Page 45 - พื้นฐานสังคมเเละวัฒนธรรมเขมร
P. 45

สภาพสงั คม 4-35

       สังคมชนบทเติบโตมาโดยตลอดต้ังแต่ปี ค.ศ. 2004 ถึง 2012 คนชนบทได้พัฒนาความรู้ทาง
การเกษตรอย่างมาก ส่งผลให้สินค้าเกษตรท่ีผลิตได้เติบโตโดยเฉล่ียร้อยละ 5.3 ต่อปี และเร่ิมชะลอ
ในช่วงสองสามปีท่ีผ่านมาเหลือร้อยละ 1-2 ต่อปี (World Bank ใน www.worldbank.org สืบค้นเมื่อ
วันที่ 15 มิถุนายน 2561) การเติบโตทางการเกษตรสะท้อนว่าชนบทไม่ได้เป็นเหมือนที่คนทั่วไปคิดว่า
พัฒนาไม่ทันเมือง แต่ชนบทพัฒนาในแนวทางที่ควรเป็น เม่ือบริเวณดังกล่าวเป็นแหล่งสาคัญทาง
การเกษตรยอ่ มขับเคลื่อนเป้าหมายในการพัฒนาต่างจากเมอื ง

       ชนบทเขมรกาลงั เผชญิ ความท้าทายอีกครั้งด้วยการเปลีย่ นแปลงจากเกษตรกรรมแบบครัวเรือน
ที่ใช้แรงงานในครอบครัวสร้างผลผลิตทางการเกษตรไปสู่เกษตรเชิงอุตสาหกรรม (farming industry)
คอื สรา้ งผลผลิตเพ่อื ป้อนโรงงานอุตสาหกรรม เกษตรกรในชนบทพอใจที่ผลผลติ ของตนมีผรู้ ับซ้ือ อย่างไร
ก็ดี ภาวะคุกคามของชนบทคือการลดลงของเกษตรกรและแรงงานภาคเกษตรอย่างมาก ในปี ค.ศ. 1993
แรงงานภาคการเกษตรมีกว่าร้อยละ 80 ของทั้งประเทศ แต่ใน ค.ศ. 2017 เหลือแรงงานภาคการเกษตร

เพียงร้อยละ 40 (RksYgksikmµ rukaç Rbmaj; nigensaT ใน www.maff.gov.kh สืบค้นเมื่อวันที่ 16

มิถุนายน 2561) หากสถานการณ์ยังเป็นอยู่แบบนี้ต่อไปแรงงานภาคการเกษตรจะขาดแคลน และไม่
เพียงพอต่อความต้องการของคนทั้งประเทศ ชนบทกาลังก้าวเข้าสู่ความท้าทายเช่นเดียวกับประเทศ
เพ่ือนบ้าน ท่ีคนในชนบททิ้งที่นา มุ่งเข้าสู่เมืองหลวงหรือเมืองท่องเที่ยว เพื่อเป็นแรงงานในโรงงาน
อุตสาหกรรมหรอื ภาคบริการทไ่ี ด้ค่าตอบแทนแนน่ อน

2. วถิ ชี ีวติ

       คนชนบทยังรักษาวิถีด้ังเดิมไว้มาก โดยมีครอบครัวเป็นสถาบันสาคัญที่สุด ด้วยเหตุว่าหน้าที่
ของคนล้วนถูกกาหนดจากครอบครัว คนชนบทล้วนพ่ึงพางานเกษตรกรรมเป็นหลัก จนกล่าวได้ว่าเป็น
ส่วนหล่อเล้ียงท้ังชีวิตและวิถีโดยรวม ไม่เพียงแต่คนในครอบครัวเดียวกันเท่านั้นที่พึ่งพาอาศัยแรงงาน
คนนอกครอบครัวแต่อยู่ภายในหมู่บ้านเดียวกันหรือใกล้เคียงกันต่างพ่ึงพากันด้วย ลักษณะน้ีเองเป็นวิถี
สาคัญในการดารงอยขู่ องชนบท

       ในแต่ละวันวิถีของคนชนบทต้องทางานในไร่นา ชาวนาที่ปลูกข้าวทางานหนักในเดอื นสิงหาคม
ถึงกันยายน ซ่ึงเป็นช่วงท่ีมีฝนมากทีส่ ุด จึงร่วมแรงรว่ มใจทางานตั้งแต่เช้ามืด ทั้งไถนาและปรับผนื นาให้
พร้อมก่อนเริ่มปลูกข้าว ในท้องนาช่วงนี้จะเต็มไปด้วยน้าที่ท่วมขังอยู่ประมาณเข่า ดินก็อ่อนทาให้เดิน
ลาบาก ทุกคนต้องเร่ิมงานก่อนที่พระอาทิตย์ข้ึน นอกจากสมาชิกในครอบครัวต้องทางานแข่งกับเวลา
แล้ว ยังมีการช่วยเหลือไปมาระหว่างครอบครัวด้วย ในระหว่างการทางานกเ็ ล่าเร่อื งขาขัน หรือร้องเพลง
พื้นบ้านเขมร อันทาให้สมาชิกในครอบครัวที่เพ่ิงเจริญวัยได้พบปะระหว่างกัน การร้องเพลงพ้ืนบ้าน
หยอกลอ้ กันไปมา (David P. Chandler, 1986: 94) เป็นจดุ เร่ิมต้นของการสร้างครอบครัวใหม่
   40   41   42   43   44   45   46   47   48   49   50