Page 69 - ความเป็นครู
P. 69

ศักยภาพ สมรรถภาพครู และจิตวิญญาณความเป็นครู 10-59

เหมือนเพื่อนครูคนอื่น ๆ ด้วยเหตุผลท่ีว่า โรงเรียนเหล่าน้ันมีพร้อมทุกสิ่งแล้ว มีครูประจ�ำชั้น มีครูแนะแนว
และอีกมากมาย ในขณะท่ีเด็กในชุมชนไม่มีอะไรเลย ถึงแม้ร่างกายเขาจะบกพร่องแต่จิตใจของเขาไม่เคย
บกพร่องเลย กลับสูงส่งด้วยความคิดของผู้มีจิตวิญญาณความเป็นครูที่อยากจะให้เด็กด้อยโอกาสได้รับ
โอกาสเพ่ือให้มีชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ครูเชาวลิตเป็นผู้ให้และคอยช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสในสังคม
เด็ก ๆ มักเรียกเขาว่า “ครูเชาว์” ปัจจุบันมีอายุเพียงสามสิบต้น ๆ เป็นชายที่มีร่างกายพิการ และบกพร่องทาง
สติปัญญามาตั้งแต่ก�ำเนิด พ่อแม่ทอดทิ้งต้ังแต่ยังจ�ำความไม่ได้และเติบโตมาในสถานสงเคราะห์เด็กพิการ
ทางสมองและสติปัญญาบ้านราชาวดี อ�ำเภอปากเกร็ด ถึงร่างกายจะพิการแต่จิตใจของเขาไม่เคยพิการเลย
แรงบันดาลใจท่ีท�ำให้เขามีความคิดอยากจะช่วยเหลือสังคม ช่วยเหลือเด็ก คนแก่ และผู้คนท่ีด้อยโอกาสนั้น
เรมิ่ ตง้ั แตต่ อนทต่ี วั เองเปน็ เดก็ พกิ ารกำ� พรา้ อาศยั อยใู่ นบา้ นราชาวดี ครเู ชาวเ์ ลา่ วา่ “...คำ� พดู ของคณุ ยายขอทาน
ที่ผมพบระหว่างที่เดินไปโรงเรียนตั้งแต่สมัยเรียนประถม ผมเข้าไปถามคุณยายว่า ท�ำไมมานั่งขอทาน และ
ค�ำตอบที่ได้รับคือ ลูกหลานทิ้งหมดแล้ว วันน้ันผมมีข้าวเปล่ากับไข่ต้มอยู่ในกล่องข้าวก็เลยให้คุณยายไป
คุณยายพูดว่าขอให้หลานเจริญ ๆ นะ เป็นค�ำพูดที่ผมไม่เคยได้รับมาก่อน...ตั้งแต่วันนั้นผมเลยตั้งปณิธานว่า
ผมต้องเรียนหนังสือ เพราะถ้าไม่ได้เรียน ตัวผมก็จะเหมือนเด็กท่ัวไปท่ีต้องออกมาเร่ร่อน และจะต้องเรียน
ให้จบเพอ่ื มาท�ำงานช่วยเหลือเด็ก ผ้สู งู อายุ ผู้พกิ ารต่อไป...”

       ครเู ชาวม์ คี วามขยนั หมนั่ เพยี รและตง้ั ใจเรยี น ถงึ แมว้ า่ เขาจะมพี ฒั นาการทชี่ า้ กวา่ เพอื่ นในวยั เดยี วกนั
แต่เขาก็มุมานะจนเรียนจบปริญญาตรีสาขาพลศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
หลังจากเรียนจบ เขาเลือกท่ีจะไม่ไปสอนหนังสือตามโรงเรียนเช่นเพ่ือนครูคนอ่ืน ๆ แต่เลือกที่จะไปเป็นครู
ท่ีศูนย์สร้างโอกาสแก่เด็กด้อยโอกาสในชุมชนต่าง ๆ ด้วยเหตุผลที่ว่า ในโรงเรียนมีพร้อมทุกส่ิงแล้ว มีครู
ประจ�ำช้ัน มีครูแนะแนวและอีกมากมาย ในขณะท่ีเด็กในชุมชนไม่มีอะไรเลย เขาได้สมัครไปเป็นครูอาสาของ
กรุงเทพมหานคร ที่เขตทุ่งครุ เป็นงานแรกของครูเชาว์หลังจากที่จบปริญญาตรี หลังจากท่ีได้เร่ิมท�ำงาน
เขาได้ขอย้ายออกจากบ้านราชาวดีเพื่อมาใช้ชีวิตด้วยตนเอง ครูเชาว์ท�ำงานเป็นครูอาสาอยู่ที่ทุ่งครุได้ 3 เดือน
จึงขอย้ายมาเป็นครูประจ�ำที่ศูนย์สร้างโอกาส ชุมชนบ้านปูน ย่านสะพานพระรามแปด เน่ืองด้วยครูประจ�ำ
คนเก่าของศูนย์ได้ลาออกไป ด้วยบุคลิกที่พิการด้านร่างกาย และความบกพร่องทางสติปัญญา ท�ำให้เขาต้อง
ใช้เวลาไม่น้อยกว่าจะเป็นที่ยอมรับของผู้คนในชุมชนละแวกนั้น ครูเชาว์ได้อุทิศตนท�ำงานเพื่อเด็กเร่ร่อนและ
เด็กในชุมชนแออัดโดยไม่ย่อท้อและไม่สนใจ ความสุขหรือความสบายของตนเองเลย เขาเสียสละตัวเองด้วย
การท�ำงานอย่างทุ่มเท ในทุก ๆ วันครูเชาว์จะต่ืนแต่เช้ามืด ออกเก็บขยะข้างถนนไปขายเพ่ือน�ำเงินท่ีได้
รวมกับเงินเดือนบางส่วนของตนเอง และน�ำไปซื้อสมุดดินสอ นมผง และของใช้อ่ืน ๆ เพื่อน�ำไปมอบให้
เด็กพิการในชุมชน และเก็บของเล่นเก่าจากถังขยะท่ีคนไม่ใช้แล้วแต่สภาพยังดีอยู่ น�ำมาล้างและ
ท�ำความสะอาดเพื่อน�ำไปให้เด็ก ๆในศูนย์ได้มีโอกาสมีของเล่น ส่วนวันเสาร์อาทิตย์ครูเชาว์จะออกรับจ้าง
ท�ำงานแบกหาม ท�ำสวน ท�ำทุกอย่างท่ีคนละแวกนั้นว่าจ้างเพ่ือน�ำเงินไปซื้ออุปกรณ์การเรียนการสอนให้กับ
เด็ก ๆ ในศูนย์ และในบางครั้งเขายังได้น�ำอาหาร ข้าวของเคร่ืองใช้และยารักษาโรคไปมอบให้กับคนเร่ร่อน
จรจัดย่านสะพานพระรามแปดเพื่อประทังชีวิตอีกด้วย
   64   65   66   67   68   69   70   71   72   73   74