางใจโดยเป็นผู้ท่ีมีความม่ันคงทาง
อารมณ์ รู้จักกาลเทศะ มีความซ่ือสัตย์ รักษาข้อผูกพันและสัญญา
       2.	 การให้ข้อมูลป้อนกลับ (feedback) ผู้น�ำจะต้องได้รับข้อมูลป้อนกลับว่ารูปแบบการท�ำงานเป็น
อย่างไร มีข้อดี ข้อเสีย หรือมีสิ่งใดบ้างที่ต้องปรับปรุง
       3.	 การสอนและการปฏิบัติเป็นแบบอย่าง (teaching coaching and role modeling) ผู้น�ำสามารถ
สอนและเป็นแบบอย่างท่ีดีให้กับผู้ปฏิบัติงาน
       4.	 การตดิ ต่อส่อื สาร (communication) ผู้บริหารควรใช้การสื่อสารสองทาง โดยส่ือสารได้หลายรูป
เช่น การประชุมย่อย กับพบปะกันในกลุ่มสาระหรือในระดับช้ัน การประชุมปรึกษาเพ่ือให้ได้ข่าวสารร่วมกัน
   50   51   52   53   54   55   56   57   58   59   60