Page 40 - พื้นฐานสังคมเเละวัฒนธรรมเขมร
P. 40
1-30 พนื้ ฐานสงั คมและวฒั นธรรมเขมร
1. ประวตั ศิ าสตร์
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ได้ชี้ว่าทั้งคนเขมรกับคนไทย (ในอดีตเรียกว่า “สยาม”) มีความ
สมั พันธ์กนั มานบั แตอ่ ดตี แมว้ า่ ความสมั พันธจ์ ะมีท้ังในทางมิตรและศัตรูกันก็ตาม แตก่ ็กล่าวได้วา่ ทั้งสอง
ได้อยู่ร่วมกันในบริเวณนี้และได้สร้างบ้านแปงเมืองอยู่ในชัยภูมิใกล้กัน หลักฐานท่ีแสดงความสัมพันธไ์ ด้
ท้ังจากทางฝา่ ยเขมรและฝา่ ยไทย หลกั ฐานจากฝ่ายเขมรพบในจารึกภาษาเขมรโบราณหลายหลกั ตง้ั แต่
ครสิ ตศ์ ตวรรษที่ 11 ปรากฏคาวา่ “สยาม” (ในภาษาเขมรออกเสยี งว่า “เซยี ม”) แตท่ ่แี สดงความสมั พันธ์
ไดช้ ัดเจนคอื จารึกท่รี ะเบยี งปราสาทนครวัด พบข้อความว่า “เนะ สฺยากกุ ” หมายถงึ นี่ (ชาว)สยาม และ
“อฺนก ราชการฺยฺย ภาค ปมญฺ เชงฌาล ต นา สฺยา กุก” หมายถึง ข้าราชการฝ่ายทหารพรานแห่งเมือง
เชงฌาล ซ่ึงนาชาวสยาม คาว่า “สฺยา” ในจารึกเขมรโบราณเหล่านี้เป็นช่ือชนชาติ หมายถึง “คนไทย”
ด้วยเหตุที่จารึกเขมรนิยมเอาชื่อชนชาติมาต้ังเป็นชื่อบุคคล (จิตร ภูมิศักด์ิ, 2558: 153) หลังจากจารึก
เขมรสมัยหลังพระนครเปน็ ต้นมาซ่ึงตรงกบั สมัยกรุงศรอี ยุธยา ได้เปลี่ยนอักขรวิธีเขยี นแบบปัจจุบนั โดย
เขยี นวา่ “เสยี ม” มคี วามหมายวา่ “คนไทย” วรรณกรรมเร่ืองเลบกิ นครวดั ได้กล่าวถงึ ชาวสยาม วา่ เป็น
คนชาติหนง่ึ ทีม่ ีสว่ นรว่ มในการสร้างปราสาทนครวัดตามความคดิ ของกวี (ศานติ ภักดคี า, 2552: 133) ดัง
ขอ้ ความทีแ่ ปลไดว้ ่า
เขมรเสียมพม่า มอญลาวลนั ทา
ญวนเกา่ ไกเซนิ เจรญิ เตรียบตรา
หลักฐานจากฝ่ายเขมรทแ่ี สดงถึงสยามหรือไทยยงั ปรากฏในจารึกอกี มาก แต่ทกี่ ล่าวไว้กพ็ อที่จะ
เห็นถึงปฏิสมั พนั ธ์ทางสังคมของคนทงั้ สองได้พอควร
สาหรับหลักฐานจากฝ่ายไทยได้จากสมัยสุโขทัยคือจารึกหลักที่ 2 จารึกวัดศรีชุม ข้อความใน
จารึกแสดงความสัมพันธ์ระหว่างกษัตริย์เมืองศรีโสธรปุระ อันเป็นช่ือเมืองหลวงของอาณาจักรเขมร
โบราณ ดังขอ้ ความว่า
“...พ่อขุนผาเมืองจึงอภิเษกพ่อขุนบางกลางหาวให้เมืองสุโขทัย ให้ทั้งช่ือตนแก่พระสหาย
เรียกชื่อศรีอินทรบดินทราทิตย์ นามเดิมกมรแดงอัญผาเมือง เมื่อก่อนผีฟ้ า เจ้าเมืองศรีโสธรปุระ ให้
ลกู สาวชื่อนางสุขรมหาเทวีกบั ขรรค์ชัยศรี ให้นามเกียรติ์แก่พ่อขนุ ผาเมือง...”
จารกึ วดั ศรชี มุ ดา้ นที่ 1 บรรทดั ท่ี 31-33