Page 28 - การวิจัยทางการวัดและประเมินผลการศึกษา
P. 28

1-18 การวิจัยทางการวัดและประเมินผลการศึกษา

       4.1	 การวิจัยเชิงประวัติศาสตร์ (historical research) เป็นการวิจัยเพ่ือค้นหาข้อเท็จจริงของ
เหตุการณ์ ความเป็นมาของเร่ืองราว หรือทฤษฎีต่าง ๆ ท่ีผ่านมาแล้วในอดีต โดยมีจุดมุ่งหมายท่ีจะบันทึก
อดีตอย่างมีระบบ และมีความเป็นปรนัยจากการรวบรวมประเมินผล ตรวจสอบ และวิเคราะห์เหตุการณ์เพ่ือ
ค้นหาข้อเท็จจริงในอันที่จะน�ำมาสรุปอย่างมีเหตุผล การวิจัยประเภทน้ีต้องอ้างอิงเอกสารและวัตถุโบราณท่ี
มีเหลืออยู่ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วมักไม่ใช้สถิติ สรุปได้ว่าการวิจัยประเภทนี้มุ่งที่จะบอกว่า “เป็นอะไรในอดีต”
ซ่ึงนักวิจัยจะต้องมีความสามารถในการวิเคราะห์และตรวจสอบข้อมูลเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ตรงและเชื่อถือได้
โดยการพิจารณาประเมินว่าข้อมูลหรือหลักฐานท่ีรวบรวมได้น้ันเป็นของจริงของแท้ด้ังเดิมหรือไม่ ซึ่ง
เรียกว่าเป็นการวิพากษ์ภายนอก (external criticism) และพิจารณาประเมินว่าเน้ือหาสาระในเอกสาร
หรือหลักฐานมีความถูกต้องน่าเช่ือถือหรือไม่ ตัวอย่างการวิจัยเร่ือง “ระบบการศึกษาของไทยในสมัย
สมเด็จพระปิยมหาราช”

       4.2	 การวิจยั เชงิ บรรยาย หรอื เชงิ พรรณนา (descriptive research) เป็นการวิจัยที่มุ่งศึกษาค้นคว้า
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เพ่ือบรรยายและท�ำความเข้าใจสภาพ ลักษณะ และ
ความสมั พนั ธข์ องปรากฏการณต์ า่ ง ๆ การวจิ ยั ประเภทนคี้ รอบคลมุ การวจิ ยั ประเภทยอ่ ย ๆ อกี หลายประเภท
เช่น การวิจัยเชิงส�ำรวจ (survey research) การวิจัยสืบย้อนถึงความเป็นสาเหตุ (ex post facto research)
การวิจัยเชิงเปรียบเทียบสาเหตุ (causal comparative research) การศึกษาเฉพาะกรณี (case study)
การวิจัยเชิงสหสัมพันธ์ (correlation research)

       4.3	 การวจิ ยั เชงิ ทดลอง (experimental research) เป็นการวิจัยที่มุ่งศึกษาความสัมพันธ์เชิงสาเหตุ
และผลระหว่างตัวแปรอิสระ (independent variable) หรือตัวแปรจัดกระท�ำ (treatment variable) ที่มี
ผลตอ่ ตวั แปรตาม (dependent variable) ภายใตก้ ารจดั สภาพการทดลองและการควบคมุ ตวั แปรแทรกซอ้ น
(extraneous variable) เช่น ศึกษาค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนสองกลุ่มท่ีเรียนด้วยวิธีการ
สอนสองแบบวา่ แตกตา่ งกนั หรอื ไม่ อยา่ งไร ศกึ ษาเจตคตติ อ่ ทอ้ งถนิ่ ของนกั เรยี นในเมอื งกบั นกั เรยี นในชนบท
ว่าแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร หลังจากอ่านหนังสืออ่านประกอบเรื่องท้องถ่ินของเรา

5. 	การจำ� แนกประเภทของการวจิ ัยตามกรอบเวลาของการเกิดเหตุการณ์

       ประเภทของการวิจัยท่ีจ�ำแนกตามกรอบเวลาของการเกิดเหตุการณ์ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท
ใหญ่ ๆ คือ การวิจัยเชิงประวัติศาสตร์ การวิจัยเชิงปัจจุบัน และการวิจัยเชิงอนาคต ดังน้ี

       5.1	 การวิจัยเชิงประวัติศาสตร์ (historical research) เป็นการวิจัยท่ีศึกษาเก่ียวกับปรากฏการณ์
ทางสังคม หรือเหตุการณ์ในอดีต เพ่ือค้นหาข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ ความเป็นมาของเร่ืองราวต่าง ๆ ใน
อดีต โดยมีจุดมุ่งหมายเพ่ือหาข้อสรุปและท�ำความเข้าใจปรากฏการณ์ในอดีต อันจะน�ำไปสู่การก�ำหนด
ขอบเขตที่จะท�ำนายหรือคาดการณ์ในอนาคต

       5.2	 การวจิ ยั เชงิ ปจั จบุ นั (contemporaneous research) เปน็ การวจิ ยั เพอื่ คน้ หาความจรงิ หรอื สาเหตุ
ของปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน หรือเรียกว่าเป็นการวิจัยเชิงบรรยายน่ันเอง
   23   24   25   26   27   28   29   30   31   32   33